รมว.ดีอีเอส โชว์ปราบบัญชีม้า-ซิมม้า อายัดเงินกว่า 3 พันล้านบาท

รมว.ดีอีเอส โชว์ปราบบัญชีม้า-ซิมม้า อายัดเงินกว่า 3 พันล้านบาท

รมว.ดีอีเอส โชว์ผลงานปราบบัญชีม้า-ซิมม้า 4 เดือนอายัดบัญชีกว่า 3 พันล้าน จ่อระงับ 2.5 ล้านเบอร์ไม่ยืนยันตัวตน ปิดเว็บพนัน 24,352 URL หรือเพิ่ม 37 เท่าตัว พอใจผลอายัดเงินเร็วขึ้น พร้อมเร่งปรับปรุงกฎหมายเพื่อคืนเงินผู้เสียหาย

วันที่ 5 มี.ค. 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2567 ได้มีการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 1/2567 โดยได้หารือ และพิจารณาเรื่องสำคัญ คือ 1. การจัดการ ซิมม้า ดำเนินมาตรการที่สำคัญ ซึ่งมีผลดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ดำเนินการระงับซิมที่มีการโทรออกเกิน 100 ครั้งต่อวัน ตั้งแต่ 9 ธ.ค.2566 - 29 ก.พ. 2567 และระงับการใช้ซิมและให้มายืนยันตัวตน จำนวน 29,446 ซิม โดยมีผู้มายืนยันตัวตน 265 หมายเลข

ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. กำหนดการยืนยันตัวตนของผู้มีซิมเกิน 100 หมายเลข ที่ครบกำหนดยืนยันตัวตนหรือลงทะเบียนให้ถูกต้อง ภายในวันที่ 15 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งมีซิมเข้าข่ายจำนวน 5.07 ล้านหมายเลข มีผู้ไม่มายืนยันตัวตน 2.5 ล้านหมายเลข ซึ่งจะถูกการระงับการให้บริการ ขณะที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ดำเนินการจับกุมผู้ขายซิมม้า 5 ราย และซิมการ์ดจำนวน 4,428 ซิม

สำหรับการจัดการบัญชีม้า ได้ดำเนินมาตรการสำคัญและมีผลดังนี้ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC ) โทร.1441 หรือ AOC 1441 ได้ช่วยอายัดบัญชี ให้ผู้เสียหาย 1 พ.ย. 2566-29 ก.พ. 2567 จำนวน 57,861 บัญชี ขณะที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จับกุมผู้ขายบัญชีม้า 51 ราย พร้อมสมุดบัญชีธนาคาร 1,113 บัญชี ในส่วนของการจัดทำมาตรการป้องกันไม่ให้การเปิดบัญชีใหม่และนำไปใช้ก่ออาชญากรรมหรือนำไปทำเป็นบัญชีม้า ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รับไปหารือต่อ

ด้านการเร่งรัดอายัดเงินบัญชีม้านั้น ข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ช่วงวันที่ 1 พ.ย. 2566-29 ก.พ. 2567 ได้ขออายัดบัญชีม้า วงเงิน 7,097.2 ล้านบาท และอายัดได้ทัน 3,334.1 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 47.0 เพิ่มขึ้นมาก เมื่อเทียบกับก่อนมีศูนย์ AOC 1441 ที่อายัดได้ทันร้อยละ 11 (วันที่ 1 มี.ค. 2565-30 ก.ย. 2566 อายัดทัน 1,316 ล้านบาท จากการขออายัด 11,252 ล้านบาท)

สำหรับการเร่งดำเนินการคืนเงินให้ผู้เสียหายนั้น ปัจจุบันยังมีขั้นตอนมากและใช้เวลานาน ดังนั้นเพื่อให้การคืนเงินเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น จึงได้ขอให้อนุกรรมการด้านกฎหมายเสนอแนวทาง รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว

นอกจากนี้ในส่วนของการปิดกั้น เว็บเพจผิดกฎหมาย ในปีงบประมาณ 2567 ช่วงระยะเวลา 5 เดือน (ต.ค. 2566-ก.พ. 2567) ปิดกั้นไปทั้งสิ้น 57,056 URL/รายการ เพิ่มขึ้น 12.8 เท่า จากปีงบประมาณ 2566 (ต.ค. 2565-ก.พ. 2566) ที่ปิดกั้น 4,449 URL/รายการ

ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2567 ช่วงระยะเวลา 5 เดือน (ต.ค. 2566-ก.พ. 2567) ปิดกั้นเว็บพนันไปทั้งสิ้น 24,352 URL เพิ่มขึ้น 37.6 เท่า จากปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.65-ก.พ.66) ที่ปิดกั้นไปเพียง 648 URL

“เรื่องที่สำคัญของการประชุมคือ การติดตามการปราบปรามบัญชีม้า ซิมม้า และการเร่งรัดการอายัดเงินรวมทั้งการคืนเงินให้ผู้เสียหาย พบว่า ศูนย์ AOC 1441 ตั้งแต่เริ่มดำเนินการได้ช่วยอายัดเงินให้ผู้เสียหายได้มาก ระยะ 4 เดือนที่ผ่านมานี้ (พ.ย.66-ก.พ.67) อายัดทัน 47% และในบางเดือน เช่น ม.ค.67 อายัดได้ทันถึง 57% แต่การคืนเงินให้ผู้เสียหาย ถึงแม้ได้คืนเงินไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่รวดเร็วเท่าที่ควร จึงได้สั่งการ และกำชับให้ เร่งปรับปรุงกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง” นายประเสริฐ ระบุ

รมว.ดีอีเอส โชว์ปราบบัญชีม้า-ซิมม้า อายัดเงินกว่า 3 พันล้านบาท

สำหรับการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 1/2567 นั้น นายประเสริฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ เป็นประธานการประชุม โดยมี นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอีเอส, นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดีอีเอส ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ และคณะกรรมการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย, สำนักงาน กสทช., สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสมาคมธนาคารไทย เข้าร่วมประชุม