'นายกฯ' ดันท่องเที่ยวนครพนม หวัง กระชับสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม

'นายกฯ' ดันท่องเที่ยวนครพนม หวัง กระชับสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม

"นายกฯ" ดันท่องเที่ยวเมืองรองนครพนม หวัง กระชับสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ตั้งเป้านักท่องเที่ยวแห่เข้า 1.2 แสนต่อปี บอกไม่ได้มาใส่เงินอย่างเดียวแต่มาใส่ใจ พร้อมถก สส.ต่อ ยอด ขอโทษนุ่งยีนส์ลงพื้นที่ หยอดสาวๆใส่อ๊าวหย่ายสวยทุกคน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 ก.พ. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนครพนม ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม เพื่อตรวจราชการ จังหวัดนครพนม จังหวัดสกลนคร และจังหวัดอุดรธานี
ระหว่างวันที่ 17 - 19 ก.พ. โดยมี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายเสริมศักดิ์  พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม และภริยา และคณะร่วม

โดยเวลา 10.20 น.  นายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดทะเบียน 1 ขศ 87 กรุงเทพมหานคร มาเยี่ยมชมหมู่บ้านมิตรภาพไทย – เวียดนาม อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์และประชุมประเด็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทย – เวียดนาม ตำบลหนองญาติ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม

โดยทันทีที่มาถึงได้มีบรรดาสาวชาวไทยเวียดนาม สวมชุดอ๊าวหย่าย ซึ่งเป็นชุดประจำชาติชุดหนึ่งของชาวเวียดนามมาต้อนรับ นายกฯยังชมว่าสาวๆที่นี่สวยทุกคน ก่อนที่จะเข้าไปแสดงความเคารพสถานประธานโฮจิมินห์ และลงนามในสมุดเยี่ยม ก่อนที่จะมาปลูกต้นกันเกรา ต้นไม้ประจำจังหวัดนครพนม

\'นายกฯ\' ดันท่องเที่ยวนครพนม หวัง กระชับสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม

อย่างไรก็ตามทันทีที่ลงเครื่องนายกฯได้โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า วันนี้ผมจะไปเยี่ยมด่านศุลกากรนครพนม คุยเรื่องการยกระดับการอำนวยความสะดวก และพัฒนาให้เป็น One Stop Service พร้อมกับหารือแนวทางการยกระดับนครพนมให้เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก และที่ขาดไม่ได้คือ จะไปสักการะพระธาตุพนมเพื่อเป็นสิริมงคล ไว้เจอกันนะครับ

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ประชุมหารือประเด็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทย – เวียดนาม โดยกล่าวในที่ประชุมว่า อนุสรณ์สถานฯบ่งบอกถึงความสัมพันธ์อันดีมายาวนานระหว่างประเทศไทยกับประเทศเวียดนาม และเป็นเรื่องสัมพันธภาพที่ดีของประชาชนของทั้งสองประเทศ และเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์จุดเช็คอินสำคัญของจังหวัดนครพนม ทั้งนี้ทราบดีอยู่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวมา 90,000 คน อยากให้เพิ่มขึ้นไปเป็น 1.2 แสนคน ให้ได้ตามนโยบายรัฐบาลเราชัดเจนเราสนับสนุนเรื่องการท่องเที่ยวเมืองรอง จังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่ได้เปรียบเพราะมีสนามบินถือเป็นจุดที่สามารถให้การเดินทางไปมหาสมุทรทุกอย่างครบถ้วน และได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สนามบินบอกว่าที่นี่มีความพร้อมมากเพราะมีศุลกากร แต่ยังไม่มีเที่ยวบินอินเตอร์มาตรงนี้ เป็นเรื่องอนาคตและเป็นความหวังของรัฐบาลนี้ 

\'นายกฯ\' ดันท่องเที่ยวนครพนม หวัง กระชับสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม

นายเศรษฐากล่าวว่า รมว.วัฒนธรรม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มาดูศักยภาพที่นี่ ซึ่ง สส.ที่นั่งอยู่ก็ให้ความสำคัญกับจังหวัดนครพนม และทุกครั้งที่ตนมีโอกาสพบปะสส.ท่านได้พูดคุยและอัพเดทข้อมูลตลอดเวลาในเรื่อง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ตนได้มีการเดินทางไปประชุมระหว่างอาเซียนบ่อย มีการพบปะผู้นำประเทศ โดยเฉพาะของเวียดนามมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับตน และเป็นคนดำริเรื่องของการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ หลายท่านคงเคยไปยุโรป เวลาบินลงฝรั่งเศสสามารถเข้าอิตาลี สเปนและสวิตได้ อาเซียนเราเป็นภูมิภาคใหญ่ มีประชากร 600 กว่าล้านคน ใหญ่กว่ายุโรป หากเราสามารถทำให้การเดินทางไปมาหาสู่มีการพูดคุยกันเชิงบูรณาการระหว่างผู้นำ ที่สามารถทำให้วีซ่าเข้าออกได้ทุกประเทศจะส่งเสริมการเข้าออกในหลายๆมิติเช่นเวลาบินไปกรุงเทพฯสามารถไปเวียดนามได้หรือเวียดนามมาลงกรุงเทพฯโดยไม่ต้องขอวีซ่า อีก 

นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกัมพูชาลาว มาเลเซีย บรูไน ตรงนี้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ ทั้งนี้ที่ตนต้องพูดตรงนี้ให้ฟังเพราะจังหวัดนครพนมเป็นเมืองรองหลัก ทางด้านสส.ได้พยายามผลักดันให้มีศักยภาพสูงมาโดยตลอด และหวังว่าวันหนึ่งในอนาคตอันใกล้ จากการที่เราสนับสนุนให้จังหวัดนครพนมเป็นเมืองรองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสูง จะยกระดับสนามบินให้เป็นสนามบินอินเตอร์ได้ พี่น้องประชาชนชาวเวียดนามมาเที่ยวเพิ่ม เสริมรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งการท่องเที่ยว การค้า โรงแรม อาหาร ซึ่งจังหวัดนี้ตนเข้าใจว่ามีความพร้อมมาก

นายเศรษฐากล่าวว่า ส่วนสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้ขอความสนับสนุนช่วยเหลือ ในเรื่องของไฟฟ้า ของชำรุด ค่าน้ำ ค่าไฟ ห้องน้ำ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับสถานที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะที่นี่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเน้นย้ำเรื่องความสัมพันธ์ของประเทศเพื่อนบ้านระหว่างไทย เวียดนาม สัปดาห์หน้ากลับไปกรุงเทพฯตนจะเรียนเชิญสส. มาพูดคุยและดูตรงไหนจะทำได้ก่อน รวมถึงงบประมาณที่เหมาะสม เราก็จะจัดมาให้ ขอให้สบายใจในเรื่องนี้ โดยสส.เองก็จะได้เข้ามาคุยกับเจ้าหน้าที่อย่างเหมาะสม เพื่อเข้าใจในสิ่งที่จะทำ 

“ยืนยันว่าให้ความสำคัญกับเมืองรอง และวันนี้ดีใจที่ได้มาเยือนที่นี่ เข้าใจว่าเคยมาหาเสียงแต่ไม่เคยมาดู ซึ่งครั้งนั้นมาเยอะจนจำไม่ได้ว่าตรงไหนบ้าง แต่วันนี้หาเวลาที่จะซึมซับวัฒนธรรมชาวจังหวัดนครพนมและมาดูแล ไม่ใช่มาใส่เงินอย่างเดียว แต่จะมาใส่ใจ และเข้าใจถึงวัฒนธรรมพื้นฐานของจังหวัดนครพนม แม้จะเป็นเสาร์อาทิตย์ก็ตามที แต่ก็มา ทั้งเรื่องวัฒนธรรม อาหาร การดูแลการค้าชายแดน และอีกหลายเรื่องวันนี้เรามากันครบ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายจุลพันธ์ คนจ่ายตังค์ก็มา เจ้านายตัวจริงของพวกเรารับรองได้ว่ามาดูแลอย่างเต็มที่ ขอให้สบายใจได้ตรงนี้ถือเป็นเกียรติและได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น”
นายเศรษฐา กล่าว พร้อมระบุด้วยว่า สาวๆทั้งหลายก็มาต้อนรับแต่งตัวกันสวยทุกคนเลย ตนใส่กางเกงยีนส์มาลงพื้นที่ก็ต้องขอโทษด้วยอาจจะแต่งตัวไม่แมทกับสาวๆทั้งหลายที่แต่งตัวกันมาสวย