รมว.อุตฯบุกโรงงานแวกซ์ กาเบ็จ-จี้กรอ.แก้ปมกากอุตสาหกรรมให้เสร็จต้นปี67
รมว.อุตสาหกรรม ลงพื้นที่โรงงานแวกซ์ กาเบ็จ จ.ราชบุรี จี้ กรอ.แก้ปัญหากากอุตสาหกรรมให้เร็วที่สุด หลังยืดเยื้อมา 20 ปี พร้อมสั่งตรวจสอบของเสียเคมีอีก 13,439 ตัน ให้เสร็จภายใน 29 มี.ค. 2567
น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงาน บริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี หลังจากมีการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าได้รับผลกระทบจากกากอุตสาหกรรมและของเสียเคมีวัตถุตกค้างในพื้นที่ โดยเชิญเจ้าของโรงงานมาชี้แจงปัญหา ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมาร่วมพูดคุย และเชิญทางจังหวัดมาร่วมประชุม นำโดย นายอังกูร ศีลาเทวากูล รองผู้ราชการจังหวัดราชบุรี
โดยมีนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม น.ส.ณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมลงพื้นที่ด้วย
น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวว่า ได้ติดตามปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากการประกอบกิจการโรงงานที่เป็นปัญหายืดเยื้อยาวนานมากกว่า 20 ปี แม้ว่าจะสั่งการตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันยังคงมีกากอุตสาหกรรมและของเสียเคมีวัตถุตกค้างในพื้นที่ของบริษัทฯ กระทบกับประชาชนและชุมชนรอบโรงงานในภาคเกษตรกรรม รวมถึงน้ำอุปโภคและบริโภค
รมว.อุตสาหกรรม กล่าวย้ำว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการแสดงออกให้เห็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมจริงจังและตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนรอบโรงงาน ได้สั่งการกรมโรงงานอุตสาหกรรมเร่งแก้ไขปัญหาจากกากอุตสาหกรรมที่เป็นมลพิษต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามขั้นตอน และเร่งรัดให้ดำเนินการโดยเร็ว เพราะเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน กระทบภาคประชาชนโดยตรง
นอกจากนั้น ให้ติดตามการดำเนินการของกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับการอนุมัติงบประมาณงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 59.8 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการจ้างเหมาบริการกำจัด/บำบัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียเคมีวัตถุที่ตกค้างในพื้นที่ของบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด พร้อมกำชับตรวจสอบพื้นที่
ตลอดจนสุ่มเก็บและวิเคราะห์ตัวอย่าง จำนวน 54 ตัวอย่าง ประกอบด้วยของเหลว 14 ตัวอย่าง และของแข็ง 40 ตัวอย่างเสร็จเป็นที่เรียบร้อย จึงสั่งการให้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมตรวจกำกับการรวบรวม ขนถ่าย ขนส่ง และบำบัด/กำจัดกากอุตสาหกรรมและของเสียเคมีวัตถุจำนวน 13,439 ตัน ให้เป็นไปตามหลักวิชาการ ให้แล้วเสร็จตามสัญญาคือภายในวันที่ 29 มีนาคม 2567
นายศุภเวศ ทองประยูร ผู้อำนวยการสำนักน้ำบาดาล เขต 8 (ราชบุรี) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในด้านแผนการฟื้นฟูเยียวยาด้านประปาและทรัพยากรน้ำ ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้เร่งเตรียมแผนโครงการศึกษาฟื้นฟูทรัพยากรน้ำบาดาลที่ปนเปื้อนสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงโรงงาน และโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการของโรงงาน คาดว่าจะสามารถดำเนินการครอบคลุมได้ในพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 2 ของตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี