บก.ปคบ.ตรวจยึดปุ๋ยปลอม 365 ตัน มูลค่านับ 10 ล้านบาท

บก.ปคบ.ตรวจยึดปุ๋ยปลอม 365 ตัน มูลค่านับ 10 ล้านบาท

“บก.ปคบ.” ผนึก “ก.เกษตรฯ” เปิดปฏิบัติทลายแหล่งผลิต “ปุ๋ยปลอม” ที่บางปะอิน อยุธยา ตรวจยึด 365 ตัน มูลค่าความเสียหายนับ 10 ล้านบ. เผยระบาดหนัก เหตุปุ๋ยแพง

พ.ต.ท.พงษ์พนา กรีฑา สว.กก.2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 ได้นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปคบ. พร้อมกำลัง ชป.4 กก.2 บก.ปคบ. ร่วมกับ พนักงานเจ้าหน้าที่กลุ่มสารวัตรเกษตร สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร นำโดย นายธรรมรัตน์ ทองมี ผู้อำนวยการกลุ่มสารวัตรเกษตร พนักงานเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร กรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งที่ต้องสงสัยผลิตปุ๋ยปลอมตามที่ กก.2 บก.ปคบ.ได้สืบทราบมา ที่บริษัท ฟลอราเทค จำกัด เลขที่ 32 โกดังหมายเลข 10 ม.12 ถ.บางปะอิน-บางไทร ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

พ.ต.ท.พงษ์พนา เปิดเผยต่อว่า จากการขยายผลกรณีที่ได้รับแจ้งว่า มีปุ๋ยปลอมขายตามร้านค้าเกษตรกรทางภาคตะวันออก ทางภาคใต้ และโฆษณาขายตามเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นความผิดฐานลักลอบจำหน่าย ผลิต ปุ๋ยเคมี ตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย พ.ศ.2518 และแก้ไขเพิ่มเติม จึงได้สืบสวนหาข่าวก่อนเข้าตรวจสอบ ที่บริษัทฟลอราเทค จำกัด พบ นายหนึ่ง (นามสมมุติ) แสดงตนเป็นผู้จัดการบริษัทฯ ก่อนนำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบของกลางที่เข้าข่ายเป็นปุ๋ยปลอม 7,300 กระสอบ น้ำหนักรวม 3.65 แสนกิโลกรัม (กก.) หรือ 365 ตัน มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
 

พ.ต.ท.พงษ์พนา กล่าวต่อว่า ของกลางที่ตรวจพบ ประกอบด้วย 1.ผลิตภัณฑ์ ปุ๋ยเคมี เอ็น พี ซี 16-16-16 ตรา ม้ายูนิคอร์น ข้างกระสอบมีเลขทะเบียนปุ๋ยเคมีเลขที่ 1305/2563 กระสอบสี ขาว-เขียว น้ำหนักสุทธิ 50 กิโลกรัม จำนวน 2,502 กระสอบ ปริมาณรวม 125,100 กก., 2. ผลิตภัณฑ์ ปุ๋ยเคมี เอ็น พี ซี 12-12-17 ตรา ม้ายูนิคอร์น ข้างกระสอบมีเลขทะเบียนปุ๋ยเคมีเลขที่ 2733/2563 

กระสอบสี ขาว-ส้ม จำนวน 1,319 กระสอบ ปริมาณรวม 65,950 กก., 3.ผลิตภัณฑ์ ปุ๋ยเคมี เอ็น พี ซี 8-24-24 ตรา ม้ายูนิคอร์น ข้างกระสอบมีเลขทะเบียนปุ๋ยเคมีเลขที่ 763/2563 กระสอบสี ขาว-แดง จำนวน 3,479 กระสอบ ปริมาณ 173,950 กก. นอกจากนี้ยังพบกระสอบเปล่าที่เตรียมใช้บรรจุปุ๋ยอีก 5,010 กระสอบ
 

พ.ต.ท.พงษ์พนา กล่าวด้วยว่า เนื่องจากผลิตภัณฑ์ปุ๋ยปลอมดังกล่าวที่ตรวจพบต้องสงสัยว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย พ.ศ.2518 และแก้ไขเพิ่มเติม พนักงานเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร จึงได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ตรวจพบเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ที่ กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

โดยเจ้าพนักงานจะได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิด และผู้กระทำผิดอื่นที่สอบสวนถึง จนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามกฎหมายต่อไป สำหรับฐานความผิดห้ามมิให้ผู้ใดผลิต เพื่อการค้า ขาย หรือนำเข้าปุ๋ยปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี และปรับตั้งแต่ 1.2-4 แสนบาท ตามพระราชบัญญัติปุ๋ย มาตรา 30 (1) และมาตรา 63

“ปัจจุบัน ปุ๋ยมีราคาแพง พร้อมกลับเกษตรกรชาวไร่ ชาวสวนก็ต้องการปุ๋ยเพื่อใช้ในการทำสวน ทำไร่ และต้องได้รับปุ๋ยที่มีคุณภาพ ดังนั้นจึงอยากให้ชาวเกษตรกรชื้อปุ๋ยที่มีคุณภาพ และมาตรฐานจากกรมวิชาการเกษตร โดยการสังเกตดูเลขทะเบียนที่ติดอยู่กับกระสอบปุ๋ยว่า ถูกต้องตามที่กรมวิชาการเกษตรออกให้หรือไม่ หากเกษตรพบเห็นปุ๋ยปลอมสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนคุ้มครองผู้บริโภค 1135” พ.ต.ท.พงษ์พนา ระบุ