กทม. จ่อรื้อแนวทางขออนุญาตก่อสร้าง แก้ด่วน 4 ปม ลดขั้นตอน-ลดทุจริต

กทม. จ่อรื้อแนวทางขออนุญาตก่อสร้าง แก้ด่วน 4 ปม ลดขั้นตอน-ลดทุจริต

กทม.ถกทบทวนขั้นตอนและกระบวนการขออนุญาตก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กฎ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตก่อสร้าง หวังลดขั้นตอน ลดการใช้ดุลยพินิจ ลดปัญหาทุจริต หนุนในออนไลน์

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการปรับปรุงกระบวนการขออนุญาตก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้หารือถึงการทบทวนขั้นตอนและกระบวนการขออนุญาตก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงกฎ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตก่อสร้าง เพื่อลดขั้นตอนในการดำเนินการ และลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่

โดยจะเพิ่มความโปร่งใสในการปฏิบัติงานให้บรรลุผลอย่างรวดเร็ว เป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ประชาชน และเป็นประโยชน์ต่อกรุงเทพมหานคร โดยหวังว่าการยื่นขออนุญาตก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ด้วยระบบออนไลน์จะเห็นผลเป็นรูปธรรมและประชาชนใช้บริการอย่างแพร่หลายภายในสิ้นปี 2566 นี้ 

TDRI เสนอเร่งแก้ด่วน 4 เรื่อง

ทั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบผลการศึกษาของ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) มีข้อเสนอแนะถึงการอำนวยความสะดวกในการขอใบอนุญาตก่อสร้างที่มีปัญหา แบ่งเป็นปัญหา ดังนี้ 

1.ไม่เร็ว 

คือ แหล่งข้อมูลไม่อำนวยในการหาข้อมูลการขออนุญาตระยะเวลาในการพิจารณาแบบแปลนนานและมีการแก้ไขหลายครั้ง รวมถึงจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ซึ่งปัจจุบันกทม.แก้ปัญหาโดยดำเนินการเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายควบคุมอาคาร ตามช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์สำนักงานควบคุมอาคาร ศูนย์วิชาการให้ความรู้ประชาชนด้านกฎหมายอาคาร เช่น คู่มือการปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคาร ฉบับประชาชน เผยแพร่แก่ประชาชน 

โดยมีรายละเอียด เช่น ข้อกฎหมายที่ ประชาชนมักเข้าใจไม่ถูกต้อง สรุปรายละเอียดกฎหมายให้เข้าใจง่าย รวมถึงปรับปรุงปรับปรุงข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง ควบคุมอาคารฉบับใหม่ ให้มีการแบ่งจำนวนวันในการพิจราณาให้เหมาะสมกับประเภทและขนาดของอาคาร รวมทั้งศึกษาการปรับแก้ไขพรบ.ควบคุมอาคารให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นสามารถให้ผู้ตรวจเอกชนกระทำการตามกฎหมาย และควบคุมอาคารแทนนายช่างนายตรวจได้

2. ไม่ชัด 

คือ กฎหมายขาดความชัดเจนทำให้เกิดการตีความที่แตกต่างกันและใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ กทม.จึงดำเนินการจัดทำคู่มือการปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคารฉบับประชาชน เผยแพร่ประชาชน จัดทำฐานข้อมูลความกว้างเขตทาง และลำรางสาธารณะ รวมถึงปรับปรุงข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง ควบคุมอาคารฉบับใหม่ เช่น การ ออกแบบอาคารด้านต่าง ๆ ให้ใช้ตามมาตรฐานที่น่าเชื่อถือได้นอกจากต้องใช้ตามกฎกระทรวง

3.ไม่เชื่อม 

คือ การขาดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ทำให้เกิดภาระต้นทุนแก่ประชาชนในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ด้วยตนเอง กทม.จึงดำเนินการระบบการยื่นขออนุญาตออนไลน์ BMA OSS ที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ดังนี้

สํานักงาน ก.พ.ร. (Digital ID และ Biz Portal) 

กรมการปกครอง (ทะเบียนบ้าน ทะเบียนบัตร) 

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD ID, หนังสือรับรองนิติบุคคล) 

กรมที่ดิน (ฐานข้อมูลแปลงที่ดินและโฉนดที่ดิน) 

สภาวิศวกร (ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรควบคุม) 

การประปานครหลวง (การขอมิเตอร์ประปา) 

การไฟฟ้านครหลวง สภาสถานปนิกอยู่ระหว่างรอหนังสือตอบกลับ

4. ไม่ทันสมัย 

คือ ความไม่ทันสมัยของกระบวนการขออนุญาตก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ 

ปัญหาการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการขออนุญาต 

ปัญหาการยื่นขออนุญาตผ่านช่องทางออนไลน์ กทม.จึงดำเนินการเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายควบคุมอาคารตามช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์สำนักงานควบคุมอาคาร ศูนย์วิชาการให้ความรู้ประชาชนด้านกฎหมายอาคาร รวมถึงศึกษาการนําระบบเทคโนโลยี BIM (Building Information Modeling) มาใช้ในการตรวจแบบแปลนอาคาร

ลดการใช้ดุลยพินิจเจ้าหน้าที่

ที่ประชุมได้แจ้งถึงคำสั่งคณะทำงานขับเคลื่อนการปรับปรุงกระบวนการขออนุญาตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และอำนาจหน้าที่ของคณะทำงานให้ที่ประชุมทราบ โดยให้คณะทำงานมีอำนาจหน้าที่ พิจารณา ตรวจสอบ และให้ข้อเสนอแนะในการแก้ไข ปรับปรุงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนและกระบวนการขออนุญาตก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 

ทั้งนี้เพื่อลดขั้นตอนในการดำเนินการเพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ประชาชน หรือลดการใช้ดุลยพินิจเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน รวมถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตก่อสร้าง รวมถึงเชิญเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ให้ข้อมูล หรือประสานหน่วยงานหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้จัดส่งเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณา 

กิโยติน กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ที่ประชุมยังได้พิจารณาสรุปรายงานผลการศึกษาโครงการกิโยติน กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตก่อสร้างของกรุงเทพมหานคร ที่จัดทำ โดยมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) โดยมีข้อแนะนำแนวปฏิบัติของธนาคารโลก ประกอบด้วย 

1. กฎหมาย กฎระเบียบต้องมีความชัดเจน มีความทันสมัย ชัดเจนและไม่ซ้ำซ้อนกัน 

2. การเข้าถึงข้อมูลทั้งกฎระเบียบ ขั้นตอนกระบวนการพิจารณาอนุญาตต้องมีความโปร่งใส ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลถือเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่จะช่วยลดการทุจริต ลดการใช้ดุลยพินิจและการปฏิบัติงานที่ไม่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่ผู้ออกใบอนุญาต 

3. คุณภาพความปลอดภัยของอาคารต้องมีการควบคุมดูแล ซึ่งรวมถึงกลไกการกำกับดูแลทั้งก่อนการก่อสร้าง ระหว่างการก่อสร้าง และหลังการก่อสร้าง ในหลายประเทศโดยนายตรวจเอกชนทำหน้าที่ควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของโครงสร้างอาคารเพื่อแบ่งเบาภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ 

4. การประเมินโครงการก่อสร้างควรแยกตามประเภทความเสี่ยงอาคารแต่ละประเภท (Risk Based Approach) โดยโครงการก่อสร้างอาคารที่มีความเสี่ยงต่ำ เอกสารและรายการที่ใช้ในการพิจารณาอนุมัติก่อสร้างควรจะมีจํานวนน้อยกว่า โครงการก่อสร้างที่มีความซับซ้อนหรือมีความเสี่ยงสูง 

5. การตั้งหน่วยงานให้บริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ที่ประชาชนสามารถยื่นเรื่องขออนุญาตก่อสร้างในที่เดียว โดย OSC จะทำหน้าที่ประสานการขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตก่อสร้างทั้งหมด ซึ่งกทม.จะนำข้อแนะนำดังกล่าวไปดำเนินการต่อไป