สั่งเพิ่มช่อง ตม. 60 จุด รองรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น

สั่งเพิ่มช่อง ตม. 60 จุด รองรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น

กระทรวงคมนาคม สั่งปรับพื้นที่สร้างเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มอีก 60 เคาน์เตอร์ ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน รองรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น ด้านปัญหาขนถ่ายสัมภาระ พบดำเนินการรวดเร็วขึ้น เล็งเพิ่มผู้ประกอบการอีกรายเข้าให้บริการ

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังตรวจเยี่ยม และ ติดตามข้อสั่งการ การอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ภายหลังสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดประเทศ และ ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ในเดือนมกราคม 2566 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีปริมาณเที่ยวบิน 25,690 เที่ยวบิน เฉลี่ย 829 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 84% 

โดยสารจำนวน 4.3 ล้านคน เฉลี่ย 138,287 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 317% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 โดยในจำนวนนี้เป็นเที่ยวบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 2,000 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 80 เที่ยวบินต่อวัน มีผู้โดยสาร จำนวน 255,000 คน หรือเฉลี่ย 11,000 คนต่อวัน
 

สำหรับปัญหาที่เคยพบก่อนหน้านี้ อย่างปัญหาด้าน ความแออัดบริเวณจุดตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ทำการปรับปรุงแก้ไข ทำให้ปัจจุบันสามารถการรองรับการตรวจคนเข้าเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้ รวมถึงปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ได้สั่งการให้ ทอท.ขยายพื้นที่จุดตรวจคนเข้าเมือง โดยปรับพื้นที่ 2 จุด คือ พื้นที่สวนเดิม ขนาด 800 ตารางเมตร และบริเวณจุดด่านตรวจคนเข้าเมืองเดิม

โดยจะเพิ่มพื้นที่สร้างเคาน์เตอร์ได้อีก 60 เคาน์เตอร์ ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจคนเข้าเมืองได้ชั่วโมงละ 3000 คน
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทำทีโออาร์หาผู้รับจ้างมาปรับปรุงพื้นที่และก่อสร้างเคาน์เตอร์
 

ขณะที่การแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้านั้น ก็พบว่าปัจจุบันลดลงเหลือไม่เกิน 15 เที่ยวบินต่อวัน ใน30 นาที จาก 50 เที่ยวบิน โดยการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนนั้น บริษัทผู้ให้บริการภาคพื้น ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้ง 2 ราย มีการเพิ่มจำนวนบุคลากรและอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากการเปิดประเทศ รวมทั้ง ทอท. ได้ขยายระยะเวลาให้บางสายการบิน บริการภาคพื้นด้วยตนเอง เป็นการชั่วคราว

สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ทอท. อยู่ระหว่างการสรรหาผู้ให้บริการภาคพื้นรายที่ 3 เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตได้อย่างยั่งยืน