นวัตกรรมศึกษา กุญแจ สู่ "การเรียนรู้" ของเยาวชนไทยสู่อนาคต 

         มูลนิธิเอเชีย ภายใต้การสนับสนุนของสถานทูตออสเตรเลีย, มูลนิธิอานันทมหิดล และความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท., สำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้น ฐาน(สพฐ.) และกรุงเทพมหานคร  ซึ่งร่วมดำเนินโครงการโรงเรียนดีมีทุกที่  

 

         ดร.รัตนา แซ่เล้า เจ้าหน้าที่โครงการอาวุโส มูลนิธิเอเชีย หัวหน้าจัดทำโครงการฯ กล่าวว่าจากการดำเนินโครงการนำร่อง 6 จังหวัด ล่าสุดมีผลการทำโครงการที่ประสบความสำเร็จ ผ่านการเปิดโอกาสให้นักเรียน ได้เกิดการเรียนรู้สร้างสรรค์  คือ โรงเรียน วัดถนนกระเพรา จ.ระยอง เป็นตัวอย่างที่ดีของโรงเรียนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ที่ได้นำความอิสระในการสร้างหลักสูตรที่ผสมผสานระหว่างโลกาภิวัฒน์กับภูมิปัญญาท้องถิ่น ปลดล็อคข้อจำกัดด้านการศึกษา ทำให้นักเรียนสนใจการเรียนรู้มากขึ้น   ในโรงเรียนมีถึง 6 หลักสูตรเพื่อนักเรียน 6 ชั้นปี ได้ทำให้เกิดนวัตกรน้อย ไม่เกิดความเบื่อหน่าย มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ในชุมชน และไม่ดูถูกอาชีพของผู้ปกครอง รวมถึงอาจจะค้นคว้าหาสิ่งใหม่ หรือแก้ไขปัญหาในการประกอบอาชีพของครอบครัวได้

 

          "หัวใจหลัก ยับเป็นการศึกษาที่มีเด็กเป็นศูนย์กลาง ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่านักเรียนมีการใช้หลักสูตรสมรรถนะ คือทักษะที่นักเรียนควรจะได้จากการเรียนรู้  รวมถึงนวัตกรรม คือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การค้นพบ ค้นหา ค้นหว้า รวมถึงฝักใฝ่ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน และบูรณาการ”ดร.รัตนา กล่าว

       ด้าน นายธงชัย มั่นคง ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วน จ.ระยอง กล่าวว่ ตามแผนยุทธศาสตร์ และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดให้พื้นที่ได้สร้างกรอบหลักสูตรของ จ.ระยอง หรือที่เรียกว่า Rayong Marco ขึ้นมา โดยเน้นความต้องการหรือการพัฒนาใน 5 ด้านคือ  ผลิตกำลังคนให้สอดคล้องกับการพัฒนาเมือง , รู้รากเหง้า , เรียนรู้เข้าใจในทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ และการใช้ให้เกิดประโยชน์, จัดการถิ่นฐานให้น่าอยู่ และ เรียนรู้เรื่องอาชีพ การทำงานสร้างรายได้ ซึ่งเป็นกรอบหลักสูตรที่ผูกกับ   10 สมรรถนะของสภาการศึกษา การเรียนจะอยู่ในเนื้อหา 5 ด้าน สิ่งที่นักเรียนจะได้รับคือเรื่องสมรรถนะ ซึ่งเป็นการเรียนที่ให้เด็กทำได้ตามแบบ และทำเป็นคือสามารถประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตจริง 

           "เมื่อมีนวัตกรรมการศึกษาทำให้เกิดความอิสระในการทำงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้จึงเปลี่ยนไปจากเดิมที่ใช้วิชาหรือตำรา เป็นการใช้ชีวิตของเด็กหรือบริบทในชุมชนเป็นตัวตั้ง ที่องค์ความรู้ก็จะแทรกเข้ามา รวมถึงการเปิดโอกาสให้โรงเรียนได้จัดซื้อสื่อตำราเรียนที่ตรงกับความต้องการของตัวเองได้" นายธงชัย กล่าว

 

              ทางด้านน.ส.ปวีณา พุ่มพวง ผู้อำนวยการ รร.วัดถนนกะเพรา จ.ระยอง  กล่าวว่า รร.มีจุดเน้นในการจัดการศึกษาว่าโรงเรียนสร้างสรรค์ นวัตกรน้อยสู่สากล มุ่งหวังจะให้นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ รู้จัดต่อยอดอาชีพในชุมชน โดยผ่านกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการในห้องเรียน และผ่านทางอาชีพของผู้ปกครอง ซึ่งในเรื่องอาชีพนี้เป็นหนึ่งในทักษะที่ทาง สพฐ.ได้สนับสนุน นอกเหนือจากทักษะวิชาการและทักษะชีวิต และแหล่งเรียนรู้ภายในชุมชนของเราก็มีมากมาย เลยได้นำจุดนี้มาใช้ประโยชน์ในเรื่องการเรียนการสอน

            "พร้อมกับเชื่อมโยงต่อในทุกวิชาเข้าไปด้วยกัน จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์เล็กๆ ที่อาจไม่เหมือนกับในชุมชน ถือเป็นการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา เท่าที่ทำได้ในระดับวัยของเขา ซึ่งทักษะแบบนี้เมื่อโตขึ้นจะเรียกว่าสมรรถนะของผู้ประกอบการ หรือนวัตกรน้อย ที่จะนำไปใช้ในการแก้ปัญหา หรือต่อยอดการดำเนินชีวิตในอนาคตได้” น.ส.ปวีณา กล่าว

 

             สำหรับ โดยโครงการโรงเรียนดีมีทุกที่  มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดพลังบวกในสังคม และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook : โรงเรียนดีมีทุกที่ หรือเข้าชมจาก Youtube รายการหนึ่งในพระราชดำริ ตอนโรงเรียนดีมีทุกที่ พื้นที่นวัตกรรม เพาะพันธุ์ปัญญา.