"แทนไท" ฟ้องหมิ่นประมาท "เอกภพ เพจสายไหมต้องรอด" ปมประมูลทะเบียนรถเลขสวย

"แทนไท" ฟ้องหมิ่นประมาท "เอกภพ เพจสายไหมต้องรอด" ปมประมูลทะเบียนรถเลขสวย

"แทนไท ณรงค์กูล" ฟ้องหมิ่นประมาท "เอกภพ เพจสายไหมต้องรอด" ปม ประมูลทะเบียนรถเลขสวย ทุบสถิติ เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 กรมการขนส่งทางบก จัดงานประมูลทะเบียนรถยนต์เลขสวย หมวดอักษรพิเศษ "9 กก ก้าวหน้ามหามงคล" ซึ่งมี บริษัท ไททัน แคปปิตอลกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด โดยมีนายแทนไท ณรงค์กูล เป็นผู้ชนะประมูลหมายเลข 9 กก 9999 ที่สร้างสถิติราคาสูงสุดที่ 45,090,000 บาท เป็นประวัติศาสตร์แห่งการประมูล

หลังจากนั้น เพจสายไหมต้องรอด ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "เดี๋ยวนี้เจ้าของเวปพนันเขาหันมาเก็บสะสมป้ายทะเบียนแทนเงินสดกันแล้วเหรอ ปปง.-สตช. ทำอะไรกันอยู่ ฝากบิ๊กเด่น-บิ๊กโจ๊กตรวจสอบที สายไหมต้องรอดพร้อมชี้เป้า"

ล่าสุด นายแทนไท ณรงค์กูล นักธุรกิจหนุ่ม และไอดอลคริปโตชื่อดัง เป็นโจทก์ยื่นคำฟ้องคดีหมายเลขดำที่ 3095/2565 ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2565 โดยมี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา จากกรณีที่นายเอกภพ ได้โพสต์ข้อความในเพจ "สายไหมต้องรอด" และให้สัมภาษณ์ในสื่อต่าง ๆ โดยกล่าวหา นายแทนไท ณรงค์กูล ผู้ชนะการประมูลทะเบียนรถ 9 กก 9999 ของกรมการขนส่งทางบก 
 

โดยแหล่งข่าวระบุว่า นายแทนไท ได้เรียกค่าเสียหายทั้งทางแพ่งและทางอาญากับนายเอกภพ ในฐานทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดและเสื่อมเสียชื่อเสียง รวมถึงทำให้ธุรกิจเสียหาย เป็นเงิน 100 ล้านบาทในคดีแรก และคาดว่าจะมีการฟ้องเพิ่มเติมอีกหลายคดี ทั้งทางแพ่งและอาญา ทั้งในนามส่วนตัว และบริษัทอีกด้วย

สำหรับ นายแทนไท ถือเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่น่าจับตา เป็นเจ้าของบริษัทณรงค์กูล เวิลด์ จำกัด รับดูแลการตลาดทางออนไลน์ นอกจากนี้ ยังมีค่ายหนัง "แทนไทฟิล์ม" ในนาม บริษัท แทนไทฟิล์ม โปรดักชั่น จำกัด โดยตอนนั้นได้เปิดกล้องภาพยนตร์เรื่อง "4 คิงส์ อาชีวะยุค 90s" โดยมีพระเอกสุดเท่ห์ เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ, โจ๊ก – อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ, จ๋าย – อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี, ภูมิ รังษีธนานนท์ ก่อนที่ทางผู้จัดจะได้ทำหนัง 4 คิงส์ อาชีวะยุค 90s ในนาม บ.เนรมิตรหนัง ฟิล์ม

หลังจากนั้น นายแทนไท ได้ตั้งบริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด โดยเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ด้วยทุนจดทะเบียนถึง 505 ล้านบาท (ชำระเต็มจำนวน) มาจากการทำกำไรจากการลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ปัจจุบันมีธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยทุนจดทะเบียนเพิ่มกว่า 900 ล้านบาท (ชำระเต็ม) 
 

โดยปัจจุบันมีธุรกิจในเครือรวม 10 บริษัท ได้แก่ บริษัท จัสท์คาร์ จำกัด, บริษัท จัสท์โลน จำกัด, บริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด, บริษัท เนรมิตรหนัง ฟิล์ม จำกัด, บริษัท ริชชิช จำกัด, บริษัท ญามี่ ไลฟ์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ฉายแสง แอดเวนเจอร์ จำกัด, บริษัท รีพับลิค ออฟ เลเจ้นด์ จำกัด และบริษัท วงษ์พาณิชย์รีไซเคิล ระยอง จำกัด

นอกจากนี้ ยังได้ซื้อกิจการ บริษัท เนรมิตรหนัง ฟิล์ม จำกัด โดยได้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 100 ล้านบาท (ชำระเต็ม)ให้กับเนรมิตรหนัง ฟิล์ม รวมเป็น 115 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายในการผลิตภาพยนตร์เพื่อบุกตลาดบันเทิงทั่วโลก และพร้อมลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต พร้อมประกาศจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท เพื่อสานต่อโปรเจกต์ภาพยนตร์กว่า 10 เรื่อง ที่จะออกฉายทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง พร้อมเปิดประสบการณ์การดูหนังผ่านเทคโนโลยี VR เพื่อให้คนทั่วโลกได้เข้ามาชมภาพยนตร์ใน Metaverse อีกด้วย

อีกทั้ง ยังพร้อมต่อยอดความสำเร็จของหนังเรื่อง 4Kings หลังจากภาคแรกที่กวาดรายได้ถล่มทลาย ไปถึง 170 ล้านบาท บริษัทฯ จึงมีแผนที่จะสร้างภาค 2 พร้อมเข้าฉายในปี 2566