'ทองคำ' สาปคนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ | ไสว บุญมา

'ทองคำ' สาปคนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ | ไสว บุญมา

เหตุการณ์โจรปล้นร้านขายทองถูกเจ้าของยิงตายที่จังหวัดตากเมื่อไม่กี่วันมานี้เป็นผลจากคำสาปของทองคำที่มนุษย์นำมาเก็บไว้

ทองคำมีคำสาปจากต้นน้ำถึงปลายน้ำซึ่งปรากฏให้เห็นเป็นประจำตลอดประวัติศาสตร์ แต่มนุษยชาติยังไม่ฉลาดพอ หรือปราศจากกิเลสที่จะเรียนรู้และเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสียหายจากคำสาปดังกล่าว

การถูกยิงตายในการปล้นเป็นผลจากคำสาปจำพวกปลายน้ำซึ่งปรากฏให้เห็นอยู่เป็นนิจทั้งในเมืองไทยและในต่างประเทศ  ผลจากคำสาปจำพวกนี้มักเป็นข่าวใหญ่

ผลจากคำสาปจำพวกต้นน้ำนาน ๆ จึงจะเป็นข่าวสักครั้ง ส่วนผลจากคำสาปจำพวกกลางน้ำตามธรรมดาไม่เป็นข่าว ทั้งนี้เพราะโดยทั่วไปมนุษย์เราไม่ตระหนักด้วยซ้ำว่ากำลังต้องคำสาป 

'ทองคำ' สาปคนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ | ไสว บุญมา

คำสาปจำพวกต้นน้ำที่ปรากฏในเมืองไทยและเป็นข่าวใหญ่คงได้แก่กรณีของเหมืองทองคำอัครา การทำเหมืองมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของคนในพื้นที่ แต่การทำเหมืองยังดำเนินต่อไปเนื่องจากถูกประเมินว่าค่าตอบแทนในรูปของมูลค่าของทองคำและอื่น ๆ สูงกว่าค่าเสียหายที่เกิดขึ้น

สิ่งที่ดูจะไม่มีใครให้ความใส่ใจในที่นี้คือ มูลค่าของทองคำนั้นเป็นเพียงสมมติ นั่นคือ มนุษย์เราตกลงกันว่ามันมีค่าที่แสดงออกมาเป็นเงินตราเท่านั้นเท่านี้ มนุษย์ส่วนใหญ่ดูจะไม่ตระหนักด้วยซ้ำว่าเงินตรานั้นก็เป็นสมมติเช่นกัน

คำสาปจำพวกต้นน้ำที่ปรากฏเป็นข่าวสด ๆ ในช่วงนี้ได้แก่การลักลอบทำเหมืองแร่ทองคำอย่างแพร่หลายในอุทยานแห่งชาติเวเนซุเอลา นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของป่าดงดิบในลุ่มแม่น้ำแอมะซอนที่มีความสำคัญยิ่งต่อระบบภูมิอากาศของโลกแล้ว

อุทยานแห่งนั้นยังครอบคลุมภูเขาที่มีสัตว์เฉพาะถิ่นและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพื้นเมืองดั้งเดิมอีกด้วย เนื่องจากพื้นที่นั้นเข้าถึงยากมาก 

กิจกรรมที่กำลังเกิดขึ้นจึงไม่มีใครเห็นจนกระทั่งสื่อนำเรื่องราวมาเสนอพร้อมภาพทางดาวเทียมที่แสดงให้เห็นถึงความเสียหายใหญ่หลวงต่อสิ่งแวดล้อม รัฐบาลยังไม่ยอมรับ ทำให้เกิดการคาดเดากันว่าพนักงานของรัฐมีส่วนได้ส่วนเสียในกิจการ

อย่างไรก็ดี การทำเหมืองแนวนี้ในละตินอเมริกามิได้เกิดขึ้นในเวเนซุเอลาเท่านั้น หากยังเกิดขึ้นในอีกหลายประเทศรวมทั้งกายอานาและบราซิลซึ่งคอลัมน์นี้เคยนำมาเสนอแล้ว  

'ทองคำ' สาปคนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ | ไสว บุญมา

สำหรับด้านคำสาปจำพวกกลางน้ำที่โดยทั่วไปมักไม่มีใครนึกถึงนั้นเกี่ยวกับทองคำที่ไม่ได้นำไปทำประโยชน์โดยตรงจำพวกทำส่วนประกอบของอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ (ประมาณ 2 หมื่นตัน) หากอยู่ในรูปของเครื่องประดับ (1 แสนตัน) และทองคำแท่ง (8 หมื่นตัน) จากทองคำที่นำออกมาจากธรรมชาติแล้วราว 2 แสนตัน  

การมีเครื่องประดับทองคำทำให้เจ้าของต้องกังวลเรื่องการถูกปล้นถูกจี้ ต้องกระสับกระส่าย ต้องใช้ทรัพย์ในการเก็บรักษา ทว่าเจ้าของมักไม่ตระหนักสักนิดว่ามูลค่าของทองคำนั้นเป็นเพียงการสมมติขึ้นและตนกำลังต้องคำสาปของมัน

ส่วนในด้านการนำไปทำเป็นทองคำแท่ง นอกจากจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในกระบวนการทำแล้ว ยังจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสร้าง หรือเช่าที่เก็บรักษา ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่องไปแบบไม่มีที่สิ้นสุดรวมทั้งค่าไฟฟ้าและค่าจ้างแรงงานของยามรักษาความปลอดภัย

ส่วนผู้ที่มีทองคำแท่งเก็บไว้ที่บ้านก็ถูปสาปเช่นเดียวกันกับผู้เก็บเครื่องประดับทองคำไว้ที่บ้าน หากจะยืนยันว่าทองคำแท่งและเงินตราที่วัดค่าของทองคำเป็นเพียงสมมติลองจินตนาการดูว่าในภาวะปกติ

เรานำทองคำแท่ง เงินดอลลาร์และข้าวสารแยกใส่ลงในกระสอบ 3 ใบแล้วให้ชาย 3 คนเลือกคนละใบตามค่าที่น่าจะสูงไปหาต่ำ คงพอจะคาดเดาได้ว่ากระสอบที่บรรจุทองคำแท่งและเงินดอลลาร์น่าจะถูกเลือกก่อน  

หลังจากนั้น ลองจินตนาการต่อไปว่าถ้านำชาย 3 คนที่มีกระสอบบรรจุของอยู่เต็มนั้นไปปล่อยเกาะร้างกลางทะเลลึกและบอกว่าอีก 2 สัปดาห์จะมารับ น่าจะเป็นที่ประจักษ์ว่าอะไรมีค่าและอะไรไร้ค่า หรืออะไรจริงอะไรเป็นเพียงสมมติในช่วง 2 สัปดาห์นั้น  

ด้วยความจริงข้อนี้จึงมีคำพูดอันโด่งดังของผู้สร้างตำนานแตงโมบางเบิดที่ว่า “เงินทองของมายา ข้าวปลาสิของจริง