เตือนภัย มิจฉาชีพในคราบนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำทีจะซื้อของก่อนขอเงินคืน

เตือนภัย มิจฉาชีพในคราบนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำทีมาขอซื้อเบียร์ในร้านอาหาร ก่อนอ้างบอกของแพงขอเงินคืน ฉวยโอกาสพนักงานร้านสับสน ทวงเงินค่าเบียร์คืน ทั้งที่ได้คืนแล้ว พบก่อเหตุมาแล้วหลายร้านในพื้นที่กาญจนบุรี

ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ ร้านอาหาร แซ่บ แซ่บ บริเวณโค้งประปา ถนนนานาชาติ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มักจะเดินเที่ยวและดื่มกินกันในพื้นที่จุดนี้กันเป็นจำนวนมาก และได้พูดคุยกับนางสาวสุชีรา น้ำใจเก่งดี อายุ 39 ปี เจ้าของร้านอาหาร แซ่บ แซ่บ เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อเวลา 20.10 นาฬิกา วันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ลักษณะเป็นชาวแขกขาว พูดภาษาอังกฤษ ได้ทำทีเดินเข้ามาขอซื้อเบียร์จำนวน 1 ขวด ในราคา 70 บาท

เตือนภัย มิจฉาชีพในคราบนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำทีจะซื้อของก่อนขอเงินคืน

 และได้ยื่นเงินสดให้จำนวน 1 พันบาท แต่นักท่องเที่ยวรายนี้แจ้งว่า เคยซื้อเบียร์ในราคา 55 บาท และว่าทางร้านขายแพงจึงไม่ซื้อ ทางร้านจึงได้คืนเงินให้ หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวรายนี้ได้เปลี่ยนใจ บอกว่าขอซื้อเบียร์ 2 ขวด ทางร้านจึงได้หยิบเบียร์ให้ แต่นักท่องเที่ยวรายนี้แจ้งว่ายังไม่ได้เงินทอน ทั้งที่พนักงานของร้านคืนเงินหนึ่งพันบาทให้ไปแล้ว

ด้วยความงง ทางพนักงานของร้านจึงได้ทอนเงินคืนไปให้ จำนวน 860 บาท ก่อนที่นักท่องเที่ยวรายนี้จะเดินออกจากร้านไป แต่ทางร้านสงสัยจึงได้เปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่านักท่องเที่ยวรายนี้ ได้รับเงินคืนจากทางร้านไปแล้วแต่ซ่อนไว้หลังโทรศัพท์มือถือที่ถืออยู่ จึงเชื่อว่านักท่องเที่ยวรายนี้เป็นมิจฉาชีพ

เตือนภัย มิจฉาชีพในคราบนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำทีจะซื้อของก่อนขอเงินคืน

จึงได้ออกตามหาตัวนักท่องเที่ยวคนนี้แต่ไม่พบ จึงได้รีบไปแจ้งความไว้แล้วที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี

ซึ่งนอกจากที่ร้านแห่งนี้แล้ว ผู้สื่อข่าวได้ทราบข้อมูลว่า มีร้านอีกหลายร้านที่ถูกมิจฉาชีพในคราบนักท่องเที่ยวต่างชาตินี้เข้ามาก่อเหตุด้วย ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพูดคุยกับ นายธีรนัย ยอดระยับ อายุ 33 ปี ผู้จัดการร้านเฝอลุงโฮ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรีเช่นกัน โดยนายธีรนัย ได้เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ได้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินเข้ามาซื้อเบียร์ภายในร้าน ซึ่งร้านของตนเป็นร้านอาหารประเภทชาบู ในตอนแรกตนเองก็สงสัยว่าทำไมนักท่องเที่ยวรายนี้ ไม่ไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะมาซื้อเราก็ขายให้ ในราคาขวดละ 75 บาท หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวรายนี้ได้ยื่นแบงค์พันให้

ต่อมาทางร้านกำลังจะทอนเงิน แต่นักท่องเที่ยวรายนี้ได้อ้างว่าทางร้านขายแพงและขอเงินคืน ทางร้านก็ได้คืนเงินให้ แต่จู่ๆนักท่องเที่ยวรายนี้เปลี่ยนใจบอกว่าขอซื้อเบียร์ 2 ขวด และบอกว่ายังไม่ได้รับเงินทอน

ในระหว่างนั้น ทางร้านกำลังมีลูกค้าเยอะ ทำให้ไม่ทันคิด พนักงานได้ยื่นเงินคืนไปจำนวน 1 พันบาท ก่อนที่นักท่องเที่ยวรายนี้จะรีบเดินออกจากร้านไป หลังปิดร้านก็มาตรวจนับเงินปรากฏว่าเงินได้หายไปจำนวน 1 พันบาท

เตือนภัย มิจฉาชีพในคราบนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำทีจะซื้อของก่อนขอเงินคืน

จึงได้มาเปิดกล้องวงจรปิดดู และพบพฤติกรรมสุดแสบของนักท่องเที่ยวรายนี้ 

จึงเชื่อว่านักท่องเที่ยวคนนี้เป็นมิจฉาชีพแน่นอน เพราะทางร้านได้คืนเงินให้ไปแล้วในรอบแรก แต่กลับอ้างว่า ยังไม่ได้เงิน เพราะภาพวงจรปิดจับภาพชัดว่า นักท่องเที่ยวคนนี้เอาเงินใส่ในกระเป๋ากางเกงเรียบร้อยแล้ว ซึ่งลักษณะของนักท่องเที่ยวรายนี้จะใส่แมสปิดบังใบหน้าตลอด

อยากฝากเตือนไปยังร้านค้าต่างๆในพื้นที่เขตตัวเมืองกาญจนบุรี ให้ระวังนักท่องเที่ยวแสบรายนี้ให้ดีและพยายามตั้งสติให้ดี หากเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเหมือนเช่นร้านของตน