"เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5" ททท. จ่อชง ครม. มอบ "ของขวัญปีใหม่ 2566" ให้ประชาชน

"เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5" ททท. จ่อชง ครม. มอบ "ของขวัญปีใหม่ 2566" ให้ประชาชน

ททท.เตรียมมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน จ่อชงครม.อนุมัติแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ยาวถึงสงกรานต์ปีหน้า 2 ล้านสิทธิ์ หวังดึงคนไทยเที่ยวในประเทศ ขณะที่เอดับบลิวซีระบุอัตราห้องพักกระเตื้องแซงปี 62 แล้ว ส่วนอัตราเข้าพักก็ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 60%

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า   ททท.เตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณในการดำเนินโครงการ "เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย โดยรัฐจะช่วยจ่ายค่าห้องพักสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน จะยังคงไว้เหมือนเดิม เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมและพื้นที่อื่นๆ รวมถึงคูปองค่าใช้จ่าย 600 บาท ส่วนค่าตั๋วเครื่องบินอาจไม่ให้แล้ว เนื่องจากปัจจุบัน ททท.ร่วมกับสายการบิน จัดโครงการ "ลดทั่วฟ้า บินทั่วไทย" มอบส่วนลดพิเศษให้แก่ผู้โดยสาร เพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยให้เดินทางภายในประเทศอยู่แล้ว
 

สำหรับ โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 นั้น จะให้ 1 คนต่อ 1 สิทธิ์ โดยรัฐจะมีต้นทุนงบประมาณ 3,600 บาท ทั้งนี้ขึ้นกับรัฐบาลว่าจะจัดสรรงบประมาณให้เท่าไร ซึ่งททท.มองว่าอย่างน้อย 2 ล้านสิทธิ์ ระยะเวลาต้องการให้ยาวไปถึงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 เพื่อที่จะดึงคนไทยให้ไม่ออกไปเที่ยวต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ททท.เตรียมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration หรือ SHA ให้เป็นมาตรฐาน SHA หรือมาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืน และในปี 2566 จะเพิ่มรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ประเภทผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนของโลก
 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ เอดับบลิวซี ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงไลฟ์สไตล์ครบวงจร เปิดเผยว่า ธุรกิจโรงแรมของบริษัทเริ่มดีขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดรายได้ค่าห้องพัก (RevPar) โรงแรมในเครือเอดับบลิวซีกลับมาสูงกว่าปี 2562 ก่อนเกิดโควิดแล้ว โดยอยู่ที่ 4,900 บาท/คืน เพิ่มขึ้นจาก 4,200  บาท/คืน ขณะที่อัตราการเข้าพักปรับขึ้นมาอยู่ที่ 60% จากต้นปีอยู่ที่ 30% มองว่าปี 2566 มีทิศทางดีขึ้นแต่จะสูงกว่า ปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 79% หรือ ไม่ต้องรอดู เนื่องจากมีปัจจัยสายการบินที่กำลังทยอยกลับมาทำการบิน ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติยังกลับมาเพียงครึ่งหนึ่งของปี 2562