ฤทธิ์ "พายุมู่หลาน" คลื่นใหญ่ซัดเรือประมงจมทะเลระนอง รอด 1 ดับ 1

เจอฤทธิ์ "พายุมู่หลาน" ระนองคลื่นใหญ่ซัดเรือประมงขนาดเล็กจมทะเล เสียชีวิต 1 ราย ด้านลูกเรือเล่านาทีเกิดเหตุเกือบเอาชีวิตไม่รอด

ภายหลังจาก กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน "พายุมู่หลาน" ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2565 นี้ ซึ่งวันนี้ที่จังหวัดระนองทะเลมีคลื่นลมแรง โดยคลื่นใหญ่ได้ซัดเรือประมงขนาดเล็กจม จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

 

 

จากกกรณี ศคท.จ.ระนอง ได้รับแจ้งจาก ศจร.ระนอง ว่า เรือ ก.กระแสร์สินธุ์ 4/5 ได้ช่วยเหลือลูกเรือประมงพื้นบ้าน ได้ 1 คน จากการสอบถามพบว่าเรืออับปาง เรือชื่อ ป.โชคยุวดี และคาดการว่าไต๋จะเสียชีวิตแล้ว โดย เรือ ก.กระแสร์สินธุ์ 4/5 จะมาส่งลูกเรือบริเวณกลางทะเล จึงประสานไปที่ นป.สอ.รฝ.451 ให้ส่งเรือไปรับบริเวณดังกล่าวแล้วนำมาส่งขึ้นฝั่ง ที่ท่าเทียบเรือบ้านปากคลอง

 

จากการสอบถามลูกเรือ นายธนวิทย์ อายุ 36 ปี ทราบว่า เรือ ป.โชคยุวดี เป็นเรือลากหมึกหอม ทำการประมงชายฝั่งทะเล โดยเมื่อต้นเดือนสิงหาคมออกทำการประมงและจะนำเรือจาก อ.คุระบุรี จ.พังงา กลับ จ.ระนอง โดยเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 14.30 น. ได้ออกจาก อ.คุระบุรี จ.พังงา ทำการประมงบริเวณเกาะสุรินทร์ แต่คลื่นลมแรงจึงทิ้งสมอเรือ แต่สมอเก่าจึงเก็บสมอปล่อยเรือลอย ต่อมาเกิดคลื่นใหญ่ซัดจนทำให้เรือจม

 

 

นายธนวิทย์ เล่าว่า ตนได้เกาะถังดองปลา แต่นายเรือง (ผู้เสียชีวิต) เกาะทุ่นลอย จึงทำให้แยกจากกัน และก็มองไม่เห็นนายเรืองและไม่ได้ยินเสียงอีกเลย จนกระทั่งมีเรือประมงชื่อ กระแสสินธุ์ 4/5 ได้มาพบและช่วยเหลือตนไว้ที่บริเวณหน้าเกาะช้าง จากนั้นจึงแจ้ง ศจร.ระนอง เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป

 

จากนั้น น.ส.วีร์วิมล ลูกสาวนายเรือง (ผู้เสียชีวิต) ได้เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ปากน้ำ จ.ระนอง โดยเจ้าหน้าที่ได้ออกประชาสัมพันธ์ให้เรือประมงในพื้นที่ช่วยสังเกต หากพบคนตกน้ำในบริเวณดังกล่าวให้การช่วยเหลือและแจ้งให้ ศคท.จว.รน. ทราบทันที

 

กระทั่งได้รับแจ้งจากเรือประมงในพื้นที่ จ.ระนอง ว่า พบศพชายไม่สวมเสื้อ บริเวณพิกัด 09.38 N. 98.14 E. ห่างจากเกาะพยาม ประมาณ 10 ไมล์ ทาง ศรชล./ศคท.จ.ระนอง จึงประสานศูนย์ PIPO ระนอง แจ้งเรือประมงในพื้นที่ใกล้เคียงบริเวณดังกล่าวเข้าตรวจสอบว่า ขณะนี้เรือประมงชื่อ เรือ โชคภู่ระหงษ์ พบศพที่บริเวณพิกัด 09.39 N. 98.15 E. ห่างจากประภาคารเกาะพยาม จ.ระนอง ไปทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 9 ไมล์ ศรชล./ศคท.จว.รน. ได้ประสาน เรือตำรวจน้ำระนอง มูลนิธิระนองสงเคราะห์ และญาติผู้เสียชีวิต ออกเดินทางไปนำร่างผู้เสียชีวิตกลับเข้าฝั่ง พร้อมทั้งประสาน ร้อยเวร สภ.ปากน้ำ และ แพทย์ รพ.ระนอง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน

 

เมื่อเรือตำรวจน้ำเดินทางถึงท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง จากการสอบถาม นายธนวิทย์ ซึ่งเป็นลูกเรือที่รอดชีวิต และ น.ส.วีร์วิมล ให้การยืนยันศพที่พบคือนายเรืองจริง จากนั้นมูลนิธิระนองสงเคราะห์จึงรับศพส่ง รพ.ระนอง เพื่อชันสูตรก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

 

ข่าวโดย ไพโรจน์ รัตนรัตน์ จังหวัดระนอง