28 กรกฎาคม 2565 วันเฉลิมพระชนมพรรษา ขสมก. จัดรถรองรับปชช.เดินทางช่วงหยุดยาว

28 กรกฎาคม 2565 วันเฉลิมพระชนมพรรษา ขสมก. จัดรถรองรับปชช.เดินทางช่วงหยุดยาว

28 กรกฎาคม 2565 วันเฉลิมพระชนมพรรษา "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ขสมก. จัดแผนเดินรถรองรับประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงวันหยุดยาว

ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง (28 - 31 กรกฎาคม 2565) ทาง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดแผนเดินรถรองรับการเดินทางของประชาชน

 

 

นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กระทรวงคมนาคม (ขสมก.) เปิดเผยว่า ด้วยในวันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม 2565 เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกอบกับรัฐบาลประกาศให้วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม 2565 เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ ส่งผลให้มีวันหยุดต่อเนื่องจำนวน 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 - 31 กรกฎาคม 2565

 

ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ขสมก. จึงได้จัดแผนการเดินรถโดยสารรองรับการเดินทางของประชาชน ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 - 1 สิงหาคม 2565 เพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

1. ในเส้นทางปกติ จัดรถออกวิ่ง เฉลี่ยวันละ 2,739 คัน จำนวน 17,301 เที่ยว

 

2. จัดเดินรถ AIRPORT BUS เชื่อมต่อท่าอากาศยาน จำนวน 5 เส้นทาง รวม 46 คัน ดังนี้

 

  • สาย A1 ท่าอากาศยานดอนเมือง - สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร เฉลี่ยวันละ 15 คัน
  • สาย A2 ท่าอากาศยานดอนเมือง - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เฉลี่ยวันละ 12 คัน
  • สาย A3 ท่าอากาศยานดอนเมือง - สวนลุมพินี เฉลี่ยวันละ 7 คัน
  • สาย A4 ท่าอากาศยานดอนเมือง - สนามหลวง เฉลี่ยวันละ 7 คัน
  • สาย S1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - สนามหลวง เฉลี่ยวันละ 5 คัน

 

 

3. จัดเดินรถเชื่อมต่อสถานีขนส่งกรุงเทพ จำนวน 5 สถานี รวม 34 เส้นทาง ดังนี้

 

  • สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) จำนวน 12 เส้นทาง ได้แก่ สาย 3, 16, 49, 77, 96, 134, 136, 138, 145, 509, 517 และ 536
  • สถานีขนส่งกรุงเทพ (เอกมัย) จำนวน 8 เส้นทาง ได้แก่ สาย 2, 23, 25, 71, 72, 501, 508 และ 511
  • สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ สาย 66, 79, 511, 515, 516 และ 556
  • สถานีรถไฟหัวลำโพง จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ สาย 4, 21, 25, 34, 73 และ 501
  • สถานีกลางบางซื่อ จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ สาย 49 และ 67

 

4. มาตรการความปลอดภัย ประกอบด้วย

 

ด้านพนักงานประจำรถ

 

  • กำกับดูแลพนักงานขับรถโดยสารให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้พนักงานเก็บค่าโดยสารดูแลการขึ้น-ลงของผู้ใช้บริการอย่างใกล้ชิด ให้บริการด้วยความสุภาพเรียบร้อย

 

  • ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้ง ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร

 

  • ให้พนักงานขับรถตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารและอุปกรณ์ส่วนควบ ก่อนนำรถออกให้บริการ พร้อมประสานผู้รับเหมาซ่อมรถ ตรวจเช็กสภาพรถโดยสาร และซ่อมบำรุงรักษารถให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี

 

  • จัดพนักงานนายตรวจและเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษประจำจุด ณ ป้ายหยุดรถโดยสารที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและดูแลการขึ้น-ลงรถของผู้ใช้บริการ

 

ด้านรถโดยสารประจำทาง

 

  • เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดระบบปรับอากาศ และการทำความสะอาดผ้าม่าน

 

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสาร และใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น พร้อมทั้งติดตั้งขวดเจลแอลกอฮอล์สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือบริเวณประตูทางขึ้น

 

  • ติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชัน "ไทยชนะ" บริเวณหลังเบาะที่นั่ง และบริเวณผนังด้านข้าง ภายในรถโดยสาร สำหรับให้ผู้ใช้บริการสแกนผ่านโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน เพื่อเก็บข้อมูลการเดินทาง กรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อใช้บริการรถโดยสารคันเดียว และเวลาเดียวกันกับผู้ใช้บริการ จะมีการแจ้งเตือนผ่านระบบ SMS ว่าผู้ใช้บริการมีความเสี่ยงให้รีบไปพบแพทย์

 

  • ติดตั้งป้ายข้อความ "เหลือรถอีก 2 คันสุดท้าย" , "เหลือรถอีก 1 คันสุดท้าย" , "รถคันสุดท้าย" บริเวณกระจกด้านหน้ารถโดยสารที่วิ่งให้บริการ 3 คันสุดท้ายในแต่ละวัน

 

ด้านผู้ใช้บริการ

 

  • ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ขณะใช้บริการรถโดยสาร
  • ล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่ติดตั้งบริเวณประตูทางขึ้น
  • เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการควรสแกน QR Code แอปพลิเคชัน "ไทยชนะ" บนรถโดยสาร เพื่อเช็กอินเมื่อขึ้นรถ และเช็กเอาท์ก่อนลงจากรถ

 

สำหรับผู้ถือบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก. ทุกประเภท ควรลงทะเบียนบัตรที่ www.bmta.co.th เพื่อให้บัตรดังกล่าว สามารถเช็กอิน - เช็กเอาท์ โดยอัตโนมัติ เมื่อนำบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์มาแตะที่เครื่อง EDC เพื่อชำระค่าโดยสาร

 

  • ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเก็บค่าโดยสาร นายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษอย่างเคร่งครัด

 

  • ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเก็บค่าโดยสาร นายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษอย่างเคร่งครัด

 

  • ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด ผ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ทุกประเภทของ ขสมก. บัตรเดบิต - เครดิต ที่มีสัญลักษณ์คอนแทคเลส บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโมบายแบงก์กิ้ง เพื่อลดการสัมผัสธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่อาจเป็นสื่อกลางในการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19

 

นอกจากนี้ ขสมก. ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเดินรถ ได้แก่ ศูนย์วิทยุรัชดา สำนักงานใหญ่ ขสมก. ศูนย์วิทยุเขตการเดินรถที่ 1-8 ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 - 1 สิงหาคม 2565 และจัดเจ้าหน้าที่