แห่ "เวียนเทียน" วันอาสาฬหบูชา ที่วัดพระธาตุพนม คึกคัก!

บรรยากาศการ "เวียนเทียน" วัดพระธาตุพนม จ.นครพนม คึกคัก! เกิดปาฏิหาริย์หลังฟ้ามืดครึ้มฝนจ่อถล่ม แต่พอจะเริ่มพิธีฝนที่มีวี่แววว่าจะตกกลับหายไป

บรรยากาศการ "เวียนเทียน" วันอาสาฬหบูชา ที่ วัดพระธาตุพนม จ.นครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติหลังฟ้ามืดครึ้มฝนจ่อถล่มก่อนเวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชา แต่พอจะเริ่มพิธีฝนที่มีวี่แววว่าจะตกก็ได้หายไป เชื่อเป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

 

 

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 ได้มีพิธีเวียนเทียน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยมีพระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมและที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย นายปิตานนท์ ปัญญา นายอำเภอธาตุพนม ข้าราชการ ประชาชน นักท่องเที่ยว พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยชาวลาว ร่วมในพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุพนม

 

พร้อมกราบไหว้ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมถึงถวายเครื่องสักการะบูชา เพื่อเป็นสิริมงคล เนื่องในวันสำคัญทางศาสนา วันอาสาฬหบูชา และเทศกาลวันเข้าพรรษา

 

 

ทั้งนี้ประมาณ 30 นาทีก่อนที่จะมีการประกอบพิธีเวียนเทียน ได้เกิดท้องฟ้าแปรปรวนมืดครึ้ม มีเมฆฝนปกคลุมไปทั่วบริเวณวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร และพื้นที่เขตเทศบาลตำบลธาตุพนม แต่พอถึงเวลาประกอบพิธีเวียนเทียน ท้องฟ้ากลับโปร่งใสไร้เมฆหมอกที่ทำท่าว่าคล้ายฝนจะตก จึงทำให้พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยชาวลาวได้ร่วมกันประกอบพิธีเวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชาได้สำเร็จ

 

แม้ว่าพิธีเวียนเทียนในช่วงท้ายจะมีฝนตกลงมาโปรยปรายคล้ายน้ำพระพุทธมนต์ประพรมลงมาจากสรวงสวรรค์ แต่ยังสามารถร่วมพิธีเวียนเทียนจนแล้วเสร็จ โดยเชื่อกันว่าเป็นบารมีปาฏิหาริย์ขององค์พระธาตุพนม ซึ่งปรากฏการลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วงประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ บางครั้งถึงขนาดฝนตกหนักจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้น แต่เมื่อเริ่มประกอบพิธีฝนจะหยุดตกทันที สร้างความเลื่อมใสศรัทธาต่อพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงวันหยุดยาวในวันสำคัญทางศาสนาอาสาฬหบูชา และเทศกาลวันเข้าพรรษา ปีนี้ถือว่าคึกคักกว่าทุกปี หลังโควิดซามีทั้งประชาชนทั้งชาวไทยชาวลาว ตลอดจนมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นหมู่คณะหรือกับครอบครัว เพื่อมากราบไหว้ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุกว่า 2,500 ปี ซึ่งทางวัดได้เปิดให้ร่วมทำบุญ รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาตลอดช่วงวันหยุดยาว และวันสำคัญทางศาสนา เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมะ หลังซบเซาจากโควิดระบาดมานานนับ 2 ปี และได้พบกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติในพิธีเวียนเทียนวันอาสาฬหบูชาดังกล่าว

 

ภาพ/ข่าว พงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล จ.นครพนม