รวบแล้ว จนท.สาวเทศบาลตำบลบุณฑริก ยักยอกเงินกว่า 31 ล้าน หลังหนีกบดานภูเก็ต

รวบแล้ว จนท.สาวเทศบาลตำบลบุณฑริก ยักยอกเงินกว่า 31 ล้าน หลังหนีกบดานภูเก็ต

สืบภาค 3 แกะรอยตามจับเจ้าหน้าที่บัญชี ยักยอกเงินเทศบาลตำบลบุณฑริก กว่า 31 ล้านบาท หลังหลบหนีไป กบดาน จ.ภูเก็ต เผยติดการพนันออนไลน์

เมื่อวันที่ 6 ก.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายวรพจน์ บุตรมาตร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบุณฑริก อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ถูก น.ส.มยุรา อายุ 36 ปี ชาว อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานีพนักงานการเงินของเทศบาล ได้แอบยักยอกโอนเงินของเทศบาลไปกว่า 31,700,000 บาท โดยตรวจสอบพบความผิดปกติ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ค.65 พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผบก.สส.ภ.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สส.ภ.3นำหมายศาลจังหวัดอุบลราชธานีแกะรอย ตามจับกุม น.ส.มยุรา อายุ 36 ปี ได้ที่ ห้องพักแห่งหนึ่ง ในเขต อ.เมือง จังหวัดภูเก็ตเบื้องต้นแจ้งข้อหาฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกเงินของทางราชการ จากการสอบสวนปากคำ ถึงแรงจูงใจที่แอบยักยอกเอาเงินของราชการไปครั้งนี้ น.ส.มยุรา รับสารภาพว่าเนื่องจากติดการพนันออนไลน์

ด้านนายวรพจน์ บุตรมาตร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบุณฑริก  กล่าวว่าหลังจาก น.ส.มยุรา แอบถอนเงินออกจากบัญชีก่อนจะหลบหนีไปนั้น ได้ตรวจสอบจากธนาคารกรุงไทย (มหาชน) จำกัด พบว่ามีการเบิกเงินระหว่างช่วงเดือนพฤษภาคม กับเดือนมิถุนายน ครั้งละ 200,000-1,000,000 ล้านบาท ไปประมาณ 47 ครั้ง คิดเป็นยอดเงินกว่า 31,700,000 บาท

 

สำหรับช่องว่างที่เป็นสาเหตุให้ น.ส.มยุรา โอนย้ายเงินฝากของเทศบาลไปใส่ในบัญชีของตัวเองได้ เนื่องจากระบบการจ่ายเงินที่กระทรวงมหาดไทย ให้ใช้วิธีการจ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ แทนการเบิกจ่ายผ่านเช็คแบบเก่า โดยเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา ซึ่งตนไม่มีความรู้ จึงได้มอบรหัสในส่วนของตนที่เป็นนายกฯไว้กับ น.ส.มยุรา เพื่อสะดวกในการสั่งจ่ายเงินต่าง ๆ ของเทศบาล

โดยครั้งนี้ก็เป็นบทเรียนสำหรับตนเองที่ไว้ใจเจ้าหน้าที่มากไป สำหรับ น.ส.มยุรา นั้นเดิมทำงานเป็นทหารฝ่ายการเงิน และขอโอนย้ายมาทำงานที่เทศบาลตำบลบุณฑริก เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา