คาร์บอมบ์ปัตตานี ฝ่ายความมั่นคงรุดตรวจสอบบ่อเก็บน้ำมัน 2 หมื่นลิตร

คาร์บอมบ์ปัตตานี ฝ่ายความมั่นคงรุดตรวจสอบบ่อเก็บน้ำมัน 2 หมื่นลิตร

คาร์บอมปัตตานี สะเทือนการเมืองร้อนแรงชายแดนใต้ ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงรุดตรวจสอบบ่อเก็บน้ำมัน 20,000 ลิตร เบื้องต้นปลอดภัยดี ส่วนสาเหตุป่วนรอบใหม่ตั้ง 2 ประเด็นโยงการเมือง และไฟใต้

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.65 ความคืบหน้าเหตุคาร์บอม ที่เกิดขึ้นข้างป้อมหน่วยบริการประชาชนจันทรักษ์ (ปาลัส) ติดกับอบต.ควน และปั๊มน้ำมันปตท. บ้านปาลัส หมู่ที่1 ต.ควน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี

ล่าสุด พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน.เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุพร้อมด้วยพล.ต.ท.นันทเดช ย้อนนวล ผบช.ภ.9  และ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมตรวจสอบความเสียหายของบ่อเก็บน้ำมันสำรองของปั๊มปตท. ที่ฝังอยู่ใต้ดินใกล้กับจุดคนร้ายนำคาร์อมมาจอด

โดยแรงระเบิดทำให้กำแพงของปั๊มได้รับความเสียหายทำให้ต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัยของบ่อที่ระบุว่ามีน้ำมันประมาณ 20,000 ลิตร ซึ่งพบว่าไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากบ่อถูกฝังลึกประมาณ 2 เมตร

พล.ต.ปราโมทย์  เปิดเผยว่า รถขนขยะที่คนร้ายนำมาใช้เป็นคาร์บอมนั้นเป็นรถที่ปล้นมาจากคนขับรถที่นำขยะของอบต.ลางาอ.มายอ ขณะที่นำขยะไปทิ้งในช่วงตอนเย็นจากนั้นคนร้ายก็นำรถมาก่อเหตุ ซึ่งในการตรวจสอบเชิงลึกนอกจากคำให้การของพยาน ​และข้อมูลต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง​ตลอดจนภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว การเข้าเก็บหลักฐานสารพันธุกรรมในจุดต่างๆเป็นสิ่งสำคัญมากที่ต้องไล่เก็บตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่บ่อขยะจนถึงพื้นที่เกิดเหตุ

พล.ต.ปราโมทย์ กล่าวอีกว่า คนร้ายกลับมาใช้รูปแบบเดิมในการก่อเหตุ โดยเฉพาะคาร์บอมที่หายไปนาน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ที่มีความรุนแรงและพฤติกรรมชัดเจน ​ ทำให้ในการสอบสวบก็ต้องตรวจสอบให้ครบทุกประเด็นทั้งเรื่องความรุนแรงจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนภาคใต้และประเด็นการเมืองที่สังคมตั้งข้อสังเกตุว่ามีส่วนเกี่ยวข้อมด้วยหรือไม่ก็ไม่ทิ้งประเด็นนี้

ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้จะมีผลกระทบต่อการพูดคุยสันติภาพหรือไม่นั้น พล.ต.ปราโมทย์ ยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบเนื่องจากทุกฝ่ายเข้าใจเพราะที่ผ่านมาได้พยายามสร้างบรรยากาศให้ทุกอย่างดีขึ้น และทุกภาคส่วนมีการขับเคลื่อนในรูปแบบของการมีส่วนร่วม

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณคาร์บอมครั้งนี้ในพื้นที่มีการวิพากวิจารณ์หนาหูว่าเป็นเรื่องของการเมืองในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เพราะต้องยอมรับว่าความเคลื่อนไหวของภาคการเมืองในพื้นที่ชายแดนใต้มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย