วุ่น ร้านบุฟเฟ่ต์ดังปิดล่องหน ย้อนคดีแหลมเกตหลอกขาย Voucher เจอคุก 1,446 ปี

วุ่น ร้านบุฟเฟ่ต์ดังปิดล่องหน ย้อนคดีแหลมเกตหลอกขาย Voucher เจอคุก 1,446 ปี

ประเด็นดราม่าที่กำลังถูกพูดถึงในโลกออนไลน์จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ เกี่ยวกับร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ซึ่งร้านได้ปิดโดยไม่บอกล่วงหน้า ย้อนคดีแหลมเกตหลอกขาย Voucher เจอคุก 1,446 ปี

ย้อนรอยคดี "แหลมเกตซีฟู้ด" ขาย Voucher โปรฯ บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดราคาถูก สุดท้ายเทลูกค้า ก่อนที่ศาลจะตัดสินจำคุกผู้บริหาร ในความผิดฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนรวม 723 กระทง เป็นเวลา 1,446 ปี ซึ่งล่าสุด ประเด็นดราม่าที่กำลังถูกพูดถึงในโลกออนไลน์จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ เกี่ยวกับร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ซึ่งร้านได้ปิดโดยไม่บอกล่วงหน้า และเพจเฟซบุ๊กก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยในขณะนี้

 

 

วุ่น ร้านบุฟเฟ่ต์ดังปิดล่องหน ย้อนคดีแหลมเกตหลอกขาย Voucher เจอคุก 1,446 ปี

 

ซึ่งในเฟซบุ๊กกลุ่มคนรักบุฟเฟต์ Buffet Lovers เหล่าบรรดาลูกค้าได้ตั้งข้อสังเกตถึงร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นเจ้าดังเจ้าหนึ่งว่า จู่ๆ เพจเฟซบุ๊กทางการของร้านก็หายไป โดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่ในโลกทวิตเตอร์ก็มีการติดแฮชแท็กชื่อร้านขึ้นมา ลูกค้าบางคนยังไม่รู้และได้ซื้อ Voucher ไว้ พอไปที่ร้านก็พบว่าร้านปิดโดยไม่ทราบว่าสาเหตุ ทำให้ลูกค้าเกิดความกังวลว่า คูปองหรือ Voucher จะนำมาใช้ได้หรือไม่

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า วันนี้ (18 มิ.ย.2565) ร้านอาหารเจ้านี้หลายสาขาก็ไม่ได้เปิดร้านแต่อย่างใด กลายเป็นเรื่องที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในขณะนี้ ซึ่งต้องรอดูว่า ทางร้านหรือผู้บริหารร้านจะมีคำชี้แจงหรือไม่

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2562 ร้านซีฟู้ดเจ้าดังในตอนนั้นอย่าง "แหลมเกต" ได้โฆษณาทางสื่ออิเล็กทรอนิค ผ่านเฟซบุ๊ก และเว็บไซด์ของร้าน จำหน่ายบัตรรับประทานอาหารเป็นจำนวนมากตามแต่ละโปรโมชั่น และมีราคาถูกต่ำกว่าความเป็นจริง เช่น “โปรราชาทะเลบุฟเฟ่ต์” ขายเป็นชุดๆละ 880 บาท มี 10 ที่นั่งๆ ละ 88 บาท , “โปรนาทีทองมาแล้วจ้า” ขายเป็นชุดๆ ละ 2,020 บาท มี 20 ที่นั่งๆ ละ 101 บาท , “โปรแฟนพันธุ์แท้” ขายเป็นชุดๆ ละ 3,000 บาท มี 30 ที่นั่งๆละ 100 บาท และโปรโมชั่นหมีหมี เป็นต้น

ตอนนั้นมีลูกค้าสนใจเป็นจำนวนมาก ทว่าเมื่อลูกค้านำบัตร Voucher ไปใช้บริการเกี่ยวกับโปรโมชั่นที่ขายปรากฏว่า บางเมนูต้องจ่ายเพิ่ม หรือต้องจองคิวโต๊ะล่วงหน้านาน สุดท้ายหลายคนใช้ Voucher ไม่ทัน

ต่อมา วันที่ 22 มี.ค.2562 ทางร้าน ได้ประกาศขอยกเลิกและงดบริการทุกโปรโมชั่น เนื่องจากได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และเกินความคาดหมายทำให้วัตถุดิบจากแหล่งผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการเพราะใช้วัตถุดิบสูงเกินกว่าที่คาดการณ์

เป็นเหตุให้มีผู้เสียหายจำนวน 350 รายเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 2,207,720 บาท และยังมีผู้เสียหายที่ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนจำนวนมาก พนักงานสอบสวนจึงได้ยื่นคำขอหมายจับผู้ต้องหาและศาลอาญาได้ออกหมายจับที่ 1086/2562 ลงวันที่ 24 ก.ค.2562

ขณะที่พนักงานสอบสวนตอนนั้น ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีผู้ต้องหาข้อหาร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด คุณภาพ ปริมาณ ในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343

ต่อมา 10 มิ.ย.2563 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก นายอพิชาต หรือ โจม บวรบัญชารักษ์ หรือ พารุณ จุลกะ และ น.ส.ประภัสสร บวรบัญชา จำเลยที่ 2-3 ในความผิดฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน รวม 723 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุกคนละ 1,446 ปี ส่วน บริษัท แหลมเกตอินฟินิท จำกัด จำเลยที่ 1 ให้ปรับกระทงละ 5,000 บาท รวมปรับ 3,615,000 บาท

คดีนี้พนักงานอัยการ ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1-3 ในความผิดร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด คุณภาพ ปริมาณ ในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 เเละ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานประกองคำรับสารภาพเเล้วพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343วรรคแรกประกอบมาตรา 341,83 พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 47,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14(1) การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดคุณภาพปริมาณหรือสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ฐานหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 ฐานหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จกับฐานหลอกลวงผู้อื่นโดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนมีอัตราโทษเท่ากัน

จึงให้ลงโทษฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเพียงบทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 วรรคแรกประกอบมาตรา 341,83 จำเลยทั้งสามร่วมกันกระทำความผิดรวม 723 กระทงให้จำคุกจำเลยที่ 2-3 ทุกกระทง กระทงละ 2 ปีรวมจำคุกคนละ 1,446 ปี ส่วนจำเลยที่ 1 ให้ปรับกระทงละ 5,000 บาท รวมปรับ 3,615,000 บาท

จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งทุกกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 จำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 723ปี แต่เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงความผิดแล้วคงจำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 20 ปีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91(2)จำเลยที่ 1 คงปรับ 1,807,500 บาท หากจำเลยที่ 1ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29 และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนเงินจำนวน 2,500,960 บาทเเก่เจ้าของ