"แม่แตงโม" ถอย! ไม่ฟ้องฆาตกรรมแล้ว เดินหน้าถอนใบมอบอำนาจฟ้อง "อัจฉริยะ"

"แม่แตงโม" ถอยแล้ว! ไม่ฟ้องฆาตกรรม "คดีแตงโม" เดินหน้าถอนใบมอบอำนาจฟ้อง "อัจฉริยะ" ลั่นไม่อยากจองเวรจองกรรมใคร

วันที่ 15 มิถุนายน 2565 นายบุญถาวร ปัญญามณีโชติ ทนายความทีมนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ "ส.ส.เต้" กล่าวถึงกรณีที่ "แม่แตงโม" หรือ ภนิดา ศิระยุทธโยธิน ไม่ฟ้องในคดีฆาตกรรมแล้ว พร้อมเดินหน้าถอนใบมอบอำนาจฟ้อง "อัจฉริยะ" ระบุว่า

 

 

เดิมที่ตั้งใจมาถอนคำฟ้องของนายอัจฉริยะ แต่เมื่อมาคัดคำฟ้องพบว่ายื่นมาตรา 290 ด้วย รวมถึงมาตรา 288 และมาตรา 289 เป็นเรื่องของการทำร้ายร่างกาย ทำให้ไม่สามารถถอนคำฟ้องได้ในมาตรา 288 , 289 โดยจะมีการไต่สวนวันที่ 20 กรกฎาคมนี้

 

ดังนั้นต้องกลับไปดูคำฟ้องอย่างถี่ถ้วน รวมถึงพยานหลักฐานที่แนปมาถึงการดำเนินคดีตั้งใจฆาตกรรมตั้งแต่ต้นหรือไม่ ก่อนจะยื่นแก้ไขคำฟ้อง โดยจะต้องเร่งดำเนินการเพราะคดีนี้กระบวนเสร็จสมบูรณ์ และศาลได้นัดไต่สวนแล้ววันที่ 22 สิงหาคม 2565 นี้

 

"ขอให้เวลาแม่ในการพิจารณากระบวนการหลักฐาน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหลักฐานเลย ยืนยันว่าแม่และอัจฉริยะไม่ได้แพแตกหรือมีความขัดแย้งรุนแรง เพียงแต่ความเห็นทางกฎหมายไม่ตรงกัน และยังสามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ เพราะเป็นหนึ่งในพยานคนสำคัญในคดีนี้"

 

 

นายบุญถาวร ทนายความทีม ส.ส.เต้ ระบุต่ออีกว่า ส่วนเรื่องการเปลี่ยนทนายความตอนนี้ยังไม่รับใครมาเป็นทนายแทน เพราะตนได้แนะแม่ว่าแม่สามารถยืนฟ้องเองได้ และไปใช้ทนายตอนไต่สวนเพื่อซักค้าน และสามารถแต่งตั้งเพิ่มอีก 10 คนก็ได้ แต่ใช้คนนำสืบเป็นทนายที่แม่ไว้ใจได้ ซึ่งวันนี้ยังไว้ใจทีมทนายอัจฉริยะเช่นเดิม ส่วนกรณีที่อัจฉริยะขู่ยืนถอนใบประกอบวิชาชีพทนายความทุกคนที่มารับว่าความให้แม่แตงโมนั้น ย้ำว่ายังสามารถพูดคุยกันได้ เพราะตอนนี้ก็ยังรอโทรศัพท์นายอัจฉริยะอยู่

 

ทางด้านนางภนิดา หรือ แม่แตงโม กล่าวว่า ส่วนตัวคุณแม่ไม่เครียด แค่อดนอน กรณีอัจฉริยะจะฟ้อง ตอนนี้ไม่สามารถใช้คำว่าเชื่อใจได้ แต่ไม่โกรธ ยังพูดคุยกันปกติ แต่แค่ไม่ได้เห็นเอกสารหลักฐานจากอัจฉริยะ ส่วนตัวความรู้สึกไม่ได้อยากฟ้องฆาตกรรม เพราะไม่อยากจองเวรใคร และมองว่าคงไม่ใช่เจตนาฆ่าตั้งแต่ต้น แค่เชื่อว่าลูกถูกทำร้าย

 

ส่วนเรื่องการฟ้องแพ่งขณะนี้มีการคืนเงิน 250,000 บาท ให้ ส.ส.เต้ แล้ว แต่ที่ผ่านมาแม่ไม่ทราบว่าจะมีฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท เพราะในใจไม่มีเรื่องเงินเลย ไม่ประสงค์เงินสักบาทเดียว

 

ทุกวันนี้ยอมรับว่ามีการคุยกับคนบนเรือ โดยเฉพาะ "ปอ" เป็นคนโทรมาหาแม่เอง ซึ่งคุยล่าสุดเมื่อ 4 วันที่ผ่านมา แต่รายละเอียดไม่ได้คุยเรื่องเงิน เป็นเพียงการถามถึงสารทุกข์สุขดิบธรรมดา เช่น ทำอะไรที่ไหนวันนี้ แต่ยอมรับว่าเคยจะนัดคุยเรื่องเงินแต่ก็ยังไม่ได้พบกันเลย

 

ข่าวโดย สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ จ.นนทบุรี