น้ำตาท่วมวัด! เผาแล้ว "น้องส้มโอ" นักเรียนหญิง ชั้น ม.2 ดิ่งตึกอาคารเรียนดับ

น้ำตาท่วมวัด! เผาแล้ว "น้องส้มโอ" นักเรียนหญิง ชั้น ม.2 ดิ่งตึกอาคารเรียน 8 ชั้นโรงเรียนชื่อดังเมืองโคราช ด้านเครือข่ายผู้ปกครองแนะล้อมคอกป้องเกิดเหตุซ้ำรอย

จากกรณี "นักเรียนหญิง" โรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังของเมืองโคราช โดดตึกอาคารเรียนชั้น 8 เสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุเบื้องต้นคาดเป็นเพราะป่วยโรคซึมเศร้า

 

 

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้(4 มิถุนายน 2565) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่วัดคลองส่งน้ำ หมู่ที่ 5 ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีพิธีฌาปนกิจศพ "น้องส้มโอ" อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังของเมืองโคราช โดยมีตัวแทนเพื่อน ๆ กล่าวคำกลอนไว้อาลัย ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของพ่อและแม่น้องส้มโอ และญาติพี่น้อง โดยวันนี้มีฝนตกโปรยปรายตลอดเวลา

 

นายอัคคชา พรหมสูตร ประธานกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังของเมืองโคราชดังกล่าว เปิดเผยว่า คณะกรรมการเครือข่ายฯได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ถือเป็นภาพสะท้อนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เรามีความห่วงใยในสิ่งที่เกิดขึ้นและตื่นตระหนกกันทุกฝ่าย ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จนถึงขณะนี้ยังมีการพูดคุยกับผู้ปกครองของน้องที่เสียชีวิต และช่วยเหลือเยียวยาตามขั้นตอน

 

เนื่องจากปีการศึกษาที่ผ่านมาเรียนออนไลน์และโรงเรียนเพิ่งเปิดเรียนเต็มรูปแบบไม่ถึงสัปดาห์ นักเรียนและครูที่ปรึกษายังมีไม่มีโอกาสพบปะเจอกันมากนัก เมื่อมีปัญหาก็ไม่มีผู้คอยให้คำปรึกษาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยเฉพาะวัย 14 ปี หรือ ม.2 เป็นวัยเริ่มเปลี่ยนแปลงจากเด็กเป็นผู้ใหญ่มีความรู้สึกเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูง

 

 

ส่วนพ่อแม่ในสังคมปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง สนใจในเรื่องการทำงานหาเงินเป็นหลักเพื่อส่งเสียเลี้ยงดูให้บุตรหลานมีอนาคตก้าวหน้า ขณะเดียวกันอาจละเลยไม่มีเวลาในการดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างผู้ปกครองกับนักเรียนมากขึ้น โดยธรรมชาติเด็กมักเชื่อฟังเพื่อนมากกว่าผู้ปกครอง ดังนั้นช่วยกลับหันหลังมาดูบุตรหลานมากขึ้น แม้อาจจะถูกปฏิเสธบ้าง แต่ต้องพยายามเอาใจใส่พยายามทำทุกทางเพื่อบุตรหลานเปิดใจสะท้อนปัญหาให้ฟังได้ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเยียวยาให้ดีขึ้น

 

ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญกับเครือข่ายผู้ปกครองมากขึ้น กรณีบุตรหลานมีปัญหาเกี่ยวกับการเรียนและพฤติกรรมเบี่ยงเบนต่างๆ สามารถนำมาแลกเปลี่ยนกับเครือข่ายกันได้ จะช่วยลดปัญหาได้ในระดับหนึ่ง ที่สำคัญต้องมีการนัดพบปะพูดคุยกับเครือข่ายบ้าง ซึ่งดีกว่าทักทายพูดคุยในโลกออนไลน์เพียงอย่างเดียว เพื่อกระชับความสัมพันธ์กัน เมื่อมีปัญหาอะไรก็มีที่พึ่งพิงไม่เผชิญปัญหาอย่างโดดเดี่ยว มุ่งหวังให้มีทัศนคติ ลูกเพื่อนทุกคนเหมือนลูกตัวเอง ผู้ปกครองและนักเรียนจะเป็นเพื่อนกันไปจนโต

 

ด้านนายศิลปสิทธิ์ ทับทิมธงไชย อดีตผอ.โรงเรียนสุรนารีวิทยา ในฐานะประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้เพิ่มความเข้มข้นในการดูแล ติดตามและช่วยเหลือเริ่มตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนและหลังเลิกเรียนรวมทั้งเพิ่มจุดติดตั้งกล้องวงจรปิดตามอาคารเรียน เพื่อตรวจสอบไม่มีใครตกค้าง ส่วนในห้องเรียนครูที่ปรึกษาต้องหมั่นตรวจสอบ และเพื่อน ๆ คอยเป็นหูเป็นตาให้ด้วย เนื่องจากไม่เคยมีเหตุการณ์เกิดขึ้น

 

ข้อกังวลเรามีนักเรียนเยอะขึ้นและมาจากหลายครอบครัว หลากหลายสถานะ และปีการศึกษาที่ผ่านมามีวิกฤตโควิด-19 ต้องเรียนออนไลน์ เราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของลูก ๆ ทั้งนี้ต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและลูก ๆ ต้องเจริญเติบโตก้าวหน้าและมีความสุขกับการเรียน

 

ข่าวโดย เกษม ชนาธินาถ จ.นครราชสีมา