ภูเก็ต ยืนยัน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ "ฝีดาษลิง"

ภูเก็ต ยืนยัน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ "ฝีดาษลิง"

รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต ยืนยัน ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ “ฝีดาษลิง” ตามที่เป็นข่าว ส่วนที่มีผู้ป่วยต้องสงสัย มีการตรวจหาเชื้อแล้วพบเป็น “เริม” แต่ไม่ประมาท ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 65 สืบเนื่องจากการรายงานข้อมูลผู้ป่วยเข้าข่ายอาการ 5 ราย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไอซ์แลนด์ 3 ราย และเป็นพี่น้อง ได้เดินทางมาเรียนมวยไทยใน จ.ภูเก็ต และพบว่าทั้ง 3 คน มีอาการเข้าข่ายเป็นโรคฝีดาษลิง เนื่องจากมีตุ่มนูนใส ตามลำตัว แต่เมื่อนำไปตรวจด้วยวิธี RT-PCR จาก 2 ห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ และศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิกโรงพยาบาลจุฬาฯ พบผลยืนยันว่าเป็นโรคเริมเท่านั้น นอกจากนี้จากการสอบสวนโรค “ฝีดาษลิง” มีผู้ป่วยเข้าข่ายอีก 2 รายที่ใช้บริการยิมกับผู้ป่วย 3 รายแรก จากการใช้อุปกรณ์ในยิมร่วมกัน ซึ่งผลตรวจจากห้องปฏิบัติการพบว่า เป็นโรคเริมเช่นกัน จากกรณีดังกล่าวทำให้มีผู้สัมผัสใกล้ชิด 20 ราย เป็นผู้สอน และคนที่เข้ามาเล่นในยิม เบื้องต้นผู้ป่วยทั้ง 5 ราย เข้ารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร
 

ขณะที่ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในเรื่องนี้ว่า จากรายงานทางการแพทย์ยืนยันว่า ขณะนี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ยังไม่พบผู้ป่วยที่เป็นโรคฝีดาษลิง โดยข่าวที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิด เพราะขณะนี้ผลจากการตรวจหาเชื้อของผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นชาวต่างชาติดังกล่าว และเดินทางมาเรียนมวยไทย ไม่พบว่า เป็นโรคฝีดาษลิงแต่เป็นการป่วยด้วยเริม จากการเข้าไปใช้บริการในสนามมวยแห่งหนึ่ง เนื่องจากมีผู้ป่วยด้วยโรคเริมเข้าไปใช้บริการก่อนหน้า โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับทางผู้ประกอบการในลักษณะที่มีคนไปสัมผัสและอาจมีสารคัดหลั่งแปดเปื้อนติดค้างอยู่ในอุปกรณ์ เช่น กระสอบทราย เป็นต้น มีการทำความเข้าใจในเรื่องของการทำความสะอาด และหากพบอาการต้องสงสัยเบื้องต้นให้มีการหาเชื้อ เพื่อความชัดเจน โดยมาตรการต่างๆ ที่จะออกมานั้น ยังต้องรอข้อมูล ตลอดจนแนวทางการปฏิบัติจากส่วนกลางอีกครั้ง เมื่อกำหนดมาตรการและประกาศใช้ต่อไป

อย่างไรก็ตามนายพิเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ และมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน เนื่องจากขณะนี้เราอยู่ในช่วงของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ ณ เวลานี้ ยืนยันว่า ยังไม่พบผู้ป่วยด้วยโรคฝีดาษในจังหวัดภูเก็ต