เรือโดยสารไทย-ลาว เพิ่มความระมัดระวัง หลังน้ำโขงสูงขึ้น

เรือโดยสารไทย-ลาว เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หลังระดับน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้น มีสีแดงขุ่นและไหลแรง

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ระดับน้ำโขง ที่จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ วัดได้ 6.70 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 7.35 ม. เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 15 เซนติเมตร น้ำโขงมีสีแดงขุ่นและไหลแรง ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ประกาศเตือนเฝ้าระวังน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอีกภายใน 1-2 วันนี้ ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเรือโดยสาร ระหว่างไทย และ สปป.ลาว ต้องตรวจสภาพความพร้อมของเรือโดยสาร ทั้งเครื่องยนต์ ระบบความปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎระเบียบของกรมเจ้าท่าอย่างเคร่งครัด ไม่บรรทุกน้ำหนักเกิน และผู้โดยสารไม่ให้มีมากเกินกำหนด ให้ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสารเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ประกาศของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน

ด้วยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง ตั้งแต่วันที่ 17-23 พ.ค. พบว่าในพื้นที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีปริมาณฝนตกหนักสะสม 250 มิลลิเมตร ส่งผลให้ในวันที่ 23 พ.ค.ผ่านมาเขื่อนน้ำอู ในสปป.ลาว เพิ่มปริมาณน้ำระบายจาก 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 2,400ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำที่บริเวณสถานีหลวงพระบางมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ คาดการณ์มวลน้ำหลากจะไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรี ในสปป.ลาว อยู่ในเกณฑ์ 6,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงท้ายเขื่อนไซยะบุรี ตั้งแต่บริเวณอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร และอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 1.00-1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 25-26 พ.ค.นี้

ทั้งนี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอให้จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี โปรดประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงและแจ้งเตือนให้ประชาชนที่สัญจรและประกอบกิจกรรมในบริเวณแม่น้ำโขง รวมทั้งผู้ที่อาศัยในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขงอย่างฉับพลัน