นักท่องเที่ยวเข้าไทย ไตรมาสแรกปี 2565 รายได้โต 1,400% เช็กรายละเอียด

นักท่องเที่ยวเข้าไทย ไตรมาสแรกปี 2565 รายได้โต 1,400% เช็กรายละเอียด

ตรวจสอบเลย นักท่องเที่ยวเข้าไทย ไตรมาสแรกปี 2565 รายได้โต 1,400% มาแล้วกว่า 1 ล้านคน คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยไม่น้อยกว่า 300,000 คนต่อเดือน

กรณีนักท่องเที่ยวเข้าไทย เดินทางมาแล้วกว่า 1 ล้านคน ไตรมาสแรกปี 2565 รายได้เพิ่ม 1,400% คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยไม่น้อยกว่า 300,000 คนต่อเดือน

ตัวเลขนักท่องเที่ยวแห่เข้าไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังรัฐบาลเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่แนวโน้มคงที่ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พบว่าในช่วงเดือนมกราคม – 22 พฤษภาคม 2565 ดังนี้

  • นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยแล้ว 1,016,103 คน 
  • จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในเดือนมกราคม-มีนาคม 2565 จำนวน 497,693 คน
  • ส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวในไตรมาสแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปี 2564 สูงกว่า 2,368 % 
  • มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 1,424% 

นโยบาย “ปีส่งเสริมท่องเที่ยวไทย 2565-2566” หรือ Visit Thailand Year 2022-2023 ซึ่งในช่วงไตรมาส 2-3 นี้ รัฐบาลจะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีคุณภาพจากทั่วโลกเข้าประเทศไทยไม่น้อยกว่า 300,000 คนต่อเดือน ในขณะที่ไตรมาส 4 จะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางไม่น้อยกว่าเดือนละ 1,000,000 คน คาดว่าสิ้นปี 2565 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 5,000,000 คน

การขับเคลื่อนนโยบายเปิดประเทศ ที่ ศบค. ได้มีการผ่อนปรนมาตรการเข้าประเทศ เริ่ม 1 มิถุนายน 2565 เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงต้องลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass อยู่ เพียงกรอกเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น ได้แก่ 

  1. วัคซีน 
  2. ประกัน 
  3. หนังสือเดินทาง (รับ QR code ทันทีหลังลงทะเบียนเสร็จ) 

นักท่องเที่ยวเข้าไทย ไตรมาสแรกปี 2565 รายได้โต 1,400% เช็กรายละเอียด

มาตรการภาครัฐเพื่อส่งเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน รวมถึงการเน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะมาตรการ Universal Prevention  และ Universal Vaccination ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด – 19 นั้น จะส่งเสริมให้ ปี 2565 นี้ เกิดรายได้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ในภาพรวมได้ไม่น้อยกว่า 1.3-1.8 ล้านล้านบาท