"บิ๊กโจ๊ก" พบผู้แทนสหรัฐ โชว์ผลงานค้ามนุษย์รอบ8เดือน

"บิ๊กโจ๊ก" พบผู้แทนสหรัฐ โชว์ผลงานค้ามนุษย์รอบ8เดือน

"บิ๊กโจ๊ก" นำทีมพบผู้แทนรัฐบาลสหรัฐ โชว์ผลงานปราบปรามคดีค้ามนุษย์ 8 เดือน จับกุมเกือบ 400 คดี ยึดทรัพย์กว่า 100 ล้านบาท เผย สหรัฐ ไม่ได้สอบถามปม “พล.ต.ต.ปวีณ” แต่สนใจช่วยเหลือเหยื่อในกัมพูชา ขอให้ไทยแจง 6 ข้อ

23 พ.ค.2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 15-18 พฤษภาคมที่ผ่านมา คณะผู้แทนไทย นำโดย นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือและนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของไทย ที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ก่อนการพิจารณาจัดอันดับรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์จากทางการสหรัฐฯ หรือ Tier ช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ หลังจากไทยถูกจัดอันดับประเทศที่ต้องจับตามอง หรือ Tier 2 Watch List เป็นเวลา 2 ปี ติดกัน หากไม่ได้รับการปรับแก้ ก็จะถูกปรับเป็น Tier 3 อัตโนมัติ 

โดยฝ่ายไทย ได้สรุปผลงานภาพรวมการแก้ปัญหาหารค้ามนุษย์ และการช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะ แนวทางการให้ความช่วยเหลือคนไทย จากประเทศกัมพูชา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึง การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยช่วงเดือนตุลาคม 2564 ถึง พฤษภาคม 2565 มีการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ไปแล้ว 193 คดี เช่นเดียวกับคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก มีการจับกุมทั้งหมด 200 คดี และช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ไม่มีคดีที่ศาลสั่งไม่ฟ้อง นอกจากนี้ ยังมีการยึดทรัพย์กว่า 142 ล้านบาท มีวงเงินหมุนเวียนกว่า 1,600 ล้านบาท ส่วนคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ยังมีการขยายผลอย่างต่อเนื่อง

ส่วนกรณี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ลี้ภัยไปต่างประเทศ อ้างเป็นผลมาจากการทำคดีค้ามนุษย์ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีนี้ รัฐบาลและรัฐสภาของสหรัฐ ไม่ได้สอบถาม เท่ากับไม่ให้ความสำคัญ จึงไม่มีประเด็น ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สำนวนคดีค้ามนุษย์ที่พลตำรวจตรีปวีณเกี่ยวข้อง มีความสมบูรณ์ และศาลพิพากษาแล้ว ประกอบกับพนักงานสอบสวนคดีนี้ ก็เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน คดีนี้ถือว่า ไม่มีปัญหา เพราะหากมีปัญหา พนักงานสอบสวนก็ต้องหนีทั้งหมด

“ทางฝ่ายสหรัฐ พอใจด้านการปราบปราม และดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ของไทย ให้ความสนใจกับการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ที่ถูกหลอกไปทำงานในประเทศกัมพูชา ที่มีเหยื่อกว่า 200 คน ซึ่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมเดินทางประเทศกัมพูชา เพื่อประสานจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์คนไทยอีก 31 ราย ที่ยังอยู่ในประเทศกัมพูชา เพื่อนำตัวส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยต่อไป”

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ บอกอีกว่า ทางการสหรัฐ ยังเสนอแนะเพิ่มเติม ให้เน้นการบูรณาการของหน่วยงานต่าง ๆ และการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ให้เป็นระบบ โดยเฉพาะ เด็ก ให้กลับสู่พ่อแม่ผู้ปกครองโดยเร็ว และจ่ายเงินเยียวยาเหยื่อให้เร็วที่สุด รวมทั้ง เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายกับแรงงานภาคบังคับ เน้นการตรวจแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม และการปราบปรามการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งสัปดาห์หน้า จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีกหลายราย

โดยวันนี้ พนักงานสอบสวน จะส่งคดีของอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่โทรสั่งการให้เกลี้ยกล่อมเด็กผู้เสียหายให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาซื้อบริการประเวณีเด็ก ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้ ปปช.ภาค 8 ส่งเรื่องให้ ปปช. พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร หากส่งเรื่องกลับมาให้ตำรวจพิจารณา ก็จะมีการแจ้งข้อหา ขัดขวางการสืบสวนสอบสวนคดีค้ามนุษย์ ต่อไป

นอกจากนี้ ทางการสหรัฐ ได้ให้ไทยส่งเอกสารชี้แจงประเด็นเพิ่มเติม 6 ข้อ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 3 ข้อ เช่น สถิติการช่วยเหลือผู้เสียหาย / รายละเอียดเพิ่มเติมในคดีที่ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกกว่า 300 ปี ขณะที่ ฝ่ายไทย เสนอให้ฝ่ายสหรัฐ พิจารณาเรื่องการค้ามนุษย์ เป็นระดับภูมิภาค ไม่ใช่รายประเทศ และจับคู่ประเทศ เช่น ไทยกับเมียนมา