"เสี่ยชัช" ถูกแก๊งคอลฯ หลอกเชิดเงิน 4 พัน เล่าหมดเหมือนจริงมาก

คนดังโซเชียล "เสี่ยชัช" แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ หลอกเป็นตำรวจเชิดเงินกว่า 4 พัน โร่แจ้งความอายัดบัญชี เผยโชคดีมีติดบัญชีบอกแค่ 4 พันกว่า ส่วนอีกบัญชีเกือบล้าน เล่าหมดเหมือนจริงมาก

นายธนสิทธิ์ สุขเกตุ หรือ “เสี่ยชัช สายเปย์” นักรักสายเปย์เมืองกล้วยไข่ เดินทางไปยัง สภ.เมืองกำแพงเพชร เมื่อวันที่ 19 พ.ค.65 เวลา 15.00 น. เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.นิกร ใบเนียม พงส.สภ.เมืองกำแพงเพชร ถึงกรณีที่ตนถูกขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์แจ้งว่าเป็นพนักงานไปรษณีย์ อยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

 โดยแจ้งว่าตนมีพัสดุตกค้างเป็นประเภทเสื้อผ้าและมีสิ่งของผิดกฏหมายอยู่ในกล่องพัสดุ และหลังจากนั้นเหมือนมีการโอนสายไปยังอีกบุคคลหนึ่งซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีเสียงการพูดคุยกันโดยแต่ละคนพูดกันในทำนองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศต่างๆอยู่ภายในห้องเดียวกันและอ้างว่าสังกัดอยู่ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 

หลังจากนั้นได้ออกกลอุบายต่างๆ นานานา โดยแจ้งกับนายธนสิทธิ์ ว่ามีขบวนการฟอกเงินเป็นจำนวนเงิน 80 ล้านบาทโดยใช้บัญชีธนาคารของตนเป็นบัญชีรับโอนเงินที่ผิดกฏหมาย และแจ้งว่าในวันนี้ทางสำนักงาน ปปง. ต้องการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของตน โดยให้ตนบอกหมายเลขบัญชีธนาคารที่ใช้อยู่ พร้อมทั้งเลขบัตรประจำตัวประชาชน 4 ตัวหลังไปให้ โดยให้แอดไลน์ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งมาแล้วให้ส่งข้อมูลเอกสารต่างๆไปให้ ซึ่งตลอดการพูดคุยทางกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดจาข่มขู่ว่าหากไม่ให้ความร่วมมือจะติดตามดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมทั้งส่งรูปภาพที่มีการเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหารายหนึ่งซึ่งอ้างว่าเป็นหัวหน้าขบวนการ และรูปบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจระบุชื่อเจ้าของบัตร ร.ต.ต.ไกรสรณ์ ตำแหน่ง รอง ผบ.หมู่(สส.)สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 

และแจ้งว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ซัดทอดมายังตน ทั้งนี้กลุ่มคนดังกล่าวได้พูดจาหลอกล่อให้ตนแสดงหลักฐานทางการเงินโดยให้โอนเงินทั้งหมดที่มีอยู่ในธนาคารทั้งหมดไปให้ตรวจสอบ และแจ้งว่าใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 40 นาทีหลังตรวจสอบเสร็จจะทำการโอนคืนมาให้ตนในบัญชีตามเดิม 

ขณะนั้นตนรู้สึกตกใจกลัวเป็นอย่างมากจึงได้ทำตามที่กลุ่มคนนั้นแจ้งมาทุกอย่างรวมทั้งตนได้โอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีธนาคารไปกว่า 4 พันบาท หลังโอนเงินให้ตรวจสอบตนเมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้ตนจึงโทรศัพท์กลับไปสอบถามแต่กลับติดต่อไม่ได้อีกเลย รวมทั้งข้อความในไลน์ที่สนทนากันก็ถูกลบออกไป ตนจึงทราบว่าน่าจะถูกกลุ่มคนดังกล่าวหลอกลวงให้โอนเงินไปอย่างแน่นอน แต่ดีที่ตนแคปข้อความที่โทรศัพท์เอาไว้ได้ และนำเอาหลักฐานต่างๆที่มีอยู่มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในวันนี้

ตนยอมรับว่า ตนตกใจกลัวเป็นอย่างมาก และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตนที่ผ่านมาตนไม่มีเวลาดูข่าวที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในสังคมบ้านเราจริงๆประกอบกับตนเป็นคนซื่อใครพูดอย่างไร ก็คิดไปอย่างนั้น อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวยังเดินทางไปยังบ้านไม่มีเลขที่ ม.1 ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่งด้านหน้าเปิดเป็นสถานที่เพาะชำหน่อกล้วยแห่งใหม่ของนายธนสิทธิ์ สุขเกตุ หรือ ”เสี่ยชัช สายเปย์” นักรักคนดังเมืองกำแพงเพชร ซึ่งกำลังปรับปรุงตกแต่งร้านแห่งใหม่นี้ เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรณีดังกล่าว

นายธนสิทธิ์ สุขเกตุ หรือ “เสี่ยชัช สายเปย์” กล่าวว่า ตนได้รับโทรศัพท์ที่เข้ามาสายหนึ่งแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ และแจ้งตนว่ามีพัสดุตกค้าง ซึ่งเป็นเสียงผู้หญิงบอกว่าตนเองส่งไปให้คนอื่นตกค้าง เป็นเสื้อผ้า มีชื่อที่อยู่เบอรโทร และรายละเอียดต่างๆครบ ซึ่งก็ถามตนเองว่าใช้ของเสี่ยงชัขไหม? ตนก็บอกว่าผมส่งแต่ "หน่อกล้วยกับพุทรากวน" เท่านั้นไม่ใช่ของตนเองแน่นอน จากนั้นเสียงผู้หญิงที่โทรมาก็บอกว่า งั้นตนเองต้องไปแจ้งความ เพราะไม่งั้นจะมีความผิด เพราะตอนนี้ได้จับผู้ร้ายไว้ได้ เป็นคดีฟอกเงินจำนวนกว่า 80 ล้าน แล้วเป็นการนำบัญชีธนาคารของเสี่ยชัชไปใช้ และระบุว่าเสี่ยชัขได้ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องไปแจ้งความทึ่ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ตนเองก็บอกว่าจะไปได้ยังไงระยะทางมันไกล้ ซึ่งก็บอกให้ตนเองแจ้งความทางโทรศัพท์ ตนเองเลยบอกข้อมูลทุกอย่างหมดเลย ซึ่งก็ได้แอดไลน์และส่งข้อมูลไปให้มิจฉาชีพด้วย 

ยอมรับว่าตนเองโง่มาก ซึ่งขั้นตอนทุกอย่างเหมือนจริงมาก โดยปลอมเป็นตำรวจแล้วบอกว่าหากไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะมีความผิด และห้ามบอกคนอื่นๆ ซึ่งสุดท้ายก็ให้โอนเงินในบัญชีของตนเองไป อ้างว่าจะได้ยืนยันว่าในบัญชีของตนเองมีเงินอยู่เท่านี้จริงๆ ซึ่งบัญชีนี้มีอยู่ 4,566 บาท ซึ่งตนก็วิ่งไปที่หน้าตู้ ATM ขอใหัพนักงาน 7-11 และคนที่อยู่ตรงนั้นโอนให้ เพราะตนเองมองไม่ค่อยเห็นทำรายการไม่ค่อยถูก สุดท้ายโอนไป 4,500 บาท จากนั้นก็ถ่ายสลิปส่ง LINE ให้มิจฉาชีพ และก็วางสายไป ตนเองก็โล่งใจที่จบเรื่องสักที โดยตั้งใจว่าจะไม่เล่าให้ใครฟัง สุดท้ายมาถามกับผู้สื่อข่าวก็ได้รู้ว่าตนเองถูกหลอก และไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร