ผอ.รร.สตรีพัทลุง แจง เด็กนร.หญิงผูกคอตาย ปมสื่อสารไม่เข้าใจกัน

ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีพัทลุง เผยกรณีเด็กนักเรียนผูกคอตาย เชื่อมั่นครูในโรงเรียนไม่คิดร้ายกับเด็กแน่นอน แต่อาจจะสื่อสารกันไม่ครบถ้วน

นางมาลี แก้วละเอียด ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีพัทลุง เปิดเผยว่า ในเรื่องนี้ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องโบนัส และได้เปิดเรียนล่วงหน้าเนื่องจากมีงานกีฬา ส่วนน้องโบนัส ครูที่รับผิดชอบคือครูสุรวัฒน์

ตนเองได้รับข่าวจากครูสุรวัฒน์ ในช่วงเปิดเทอมคือในช่วงวันที่ 9-11 พฤษภาคม ที่เป็นการเรียนสลับ ออนไซด์กับออนไลน์ ครูก็รู้ว่าเด็กไม่มาเรียน และได้ติดต่อไปยังน้องบนัส วันที่ 9 ที่ครูรายงานมา ก็รับทราบว่าไม่ได้อยู่ที่จังหวัดพัทลุง เขาไปอยู่กับแม่ที่ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ไม่สามารถกลับมาโรงเรียนนี้ได้ เนื่องจากไม่มีที่พัก และไม่มีผู้ดูแล 

 

ครูจึงได้ไปปรึกษาครูอีกท่าน ว่าให้ไปแจ้งหัวหน้างานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ก็คือครูจรรยา ที่เป็นครูที่วางระบบดูแลนักเรียนทั้งหมด และเป็นครูที่รู้ข้อมูลเด็กทั้งโรงเรียนมากที่สุด

วันที่ 10 พฤษภาคม ครูสุรวัฒน์ก็ได้รับแจ้งจากทางแมสเซสเฟซบุ๊กของน้องว่าไม่สามารถมาเรียนได้ เนื่องจากว่าไม่สบาย ขอลาโรงเรียนในวันดังกล่าว พอถึงวันที่ 11 พฤษภาคม ช่วงเวลา 16.17 น. ครูสุรวัฒน์ ก็ติดต่อสอบถามเด็กไปว่าเดินทางกลับมาพัทลุงหรือยัง เด็กก็ตอบมาว่า อยากกลับแต่ไม่สามารถกลับมาได้ จึงได้ถามเหตุผล แต่เด็กตอบมาว่ายังไม่สะดวกที่จะบอกข้อมูล จึงไม่ได้สอบถามต่อ จากนั้นครูสุรวัฒน์ จึงได้เดินไปพบครูจรรยา เพื่อปรึกษาว่าจะทำอย่างไรก็เด็กคนนี้ 

 

เขาอยากจะเรียน ไม่มีที่เรียน ไม่มีที่พัก ครูจรรยา จึงให้ครูสุรวัฒน์ ติดต่อไปอีกครั้งเพื่อพูดคุยกับเด็ก แล้วแนะนำเด็กไปว่า ถ้าเรียนที่บ้านก็จะประหยัดค่าใช้จ่าย และดีกว่า เนื่องจากผู้ปกครองก็คือแม่ก็อยู่ที่นั่น การที่มาเรียนที่พัทลุง แล้วไม่มีผู้ปกครองก็ไม่ได้ จะให้เด็กเช่าบ้านอยู่คนเดียวก็คงจะไม่ได้ แต่ถ้าอยากจะเรียนที่นี่ก็ต้องให้แม่ยินยอม จะได้ติดต่อให้ไปอยู่ที่บ้านพักเด็กและเยาวชน ที่มีที่พัก รวมทั้งอาหาร รวมทั้งรถรับส่งมาโรงเรียน แต่ต้องให้แม่เป็นคนมาดำเนินการ ซึ่งทางโรงเรียนก็ไม่ทราบว่าสถานการณ์ของครอบครัวเด็กขณะนั้นเป็นอย่างไร แต่ตามกฎหมายถ้าจะให้เด็กเข้าบ้านพักเด็ก แม่ต้องมาเซ็นยินยอม จนกระทั่งมาทราบว่า น้องโบนัส ตัดสินใจคิดสั้น

ส่วนหลังจากเกิดเหตุ เด็กนักเรียนไปโพสต์ในทวิตเตอร์ ว่าครูใช้คำพูดไปกดดันเด็ก แต่จากการดูพฤติกรรมการทำงานของครูจรรยา ที่เป็นหัวหน้างานดูแลนักเรียนมาสามปี ที่ผ่านมาก็ช่วยเหลือเด็กคนอื่นๆมาตลอด ส่วนประเด็นที่เด็กโพสต์ในทวิตเตอร์ว่าครูบอกว่าถ้าไม่มีเงินก็ไม่ต้องเรียนนั้น ส่วนตัวเองก็ไม่ได้ยินก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับครูด้วย แต่เชื่อมั่นว่าไม่มีครูคนไหนที่จะไม่ปรารถนาดีกับเด็กอย่างแน่นอน และเชื่อมั่นในความเป็นครูของครูโรงเรียนสตรีพัทลุงทุกคน

จะพูดว่าไม่มีเงินแล้วไม่มีสิทธิ์เรียนที่นี่ เชื่อว่าไม่ใช่ เป็นไปไม่ได้ คงไม่มีครูคนไหนพูดเช่นนั้น แต่ก็คงจะต้องเสาะหาข้อเท็จจริงกัน และได้ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง 5 คน เพื่อจะสอบถามว่าความจริงของเรื่องนี้คืออะไร ซึ่งก็จะต้องให้ความเป็นธรรมกับครู และให้ความเป็นธรรมกับเด็ก และเด็กคนนี้ก็อยู่ในระหว่างการเตรียมที่จะช่วยเหลือตามระบบอยู่แล้ว ที่จะต้องเดินไปตามขั้นตอน แต่เวลาที่ได้คุยกับเด็กครั้งสุดท้ายวันที่ 11 พฤษภาคม จนมาทราบข่าวว่าเด็กเสียชีวิต

ส่วนตัวคิดเองว่า ครูคงไม่ได้อธิบายถึงรายละเอียดในการไปอยู่ที่บ้านพักเด็ก เด็กอาจจะมองอีกมุม การสื่อสารกับเด็กอาจจะทำให้เด็กไม่เข้าใจ ทางโรงเรียนกำลังจะดำเนินการให้เด็กมาอยู่ที่บ้านพักเด็ก แต่ก็ต้องให้ทางผู้ปกครองก็คือแม่ อนุญาต ในส่วนปัญหาของครอบครัวน้อง คงจะพูดไม่ได้ แต่ความหมายของเด็กที่บอกเพื่อนให้เปิดโปง คืออะไร เพราะในระหว่างนั้น เด็กก็คุยกับครูสุรวัฒน์อยู่ ซึ่งครูก็บอกว่ายังคุยกันดี ยังระบุให้เด็กมาพร้อมกับแม่ ในช่วงวันที่ 17-20 พฤษภาคม ซึ่งเด็กก็รับทราบ และไม่นึกว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้ และก่อนหน้านี้ตอนเรียน ม.2 ก็ยังสามารถติดต่อแม่เด็กได้ โดยทางแม่เด็กบอกว่า ฝากครูดูแลให้ลูกเรียนจบ ม.2 ก่อน แล้วค่อยย้ายไปเรียนใกล้บ้าน ที่คลองหอยโข่ง เพื่อไปอยู่กับแม่เรียนจบ ม.2 ก่อน แล้วค่อยย้ายไปเรียนใกล้บ้าน ที่คลองหอยโข่ง เพื่อไปอยู่กับแม่