ดีเปรสชันทวีความรุนแรงเป็นพายุไซโคลน “ภาคใต้” ฝนตกหนัก

ดีเปรสชันทวีความรุนแรงเป็นพายุไซโคลน “ภาคใต้” ฝนตกหนัก

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า พายุดีเปรสชันอ่าวเบงกอล ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ในช่วงวันที่ 7 –10 พ.ค. 65 ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้น และฝนตกหนักบางแห่ง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน และจะเคลื่อนขึ้นไปปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

 

ส่วนในช่วงวันที่ 11-13 พ.ค. 65 ลมใต้และตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง 

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และอ่าวไทย มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตลอดช่วง

 

ข้อควรระวัง -  ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉลับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง 

อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 7 – 10 พ.ค. 65 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 65 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง 

อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส 

ในช่วงวันที่ 7 – 10 พ.ค. 65 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 65 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 7 – 10 พ.ค. 65 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 65 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก 

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 7 – 10 พ.ค. 65 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 65 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 7 – 10 พ.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

ในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ 

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. มีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร 

อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง 

อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส

ในช่วงวันที่ 7 – 10 พ.ค. 65 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. 

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

ในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 65 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

มีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง 

อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส 

ในช่วงวันที่ 7 – 10 พ.ค. 65 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 65 ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.