"น้ำมันแพง" เรือประมงสงขลาจอดไปแล้ว 80% หันไปพึ่งน้ำมันเถื่อนช่วยต่อชีวิต

นายกสมาคมประมงสงขลา ระบุ ราคาน้ำมันดีเซลพุ่ง เรือประมงสงขลาแบกภาระต้นทุนไม่ไหว จอดไปแล้ว 80% หันไปพึ่งน้ำมันเถื่อนช่วยต่อชีวิต

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 65 นายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมง จ.สงขลาเปิดเผยว่า เมื่อรัฐบาลปล่อยให้ราคาน้ำมันดีเซลลอยตัว ส่งผลให้เรือประมงต้องแบกภาระต้นทุนเพิ่ม แต่ในขณะที่ปลาจับได้ปริมาณเท่าเดิม ราคาขายเท่าเดิม เรือประมงในสังกัดสมาคมประมงสงขลา 80% จากเรือประมง 500 กว่าลำ ต้องหยุดทำการประมงเพราะสู้กับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว ส่วนเรือประมงที่ยังไม่ยอมหยุดทำการประมงประมาณ 20 %ต้องจำใจเติมน้ำมันเถื่อนซึ่งมีราคาถูกกว่าน้ำมันเขียวลิตรละ 6 บาท คุณภาพดีกว่าและเครดิต 7 วัน แถมไม่ต้องวิ่งออกไปเติมน้ำมันไกลด้วย หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 เดือน คาดว่าชาวประมงจะหยุดทำการประมงอีก 10% ผู้บริโภคจะได้บริโภคปลาจากมาเลเซียและประเทศพม่าซึ่งมีต้นทุนต่ำในราคาขายแพง

นายสุรเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าพูดกันตามตรงแล้วน้ำมันจะเป็นปัจจัยหลักซึ่งเป็นต้นทุนระดับต้นๆ ส่วนค่าแรงงานก็เป็นต้นทุนระดับที่ 2 ในเมื่อปัจจัยหลักเรื่องน้ำมันเข้ามามีผลกระทบมันก็ต้องมีผลกระทบมากในระยะนี้ สำหรับเรือประมงที่มีสายป่านสั้นก็ต้องจอดกันไป ณ ปัจจุบันนี้ผมคิดว่าน่าจะจอดเพิ่มขึ้นอีก 40% วันนี้ประมงในเขตจังหวัดสงขลาทั้งหมดจอดไปแล้วประมาณ 80% เนื่องจากแบกภาระต้นทุนในเรื่องค่าน้ำมันไม่ไหว สัตว์น้ำยังคงได้ปริมาณที่เท่าเดิม ราคาขายก็เท่าเดิม แต่ต้นทุนที่สูงขึ้น ถ้าเผื่อว่าราคาขายมีราคาที่สูงขึ้นตามแนวผู้บริโภคตามท้องตลาดทั่วไปก็อยู่ได้ แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า ในเมื่อราคาขายยังเท่าเดิมแต่ต้นทุนกลับสูงขึ้น ภาพสะท้อนมันออกมาว่า การทำธุรกิจมันไปต่อไม่ได้ยิ่งฝืนไปมันก็จะยิ่งเจ็บตัวหนัก

เพราะฉะนั้นการที่จะเจ็บตัวน้อยก็ต้องจอดเรือ ทีนี้พอจอดเรือแล้ว ผมให้คำแนะนำบอกว่าอย่าไปกังวลเรื่องเมื่อเรือจะออกแล้วจะไม่มีลูกน้องเรือมาทำงาน ในเมื่อตั้งใจจะจอดแล้วไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาวจะต้องเกลี่ยคนงานออกให้หมดก็คือต้องอยู่ในสภาพการเลิกจ้างทันที เมื่อไหร่ก็ตาม ที่คุณจอดเรือคุณคิดแค่จะตัดภาระแค่น้ำมัน แต่คุณยังรับภาระปัจจัยรองก็คือต้นทุนค่าแรงงาน มันก็ไม่แตกต่างอะไรเลย และเมื่อนึกจะจอดเรือแล้วต้องตัดให้หมดต้องลดภาระการจ้างจ้างแรงงานด้วย มันก็จะเกิดภาวะการตกงานในระบบการทำงานในเรือประมง

ทุกวันนี้เรามามองว่า สำหรับเรือที่ออกไปทำการประมงอยู่ทุกวันนี้ จะเป็นเรือที่น้ำมันจะใช้ไม่มากจะเป็นเรือที่หาปลากลางน้ำ เขาจะใช้วิธีวิ่งไปเรื่อยๆแต่ไม่ได้โหมหนักในระบบเครื่องยนต์เพราะฉะนั้นน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นจะอยู่ในภาวะที่เขารับได้ถึงแม้ว่าจะขาดทุนก็ขาดทุนไม่มากยังพอมีเงินเข้ามาหมุนสำหรับคนที่มีเรือหลายลำได้บ้าง แต่ถ้าคนมีเรือแค่ลำเดียวก็ต้องจอดสนิทเลย

เพราะฉะนั้นทางออกในภาวะน้ำมันแพงและราคาสินค้ายังเท่าเดิมต้นทุนอย่างอื่นเพิ่มขึ้นก็คือต้องจอดแต่ถ้าคุณออกไปก็ต้องไปหาน้ำมันประเภทอื่น ถ้าคุณไปลงน้ำมันเขียวตอนนี้น้ำมันเขียวกับน้ำมันบนฝั่งตอนนี้ราคามันก็ไม่แตกต่างกันเลย

อีกทางเลือกหนึ่งก็คือว่าอันนี้สุดแล้วแต่ในเมืองไทยผมพูดแบบไม่อายเลย คุณอาจจะไปหาน้ำมันนอกระบบซึ่งเป็นน้ำมันเลี่ยงการเสียภาษีที่มีอยู่ทั่วไปเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงนี้ ต้องรู้และอยากจะสื่อถึงภาครัฐว่าคนเรามันต้องทำงานถึงจะมีเงินเข้ามาดำรงชีพ สำหรับการมีค่าใช้จ่ายหนี้ค่าครัวเรือนอีก 2 อาทิตย์โรงเรียนก็จะเปิดเทอมแล้ว ค่าใช้จ่ายมันจะมีมากขึ้นเท่าไหร่ ถ้าคนไม่ทำงานแล้ว มุ่งแต่จะคอยการอุดหนุนจากภาครัฐเท่าไหร่ก็ไม่พอ

เพราะฉะนั้น เราต้องทำใจว่า ประเทศไทยทุกวันนี้อุตสาหกรรมการประมงไม่ได้รับการส่งเสริมเท่าที่ควร จะมีแต่กฎหมายที่พร้อมจะเล่นงานชาวเรือประมงได้ทุกวี่ทุกวัน ก็ฝากถึงรัฐบาลด้วย