ออกหมายเรียก "ปริญญ์" รับทราบข้อกล่าวหา 5 พ.ค.นี้

ออกหมายเรียก "ปริญญ์" รับทราบข้อกล่าวหา 5 พ.ค.นี้

"รอง ผบช.น." เผย ตำรวจสน.ห้วยขวาง ออกหมายเรียก "ปริญญ์" อดีตรองหัวหน้าพรรคการเมือง รับทราบข้อหา พรากผู้เยาวน์ และ อนาจาร 5 พ.ค.นี้

สอบสวนคดี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กระทำอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศ กับหยื่อหญิงสาวหลายราย 

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ต.ไตรรงค์  เปิดเผยว่า หลังจากการประชุม ทราบว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะคดีที่ สน.ห้วยขวาง พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว วันนี้ได้ขอศาลออกหมายจับ ในข้อหา พรากผู้เยาว์ และกระทำอนาจาร แต่ศาลไม่อนุมัติหมายจับ โดยให้เรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาแทน โดยศาลได้ให้ความเห็นว่า ผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวน และมีคดีในชั้นศาลแล้ว 4 คดี และได้ประกันตัวในชั้นศาลประกอบกับผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงให้ออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา ที่ สน.ห้วยขวาง ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ เวลา 09.00 น.

ส่วนประเด็นการถอนแจ้งความผู้เสียหายทั้งหมด 15 ราย มี 12 คดี ยังไม่มีรายใดถอนแจ้งความ เเละขณะนี้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเเละสอบปากคำใกล้เสร็จสิ้นเเล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถเเจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาได้ ส่วนคดีที่จังหวัดเชียงใหม่เเละเพชรบุรี ก็ให้เเต่ละพื้นที่รับผิดชอบ 

ทั้งนี้ตำรวจไม่มีความกังวลใจในสำนวนคดีเเละพยานหลักฐานต่าง ๆ เเม้ว่าจะเกิดเหตุกับผู้เสียหายเเต่ละรายมานานเเล้ว เเต่หลักฐานอื่น ๆ ก็สามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ส่วนตัวผู้ต้องหานั้นได้สอบปากคำเสร็จไปเเล้ว 3 คดี ส่วนคดีอื่น ๆ หากจำเป็นต้องสอบปากคำเพิ่มเติม ก็จะเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำ ยืนยันตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เเม้เเต่ตัวผู้ต้องหาเองก็สามารถเเสวงหาพยานหลักฐานเข้าสู่สำนวนได้
 

อย่างไรก็ตามรองผบช.น. ชึ้แจงสาเหตุที่ศาลไม่อนุมัติหมายจับ แต่กลับให้ออกหมายเรียกแทน เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเเล้ว 4 คดี เเละมีเงื่อนไขในการประกันตัว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องออกหมายจับซ้ำในคดีที่มีลักษณะเดียวกัน ส่วนข้อกังวลว่าผู้ต้องหาว่าผู้ต้องหาจะออกมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเเละผู้เสียหายนั้น ในเงื่อนไขการประกันตัวระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน มิเช่นนั้นจะถูกถอนประกันตัวทันที ซึ่งขณะนี้ตั้งเเต่ดำเนินคดีไป ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาเเจ้งว่าผู้ต้องหาเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน