ระเบิดในเมียวดีไม่กระทบตลาดริมเมย ทหารไทยเฝ้าระวัง 24 ชม.

พ่อค้าตลาดริมเมยบอกระเบิดฝั่งเมียนมาไม่มีผลต่อร้านค้าในตลาด เปิดขายของตามปกติ ตั้งแต่โควิดก็ เงียบเหงาอยู่แล้ว ขณะที่ทหารไทยเฝ้าระวังใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตากถึงบรรยากาศตลาดริมเมย ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของจังหวัดตาก หลังจากกองกำลังไม่ทราบฝ่ายได้ใช้รถยนต์ใส่ระเบิด หรือ คาร์บอมพุ่งชนกระสอบทรายที่ด่านพรมแดนถาวรเมียวดี – แม่สอด เชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ตรงข้ามบ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 23 เมษายน 65 ที่ผ่านมาว่า ร้านค้าตลาดริมเมยยังคงเงียบเหงาเช่นเดิม มีนักท่องเที่ยวน้อยมาก ถ้าเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) การค้าขายคึกคักมีเงินสะพัดวันละนับสิบล้านบาท แต่เมื่อเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ตลาดริมเมยก็เงียบมานาน
 

นายสมบุญ ภมรสุพรวิซิต อายุ 59 ปี พ่อค้าตลาดริมเมย กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในฝั่งจังหวัดเมียวดี ไม่มีผลต่อการค้าขายในตลาดริมเมย เพราะอย่างไรก็เงียบอยู่แล้ว เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ตลาดริมเมยเงียบมา 2 ปีก่อนแล้ว ฉะนั้นจะเกิดระเบิดหรือไม่ระเบิด ก็ไม่มีผลอะไร แต่ร้านค้ายังเปิดปกติ ขอให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวได้ ไม่มีอันตรายใดๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเหตุการณ์ระเบิดทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 อ.แม่สอด ได้ส่งกำลังทหารไปเฝ้าบริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่1 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจัดชุดลาดตระเวน ด้วยการเดินเท้า และใช้รถจักรยานยนต์ ขณะที่ตำรวจท่องเที่ยวได้ไปตระเวนตามตลาดริมเมย และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้