ส่อแววเปลี่ยนเป็นคดีฉ้อโกง หลังผู้เสียหายแจ้งความติดหนี้กองทุนหมู่บ้าน

ส่อแววเปลี่ยนเป็นคดีฉ้อโกง หลังผู้เสียหายแจ้งความติดหนี้กองทุนหมู่บ้าน

คดี 4 พ่อแม่ลูกหายตัวไปตุรกี ส่อแววเปลี่ยนจากคดีคนหายเป็นคดีฉ้อโกง หลังผู้เสียหายโผล่แจ้งความที่ สภ.บ้านด่านลานหอย อ้างถูกระดมทุนไปปล่อยต่อให้ชาวบ้านติดหนี้กองทุนหมู่บ้าน ผู้การสุโขทัยชี้ คดีคนหายจบแล้ว ส่วนคดีฉ้อโกงอยู่ระหว่างการทำงานของพนักงานสอบสวน

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ นายนิรุตน์ บุญชู อายุ 41 ปี นางสาวนฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี ด.ช.นฤเบศก์ บุญชู อายุ 41 ปี และ ด.ญ.หริญดา บุญชู อายุ 7 ปี 4 พ่อแม่ลูกชาวสุโขทัย ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่10 เม.ย. ที่ผ่านมา และมีการติดตามตรวจสอบตามหาตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนได้ข้อมูลจากตำรวจตรวจคนเข้าเมืองว่าทั้ง 4 คน ได้เดินทางไปที่ประเทศตุรกี และทางพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไร่ ได้เรียกลูกสาวคนโตและญาติ มารับทราบแล้ว โดยคาดว่าการเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่แจ้งให้ลูกสาวคนโตและญาติทราบ อาจเป็นการหลบหนีเจ้าหนี้ หลังมีรายงานข่าวว่าครอบครัวนี้มีหนี้สินจำนวนหลายสอบล้านบาท

ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า ได้มีผู้เสียหายจำนวน 2 รายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย ว่าถูกนางสาวนฤมล เพ็ชรบุญมี หรือ อุ๊ หลอกนำเงินไปลงทุนปล่อยกู้ให้กับชาวบ้านที่ติดหนี้กองทุนหมู่บ้านในพื้นที่อำเภอบ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย จำนวนไม่ต่ำน้อยกว่า 10 ล้านบาท โดยเป็นการระดมทุนมาจากเพื่อนสนิทและนายทุนหลายคน 

ส่อแววเปลี่ยนเป็นคดีฉ้อโกง หลังผู้เสียหายแจ้งความติดหนี้กองทุนหมู่บ้าน
 

โดย พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ ผบก.ภ.จว.สุโขทัย กล่าวว่า ในส่วนของคดีคนหาย ที่ทางญาติของทั้ง 4 คนมาแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.บ้านไร่ ถือว่าสิ้นสุดแล้ว หลังมีการตรวจสอบพบว่าทั้ง 4 คนเดินทางออกไปนอกประเทศไทย ไปยังประเทศตุรกีเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยได้มีการเชิญลูกสาวคนโตและพ่อของนายนิรุตน์ มารับทราบแล้ว สำหรับกระแสข่าวที่มีรายงานว่ามีการแจ้งความเรื่องฉ้อโกงกับนางสาวนฤมล ในพื้นที่ ส.บ้านด่านลานหอย ซึ่งได้รับรายงานมาแล้ว คดีนี้จะเป็นในส่วนของพนักงานสอบสวนของ สภ.บ้านด่านลานหอย ที่จะต้องตรวจสอบคดีว่าเป็นคดีอาญาหรือคดีแพ่ง แล้วพฤติการณ์เป็นอย่างไร พนักงานสอบสวนจะเป็นผู้ทำดำเนินการทั้งหมด ว่าจะดำเนินการไปในทิศทางไหน ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่อแววเปลี่ยนเป็นคดีฉ้อโกง หลังผู้เสียหายแจ้งความติดหนี้กองทุนหมู่บ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สื่อข่าวจะลงพื้นที่ตรวจสอบตามหาผู้เสียหายรายดังกล่าว เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังมีกระแสข่าวว่านางสาวนฤมล นำเงินที่ระดมทุนมาจากนายทุนไปหมุนเวียนซื้อทรัพย์สิน ส่วนตัวจำนวนหลายล้านบาทจนกลายเป็นหน้าสิน ซึ่งอาจทำให้เป็นสาเหตุให้ต้องมีการหลบหนี