อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า

ชวนเที่ยวต้อนรับปีใหม่ 2569 ณ ดอยอินทนนท์ สถานที่ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวง มีพระราชดำริให้ขยายเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เพื่ออนุรักษ์พื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทรงจัดตั้ง "โครงการหลวงอินทนนท์" เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านบนดอยเปลี่ยนมาปลูกพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงแทนการทำลายป่า ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

KEY

POINTS

  • ชวนเที่ยวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ณ ดอยอินทนนท์ สถานที่ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวง มีพระราชดำริให้ขยายเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เพื่ออนุรักษ์พื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
  • ทรงจัดตั้ง "โครงการหลวงอินทนนท์" เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านบนดอยเปลี่ยนมาปลูกพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงแทนการทำลายป่า ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
  • พระราชกรณียกิจของทั้งสองพระองค์ได้พลิกฟื้นดอยอินทนนท์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ควบคู่ไปกับการเป็นแหล่งต้นน้ำและที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืนของชาวบ้าน

เดินทางมาถึงช่วงปลายปีอีกครั้งหนึ่งและใกล้จะถึงช่วงเทศกาลปีใหม่แล้ว ในโอกาสเทศกาลขึ้นปีใหม่ 2569 ที่จะมาถึงนี้ ผมขออำนวยอวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านพบกับความสมบูรณ์พูนสุขในชีวิตและการงาน ตลอดจนมีสุขภาพแข็งแรงตลอดปีและตลอดไป เดินทางท่องเที่ยวกันอย่างมีความสุขและปลอดภัยครับ ครั้งนี้จะพาขึ้นดอยกันอีกครั้ง

ดอยอินทนนท์...ชื่อนี้การันตรีชื่อเสียงว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในเชียงใหม่และของประเทศไปแล้ว ใครที่ไปเชียงใหม่ล้วนแล้วแต่ต้องขึ้นดอยอินทนนท์แทบทั้งสิ้น และบนดอยอินทนนท์ก็ผสานกันระหว่างการรักษาพื้นที่ป่าให้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร และการให้ชาวบ้านที่อยู่บนดอยอยู่ก่อนแล้วนั้น อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ชาวบ้านก็ไม่ได้ไปบุกรุกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่ทำกิน แต่คงใช้ที่ดินที่มีอยู่หรือที่แผ้วถางไปก่อนแล้วนั้น ใช้ประโยชนในที่ดินอย่างคุ้มค่า

กว่าที่ดอยอินทนนท์จะมาเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางอย่างเช่นทุกวันนี้ ดอนอินทนนท์ถือเป็นภูดอยแทบจะเป็นอกลักษณ์ของเชียงใหม่ก็ว่าได้ ด้วยผืนป่าดงดิบชื้นอันหนาทึบ พืชพันธุ์บนยอดดอยแทบจะไม่เห็นผิวของต้นไม้ ด้วยว่าถูกพืชเกาะอาศัยเกาะกุมจนเหมือนไม้ห่มผ้า เป็นต้นธารสายน้ำที่สำคัญหลายสายก่อนจะไหลลงรวมที่แม่น้ำปิง

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า หนึ่งในหลายๆ ครั้งที่รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวง เสด็จดอยอินทนนท์ในอดีต

เดิมนั้นชื่อดอยแห่งนี้เรียกว่า “ดอยหลวง” หรือ “ดอยอ่างกา” เมื่อสมัยก่อน ครั้นเจ้าอินทวิชชานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ถึงแก่พิราลัย เมื่อปี พ.ศ.2440 เจ้าดารารัศมี พระราชธิดาจึงได้อัญเชิญพระราชอัฐิมาประดิษฐานบนยอดดอยแห่งนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่พระองค์ จึงได้เปลี่ยนชื่อดอยจากดอยหลวงหรือดอยอ่างกา มาเป็นดอยอินทนนท์มาจนถึงปัจจุบัน

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า สมเด็จพระพันปีหลวง เสด็จน้ำตกสิริธาร

ดอยอินทนน์เป็นดอยใหญ่ ลักษณะภูมิประเทศมีทั้งภูเขาสูงและที่ราบ ทั้งที่ราบริมน้ำและที่ราบระหว่างหุบดอย มีชาวเขาเผ่าต่างๆ อยู่อาศัยจับจองพื้นที่ ถากถางพื้นที่ทำกิน ต่อมาในสมัย “จอมพลถนอม กิตติขจร” จึงประกาศพื้นที่บนดอยอินทนนท์ พื้นที่ 270 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ 2 ตุลาคม 2515 ซึ่งถือเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 6 ของประเทศไทย 

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2517 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระนางจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จมาบนดอยอินทนนท์ครั้งแรกที่ดอยขุนกลาง และทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้พิจารณาดำเนินการขยายอาณาเขตของอุทยานแห่งชาติออกไปอีกให้คลุมพื้นที่ที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารเพิ่มขึ้นอีก กรมป่าไม้จึงได้สำรวจพื้นที่ จนปัจจุบันมีพื้นที่ 482.40 ตารางกิโลเมตร (ข้อมูลจากหนังสืออุทยานแห่งชาติในประเทศไทยสำนักอุทยานฯ) 

ทั้งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จมาที่ดอยอินทนนท์นี้หลายครั้ง ทรงโปรดฯ ให้จัดตั้งโครงการหลวงอินทนนท์ขึ้นเพื่อนำความรู้วิทยาการการเกษตรมาสู่ชาวบ้าน ให้ปลูกพืชที่มีผลตอบแทนสูง ทั้งทำการตลาดให้จนปัจจุบันชาวบ้านที่อยู่บนดอยอินทนนท์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างมาก 

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า  แสงแรกมองจาก "ดอยอินทนนท์" ตรงจุดชมวิว

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า ทางเข้าหมู่บ้านขุนกลาง หมู่บ้านใหญ่สุดบนดอยอนทนนท์

ประกอบกับอินทนนท์กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนตลอดทั้งปี ทำให้ชาวบ้านได้ทำมาหากินกับการท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ โดยไม่ต้องสร้างรีสอร์ตให้ผิดเงื่อนไขการใช้พื้นที่ แค่ปรับปรุงให้พอมีที่กางเต็นท์ ปลูกต้นนางพญาเสือโคร่ง เพียงเท่านี้ก็ทำเงินรายได้ปีละไม่ใช่น้อยแล้ว

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า บรรยากาศในป่าดิบบริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

ไหนจะมีอาชีพที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งทำร้านอาหาร นำผลิตผลทางการเกษตรมาขาย เป็นไกด์เดินเที่ยวป่านำพาเที่ยวกิ่วดอยแม่ปาน เดินเที่ยวน้ำตกผาดอกเสี้ยว รถรับจ้าง และอีกจิปาถะ ทำให้ไม่ต้องทิ้งถิ่นฐานออกไปทำงานที่อื่น เพียงแค่นี้ก็สามารถดำเนินชีวิตในถิ่นฐานบ้านตัวเองอย่างสบาย

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า ดอกท้อกำลังบาน

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า อาชีพที่ยั่งยืนในท้องถิ่นของตัวเอง

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า กุหลาบพันปี

ดอยอินทนนท์นั้นยังคงมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายน่าท่องเที่ยวเฉกเช่นเดิม โดยเฉพาะในการจัดการพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ที่บริหารจัดการพื้นที่ ทั้งการป้องกันทรัพยากรป่าไม้ การจัดระบบการท่องเที่ยวในพื้นที่ทำให้การท่องเที่ยวบนดอยอินทนนท์เป็นไปอย่างมีระบบ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่อุทยานฯ เขาดูแล ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกต่างๆ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ จุดกางเต็นท์พักแรม ผมถือว่าทางอุทยานฯ จัดการได้ดี ที่เหลือนั้นนักท่องเที่ยวต้องช่วยกันดูแลช่วยด้วย เพื่อทรัพยากรที่ทรงคุณค่าในบ้านเรา

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า พระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล

ตัวผมเอง ไปดอยอินทนนท์แทบจะทุกปี ชอบจะไปกางเต็นท์ที่ลานกางเต็นท์ดงสน แล้วก็ออกไปเที่ยวในแต่ละวัน เดินเล่นชมหงส์ดำ ชมดอกไม้ในโครงการหลวง ที่เขาจัดพื้นที่ไว้สวยงามมาก เดินเล่นหรือนั่งอ่านหนังสือเพลินๆ มีความสุขมาก อีกที่ที่ชอบคือตรงสวนหลวงสิริภูมิ ที่นี่เป็นที่ที่สายน้ำตกสิริภูมิไหลลงพื้นล่าง อีกทั้งที่นี่เขาจะรวบรวมเอาเฟิร์นต้น หรือมหาสะดำมาปลูกไว้อย่างหนาแน่น ผมมักจะเอาเก้าอี้ไปนั่งในศาลาหกเหลี่ยม จิบกาแฟในกระบอก แล้วอ่านหนังสือ ฟังเสียงน้ำ เสียงนก เพลินมาก สงบร่มรื่น วันไหนอยากจะเดินป่า ก็ไปที่กิ่วแม่ปาน บางทีก็ไปเส้นทางน้ำตกผาดอกเสี้ยว เดินเล่นเพลินๆ

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า กิ่วแม่ปาน

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า น้ำตกสิริธาร

แต่ที่ดอยอินทนนท์จะคึกคักอย่างมากตั้งแต่วันส่งท้ายปีเก่า อุทยานจะเปิดลานหน้าที่ทำการให้กางเต็นท์พักแรมได้ คึกคักมาก ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบาน ก็ราวๆ วันเด็ก (แต่ปี 68 นี้ ข่าวว่านางพญาเสือโคร่งบานตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.2568 แล้ว) เพราะทั้งหน้าโรงเรียนบ้านขุนกลาง หรือไปทางน้ำตกสิริภูมิ ดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานเป็นแนวสวย นักท่องเที่ยวจอดรถถ่ายรูปกันจนแน่น และมักจะไปต่อกันที่ศูนย์อนุรักษ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ หรือไปถึงสถานีวิจัยเกษตรขุนวาง ซึ่งมีดอกนางพญาเสือโคร่งบานสวยเหมือนกัน 

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า กวางผา สัตว์ป่าหายากบนดอยอินทนนท์

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า ใจกลางอ่างกาหลวง บนยอดดอยอินทนนท์

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า เต็นท์พักแรมหน้าที่ทำการอุทยานฯ ในช่วงปีใหม่

เอาเป็นว่าไปอินทนนท์กี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ ผมนี่ไปเกือบทุกปี ไปครั้งหนึ่งก็นอน 3-4 คืน มันมีความสุขที่ได้ไปที่นี่ แต่เชื่อหรือไม่ว่า แทบทุกพื้นที่บนดอยอินทนนท์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ล้วนเคยเสด็จมาทอดพระเนตรแล้วเกือบทั้งสิ้น 

การที่เราได้ไปเดินเที่ยว ไปเยี่ยมชมหมู่บ้าน บนดอยอินทนนท์ จึงเหมือนการตามรอยเสด็จของพ่อหลวงและแม่หลวงของปวงชนชาวไทย แม้ในวันนี้ จะไม่มีทั้งสองพระองค์แล้ว แต่ดอยอินทนนท์ยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์ยังคงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญ เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพสกนิกรบนดอยสูง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างชื่อเสียงให้กับเชียงใหม่และประเทศไทยตลอดไป สมดังปณิธาน ของทั้งสองพระองค์ 

มาดอยอินทนนท์ ก็อดรำลึกถึงทั้งสองพระองค์มิได้...

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า ป่ามหาสะดำ(เฟิร์นต้น) ในสวนหลวงสิริภูมิ

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า สวนโครงการหลวงอินทนนท์

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า จุดเฝ้าชมกวางผา

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า น้ำตกลานเสด็จในเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

อินทนนท์...ด้วยพระบารมีคุ้มฟ้า น้ำตกวชิรธาร