ไม่มากมาย แค่มากพอ หนาวนี้ที่เฝ้ารอ 'เด๊อะ ทะ คอ'

ชวนเที่ยวสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เช็กอินที่ "เด๊อะ ทะ คอ" โฮมสเตย์ขนาดเล็กที่เน้นการใช้ชีวิตเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ ภายใต้แนวคิด "ไม่มากมาย แค่มากพอ"
KEY
POINTS
- "เด๊อะ ทะ คอ" คือโฮมสเตย์ขนาดเล็กใน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ที่เน้นการใช้ชีวิตเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ ภายใต้แนวคิด "ไม่มากมาย แค่มากพอ"
- ที่พักตั้งอยู่บนเนินเขาท่ามกลางวิวภูเขา ใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ 100% และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าที่จำเป็น เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสบรรยากาศหนาวอย่างแท้จริง
- ชื่อ "เด๊อะ ทะ คอ" เป็นภาษาปกาเกอญอแปลว่า "บ้านบนเนิน" ก่อตั้งโดยครูสาวชาวปกาเกอญอที่ต้องการแบ่งปันความสุขจากพื้นที่ไร่ของครอบครัว
หากหน้าหนาวคือช่วงเวลาที่เราเฝ้าคอย ต่อให้มีเวลาอยู่กับมันเพียงเล็กน้อย…ก็มากพอ
เพราะนี่คือบรรยากาศดี ๆ ที่คนเมืองร้อนโดยทั่วไปอาจจะไม่คุ้นเคย เป็นเหตุผลที่ปลายปีเป็นช่วงเวลาที่ดินแดนแห่งสายลมหนาว ขึ้นแท่นเป้าหมายยอดนิยมของนักเดินทาง
แต่ใช่ว่าคนที่ใช้ชีวิตอยู่ทุกวันจะรู้สึกเฉย ๆ สำหรับบางคนกลับอยากชิดเชย อยากทำความคุ้นเคยให้มากขึ้น
เช่นเดียวกับ สะแมร์ - นัยนา สมจิตรแก้ว ครูสาวชาวปกาเกอญอ ต.บ่อแก้ว อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่
ครอบครัวของสะแมร์มีพื้นที่ทำไร่ข้าวโพดอยู่บนดอยสูงมาตั้งแต่จำความได้ ทำให้เธอผูกพันกับพื้นที่บริเวณนี้ มองเผิน ๆ มันก็คือเนินสูงโดยทั่วไป แต่เมื่อหันไปรอบกายก็จะเห็นวิวภูเขารายล้อม ด้านล่างคือตัวหมู่บ้าน เป็นวิวสวยใต้ผืนฟ้ากว้างที่เปลี่ยนฉากความงดงามไปตามฤดูกาลที่แปรเปลี่ยน
ด้วยสภาพของสะเมิงซึ่งมีภูเขาสลับซับซ้อน บนเนินแห่งนี้จึงมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ยามเช้าในช่วงหน้าฝนเป็นเวลาที่คนรักสายหมอกได้ชื่นใจกันแบบไม่มีผิดหวัง กระทั่งยามเย็นและยามค่ำ สายลมเย็นจะนำเราเข้าสู่ราตรีแห่งแสงจันทร์และดวงดาว และที่ทุกคนเฝ้ารอก็คือช่วงหน้าหนาวในช่วงปลาย-ต้นปี ซึ่งสภาพอากาศจะเย็นลงมาอีกระดับ
ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของสะแมร์สร้างที่พักเล็ก ๆ สำหรับการพักผ่อนหลังการทำไร่ ปรับปรุงมาจนกลายเป็นมุมในฝัน
ปลายปีที่ผ่านมาที่พักเล็ก ๆ ในนาม "เด๊อะ ทะ คอ" (The Ta Kaw) เปิดโอกาสให้ผู้ชื่นชอบความเรียบง่ายเข้ามาสัมผัส ทำให้หลายคนได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง มีในสิ่งที่พอดี ไม่มากมาย แต่ก็มากพอ
ด้วยความห่างไกลจากชุมชน พื้นที่บริเวณนี้จึงยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ยังต้องอาศัยพลังงานแสงอาทิตย์ กักเก็บพลังงานด้วยแผงโซลาร์เซลล์ในช่วงกลางวัน แปลงไว้ในแบตเตอรี่เพื่อใช้งานในช่วงกลางคืน และมีการใช้แผงไฟจากโซลาร์เซลล์มาช่วยเสริม เรียกได้ว่าใช้พลังงานสะอาด 100%
บ้านข้างบน หรือบ้านบนเนิน คือความหมายของคำว่า “เด๊อะ ทะ คอ” ในภาษากะเหรี่ยง โฮมสเตย์น้อย ๆ หลังนี้มีห้องพักให้เลือก 2 ห้องเล็ก ๆ ออกแบบให้เปิดรับเพื่อซึมซับวิวธรรมชาติ และสามารถกางเต็นท์เพิ่มได้ มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกกันอย่างละ 1 ห้อง
หน้าบ้านเป็นลานโล่งสำหรับทำกิจกรรม ไม่ว่าจะดริฟกาแฟในยามเช้า หรือจะเป็นการผิงไฟในยามค่ำคืน นอกจากแสงสว่างที่เพียงพอแค่ความจำเป็น ที่นี่ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ รวมทั้งเครื่องทำน้ำอุ่น
การได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริงคือหัวใจของ เด๊อะ ทะ คอ ส่วนเรื่องอาหารการกิน ทางสะแมร์และคุณแม่จะช่วยดูแล สำหรับอาหารเช้าจะมีบริการรวมกับค่าที่พัก มื้ออื่น ๆ ก็สามารถสั่งล่วงหน้าได้ แต่ก็อย่าเป็นกังวลมากไป หากขับรถไปเพียงไม่กี่นาทีก็จะเจอกับชุมชน รวมทั้งเส้นทางท่องเที่ยวที่แสนดีต่อใจ
ปลูกกาแฟดูป่า
กาแฟหอม ๆ กับอากาศหนาว ๆ ช่างเข้ากันได้ดี ที่สะเมิงมีกาแฟอราบิก้าพันธุ์ดีปลูกแบบออร์แกนิก และมีคาเฟ่ให้เลือกหลายแห่ง อาทิ เติบโตคาเฟ่ โดะ ถ่อ กาแฟ (Growth Cafe) ร้านกาแฟที่มีสะพานไม้ไผ่ทอดไปในระดับยอดไม้ ชวนให้เราได้ท้าทายให้เราไปชื่นชมธรรมชาติในผืนป่าลึก
ความสุขคาเฟ่ (Khwamsukh Cafe) ร้านกาแฟแห่งความสุข เป็นหนึ่งในสิ่งที่สะท้อนความเป็นอยู่ของชาวบ่อแก้ว ซึ่งอยู่ใกล้กับแหล่งปลูกกาแฟในหุบเขาที่สนับสนุนในการทำการเกษตรอย่างยั่งยืน ทั้งชุมชนและสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีปราชญ์ชาวบ้านอย่าง “พะตินิกะ” หรือคุณลุงนิกะ เป็นหนึ่งในผู้ถ่ายทอดเรื่องราวแห่งความเข้มแข็งของชุมชน
หากติดต่อไว้ล่วงหน้า หลังจากเดินชมสวนกาแฟท่ามกลางธรรมชาติแล้ว เราจะได้ร่วมกิจกรรม กาแฟดูแลป่า เป็นการช่วยกันขุดย้ายต้นกล้ากาแฟที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติไปปลูกในที่ที่เหมาะสม เพื่อการเติบโตที่ดีกว่า
พะตินิกะพาชมสวนกาแฟที่เติบโตอยู่ในป่ากลางเนินเขา
และที่น่ารักขึ้นยิ่งกว่า คือต้นกล้ากาแฟเหล่านี้ ถือเป็นของชาวบ้านทุกคน หากใครจะขอแบ่งไปปลูกไว้ที่บ้านก็ได้
เป็นเรื่องที่น่ายินดี เมื่อความตั้งใจของอีกหลายคนในชุมชน ที่ได้ส่งต่อถึงคนใจดีผู้มาเยือน เช่นเดียวกับความฝันเล็ก ๆ ของใครบางคน ที่ได้กลายเป็นช่วงเวลาพิเศษของผู้ที่มีโอกาสได้สัมผัส ส่งต่อเป็นความคำนึงไปถึงคนที่ห่วงหา ช่วงเวลาที่สะเมิงจึงเปี่ยมด้วยความหมาย ถึงจะน้อยแต่มากด้วยความทรงจำ
สายรุ้งในความมืด
อ.สะเมิง มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญอย่างอุทยานแห่งชาติขุนขาน นอกจากการซึมรับรับพลังจากผืนป่าแล้ว ในพื้นที่อุทยานฯ ยังมีมุมอันซีนอย่าง "ถ้ำหลวงแม่สาบ" ที่เดินทางเที่ยวชมระยะสั้น ๆ ได้อย่างสะดวก
เมื่อมาถึงบริเวณปากถ้ำ ทางอุทยานฯ จะมีบริการหมวกกันน็อคพร้อมไฟฉายเล็ก ๆ ส่องทางให้กับทุกคน ภายในถ้ำมืด ๆ จะมีการติดสปอร์ตไลท์เป็นช่วง ๆ ภายในความมืดที่ซ่อนไว้ มันเต็มไปด้วยรูปร่าง พื้นผิว ลวดลาย และสีสันที่ บางจุดงดงามดังสายรุ้ง สะท้อนความความอัศจรรย์ของธรรมชาติ







