ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย

ชวนเที่ยว ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ดอยอินทนนท์ โครงการในพระราชดำริ สมเด็จพระพันปีหลวง มีพระราชประสงค์เพื่ออนุรักษ์รองเท้านารี ซึ่งในอดีตใกล้จะสูญพันธุ์

KEY

POINTS

  • ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ดอยอินทนนท์ เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
  • มีพระราชประสงค์เพื่ออนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ซึ่งในอดีตใกล้จะสูญพันธุ์ไปจากป่าไทย เนื่องจากการถูกลักลอบนำไปจำหน่ายในต่างประเทศ
  • โครงการฯ ประสบความสำเร็จในการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีสายพันธุ์ไทยได้หลายชนิด ช่วยแก้ปัญหาการลักลอบเก็บจากป่าและทำให้กล้วยไม้ชนิดนี้ยังคงอยู่คู่ประเทศไทย

ครั้งอาจารย์ระพี สาคริก ยังมีชีวิตอยู่ อาจารย์ท่านเมตตาพาเดินดูกล้วยไม้ พร้อมทั้งเล่าเรื่อง “กล้วยไม้รองเท้านารี” ให้ฟัง ได้มาฟังปราชญ์ผู้รู้จริงท่านเล่าศาสตร์ต่างๆ ที่เราไม่เคยรู้ เราจึงเป็นดั่งฟองน้ำที่ดูดซับความรู้อย่างมิรู้เบื่อ แบบนี้เองที่เรียกว่า.. คุยกับปราชญ์เราจะหูตาสว่างขึ้น

ตั้งแต่นั้นมา พอผมได้ออกเดินทางไปยังป่าดงที่ไหน ก็มักสนใจกล้วยไม้ แต่สำหรับกลัวยไม้รองเท้านารีนั้น พบเจอในป่าธรรมชาติไม่บ่อยนักและเจอเพียงไม่กี่ชนิด ที่มาเห็นได้มากและรวมหลายชนิด ก็อยู่ตามที่เขาจัดแสดง ศูนย์เพาะเลี้ยงต่างๆ อย่างที่ “พระตำหนักดอยตุง” 

แต่คราวนี้จะพามาที่ “ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีดอยอินทนนท์” หลายคนคงเคยไปมาแล้ว แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่เคย ที่นี่เดินทางไปง่ายๆ ครับ ขึ้นไปบนดอยอินทนนท์ แล้วเข้าไปทางบ้านขุนกลาง แล้วไปตามทางเลย ทางอาจจะมีขึ้นเขา คดเคี้ยวไปมา 8 กิโลเมตร จากบ้านขุนกลางก็จะถึงศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีดอยอินทนนท์ จอดรถด้านนอก แล้วเดินเข้าเที่ยวได้เลย

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย พระองค์ทรงผสมเกสรรองเท้านารี ที่ศูนย์ฯ ดอยขุนแม่สุริน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน (10 ก.พ. 2538)

ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ดอยอินทนนท์แห่งนี้ อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ศูนย์แห่งนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งมีพระราชพระราชกระแสรับสั่งกับพลโทยิ่งยส โชติพิมาย แม่ทัพภาคที่ ๓ เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ เกี่ยวกับเรื่องกล้วยไม้รองเท้านารีนี้ว่า

…ให้พิจารณาหาหนทางในการอนุรักษ์กล้วยไม้รองเท้านารี ซึ่งเป็นกล้วยไม้ที่หายากในปัจจุบัน เนื่องจากถูกลักลอบเก็บออกจากป่า ส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ จนกระทั่งปัจจุบันนี้กล้วยไม้รองเท้านารีใกล้สูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินไทยแล้ว…

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย สมเด็จพระพันปีหลวงเสด็จมาที่นี่หลายครั้ง

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย พระราชดำรัส อันเป็นที่มาของการจัดตั้งโครงการฯ 

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้สนองพระราชดำริ จัดตั้งศูนย์แห่งนี้ขึ้นโดยใช้พื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จัดตั้ง “โครงการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์” (มีที่ดอยแม่อุคอแม่ฮ่องสอน อีกแห่งหนึ่ง) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัยและเพาะพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ ที่มีความสวยงามแต่ใกล้จะสูญพันธุ์เต็มทีแล้ว อีกทั้งยังจัดเป็นแหล่งให้ความรู้สำหรับผู้ที่มีความสนใจ พันธุ์กล้วยไม้ต่างๆอีกด้วย

จากปี ๒๕๔๗ ที่จัดตั้ง โครงการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ ได้ศึกษาวิจัยการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี สายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยได้รวม ๑๐ ชนิด จากสายพันธ์ที่มีอยู่ประมาณ ๒๐ ชนิด (รวมลูกผสมตามธรรมชาติและสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ) ส่วนที่ยังไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ คือสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดตามเกาะ หรือถิ่นฐานทางใต้ เช่น รองเท้านารีเกาะช้าง และรองเท้านารีขาวสตูล เป็นต้น ซึ่งชอบอากาศร้อนชื้น

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย ป้ายยินดีต้อนรับ

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย ภายในโรงเรือนแสดงกล้วยไม้ในร่ม

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย กล้วยไม้สกุลซิมบีเดียม ออกดอกบ้านสะพรั่งในโรงเรือนจัดแสดง

การประสบความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีนั้น ได้ช่วยแก้ปัญหาการลักลอบนำกล้วยไม้ออกจากป่าธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้กล้วยไม้สูญพันธุ์ได้ อีกทั้งยังเป็นเพิ่มปริมาณกล้วยไม้ในธรรมชาติด้วย

ภายในศูนย์จะมีโรงเรือนจัดแสดงกล้วยไม้ต่างๆ โดยเฉพาะรองเท้านารีชนิดต่างๆ ไว้ในโรงเรือน แต่ที่เหมือนจะมากและสวยงาม คงจะเป็นรองเท้านารีอินทนนท์ ซึ่งเป็นรองเท้านารีที่ดอกมีขนาดใหญ่ เข้าไปในโรงเรือนจะเห็นเลยว่าออกดอกเยอะมาก เดินดูกันเพลินทีเดียว

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย อาคารจัดแสดงกล้วยไม้รองเท้านารี

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย รองเท้านารีอินทนนท์

แต่เขาไม่ได้มีดอกไม้เพียงชนิดเดียว ยังมีบีโกเนียชนิดต่างๆ มีการจัดแสดงเฟิร์นที่พบในพื้นที่ และกล้วยไม้อื่นๆ ด้วย รองเท้านารีนั้นอาจจะมีไม่ครบทุกชนิด เพราะบางชนิดไม่ได้ชอบสภาพแวดล้อมแบบบนดอย แต่เขาก็มีโมเดลรองเท้านารีครบทุกชนิดจัดแสดงไว้

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย รองเท้านารีปีกแมลงปอ

นอกจากนั้น ในโรงเรือนที่จัดแสดงเขายังมีมุมที่จัดแสดงการเพาะกล้วยไม้จากเนื้อเยื่อ การเจริญเติบโตในแต่ละช่วง เรียกว่าได้ความรู้ไปแบบเต็มๆ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งศูนย์แห่งนี้จริงๆ ในอาคารยังมีมุมที่เขานำเอาไลเคนชนิดต่างๆ มาจัดแสดงด้วย เพราะศูนย์แห่งนี้ นอกจากเขาจะศึกษาเรื่องกล้วยไม้รองเท้านารีแล้ว เขายังศึกษาเรื่องไลเคนอีกด้วย ทั้งนี้ ไลเคนที่เป็นตัวชี้วัดถึงคุณภาพของอากาศ เข้าไปดูในโรงเรือนที่จัดแสดงแล้ว ก็ค่อยออกไปเดินดูของจริง

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย ป้ายที่นำพาสู่โลกของไลเคน มอส เฟิร์น

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย ฝอยลมกำลังเริ่มก่อตัว

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย จัดแสดงไลเคนชนิดต่างๆ

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย ห้องจัดแสดงการเพาะเลี้ยงกล้วยไม้

แม้ว่าในศูนย์นี้จะมีกล้วยไม้ต่างๆ ที่อยู่ในโรงเรือน มีให้ดูทุกวันก็ตาม แต่นักท่องเที่ยวจะมากันมากในช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบาน ซึ่งเขาจะปลูกไว้รอบๆ สระน้ำ พอช่วงที่มันออกดอกบาน สีสันจะสะท้อนลงน้ำสวยมาก โดยทำเลที่ตั้งเป็นคล้ายกับอยู่ท่ามกลางหุบเขา คือมีภูเขาล้อม (จริงๆ ไม่ล้อม แต่คล้ายๆ แบบนั้น)

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย เอื้องเงินหลวงสะพรั่งบาน

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย โมเดลกล้วยไม้รองเท้านารีชนิดต่างๆ

ตรงกลางเป็นบึงน้ำใหญ่ มีหินใหญ่น้อย ปรากฏอยู่ในพื้นที่ สถานีเขาก็เลยมาปั้นเป็นกล้วยไม้รองเท้านารีชนิดต่างๆ พร้อมป้ายอธิบายความ ติดไว้ตามก้อนหินเหล่านี้ พร้อมทั้งมีกล้วยไม้ในท้องถิ่น หรือดอกไม้อื่นๆ ตกแต่งด้วย

เขาจะทำเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไว้รอบสระน้ำ มีป้ายให้ความรู้เรื่องไลเคน ไว้ให้เราสังเกตธรรมชาติในระหว่างเดินเที่ยวชมด้วย และทิวทัศน์รอบบึงน้ำจะเปลี่ยนไปตามมุมต่างๆ ซึ่งอย่างที่บอกว่ามันสวยมาก ดังนั้นในช่วงดอกนางพญาเสือโคร่งบาน นักท่องเที่ยวจึงเยอะจริงๆ จนที่จอดรถด้านหน้าเต็มหมด

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย ความสวยงามของบึงน้ำในโครงการ ที่ผู้เขียนไปไม่ทันดอกไม้บาน โรยไปมากแล้ว

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย กุหลาบขาวก็บานสะพรั่งเช่นกัน

ด้วยพระบารมี... ‘รองเท้านารี’ จึงอยู่คู่ป่าไทย

การมาเที่ยวชม “ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ดอยอินทนนท์” แห่งนี้ นอกจากจะได้มาชมกล้วยไม้พันธุ์หายากต่างๆ ได้ความรู้ ได้มาพักผ่อน ได้ชื่นชมกับทัศนียภาพที่สวยงามของสถานที่นี้แล้ว ยังทำให้เรารำลึกได้ว่า หลายสิ่งหลายอย่างบนแผ่นดินไทยนี้ มีสถาบันพระมหากษัตริย์ได้สร้างไว้ให้แก่แผ่นดิน เล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ต่างๆ สืบสาน ดำรงให้คงอยู่ แม้กระทั่งกล้วยไม้ที่ชื่อ “รองเท้านารี” จนกระทั่งเรามีความมั่นใจว่า กล้วยไม้ชนิดนี้จะไม่สูญไปจากเมืองไทย

ด้วยพระบารมีและพระวิสัยทัศน์ต่อกล้วยไม้ชนิดนี้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บทความนี้จึงขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกถึง “พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย”