ท่องป่าตามหาพยัคฆ์ที่‘มัธยประเทศ’ หัวใจอินเดียมหัศจรรย์

“เรียน ผู้แทนที่เคารพ

นมัสการ!

ผมยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับคุณในนามรัฐบาลรัฐมัธยประเทศ หัวใจของอินเดียมหัศจรรย์ (Incredible India)

มัธยประเทศทราเวลมาร์ท 2025 คือโครงการริเริ่มทางธุรกิจของรัฐบาลสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอินเดียและนานาชาติ เพื่อสร้างเครือข่ายและความร่วมมือ ส่งเสริมมัธยประเทศในฐานะจุดหมายปลายทางแรก การมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของคุณยิ่งเพิ่มคุณค่าให้กับเวทีนี้ที่นำผู้นำ นวัตกร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทุกมุมโลกมารวมตัวกันเพื่อชื่นชมจิตวิญญาณของการค้นพบ เชื่อมต่อ และเป็นพันธมิตรที่ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์...”

นี่คือส่วนหนึ่งของข้อความที่ ดร.โมฮัน ยาดาฟ มุขมนตรีรัฐมัธยประเทศ มีถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยว อินฟลูเอนเซอร์ และสื่อมวลชนต่างประเทศที่มาร่วมงาน MPTM 2025  จัดโดยการท่องเที่ยวมัธยประเทศและสหพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดีย (FICCI) ณ เมืองโภปาล ระหว่างวันที่ 11-13 ต.ค.ที่ผ่านมา งานที่ไม่ได้มีแค่การจับคู่ธุรกิจแบบ B2B แต่เป็นการโชว์ความยิ่งใหญ่ของการท่องเที่ยวมัธยประเทศสู่เวทีโลก 

เศษเสี้ยวเล็กๆ ถูกบอกเล่าผ่าน Familiarization Tour (FAM Tour) นำผู้ประกอบการ สื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ต่างชาติจำนวน 89 คน จาก 27 ประเทศ เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่เป็นไฮไลท์ของมัธยประเทศในเมืองต่างๆ ก่อนเริ่มงาน MPTM 2025 โดย FAM Tour ครอบคลุมทั้งมรดกโลกของยูเนสโก ปราสาทราชวัง วัดวาอาราม ไล่ไปจนถึงอุทยานแห่งชาติ แหล่งอนุรักษ์พันธุ์เสือ บ้านพักแบบโฮมสเตย์  ทั้งหมดล้วนบ่งบอกถึงศักยภาพอันหลากหลายของมัธยประเทศ รัฐใจกลางประเทศอินเดียอันกว้างใหญ่ ชนิดที่จับแผนที่อินเดียมากาง ลากเส้นตรงจากบนลงล่าง จากซ้ายไปขวา เส้นตัดกันที่มัธยประเทศพอดี 

•  จากจาบาลปูร์สู่คันฮา

กรุงเทพธุรกิจรู้จักมัธยประเทศผ่าน FAM Tour กลุ่มที่ 4 จากทั้งหมด 6 กลุ่ม บนเส้นทางจาบาลปูร์-คันฮา-จาบาลปูร์-โภปาล สายการบิน IndiGo ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งจากสนามบินนานาชาติอินทิรา คานธีในเดลี สู่จาบาลปูร์ (Jabalpur) รัฐมัธยประเทศ สนามบินตั้งอยู่ในเขตป่า ประจักษ์พยานคือป้ายเตือนให้ทราบว่า พื้นที่นี้มีเสือดาว!

(บรรยากาศภายนอกสนามบินจาบาลปูร์)

จาบาลปูร์เป็นเมืองน่าอยู่ด้วยวัฒนธรรมผสมผสาน มีท่าน้ำ ทางหลวงกว้างขวาง สภาพแวดล้อมงดงาม ข้อมูลจากเว็บไซต์การท่องเที่ยวมัธยประเทศระบุว่า จาบาลปูร์ตั้งชื่อตามฤาษีจาบาลี ผู้นั่งสมาธิริมฝั่งแม่น้ำนาร์มาดา ในภาษาอาหรับจาบาลหมายถึง ภูมิประเทศโขดหิน ดังนั้นแหล่งท่องเที่ยวโด่งดังแห่งหนึ่งของที่นี่คือมาร์เบิลร็อกแห่งเบดากัต จุดที่แม่น้ำนาร์มาดาไหลผ่านหุบเขาหินอ่อนก่อเกิดงานศิลปะด้วยฝีมือธรรมชาติ (มาร์เบิลร็อกแห่งเบดากัตภาพจาก www.mptourism.com)

•  ดื่มด่ำนาร์มาดาอารตี

คืนแรกที่จาบาลปูร์ คณะ FAM 4 ได้รับการนำเที่ยวแบบเซอร์ไพรส์ไม่ปรากฏในโปรแกรมล่วงหน้า โยเกนทรา ริชชาริยา (Yogendra Richhariya) ตัวแทนจากการท่องเที่ยวมัธยประเทศนำคณะนั่งรถมินิบัสออกจากโรงแรม Kalchuri Residency ใช้เวลาราว 20 นาที จากนั้นเดินเท้าอีกนิดหน่อยไปสู่จุดหมายปลายทางใดไม่ทราบได้ สังเกตข้างทางบรรยากาศเหมือนมีงานวัด ร้านรวงขายสินค้านานาชนิดสีสันสดใสตามสไตล์อินเดีย ผู้คนเดินกันขวักไขว่ โยเกนทราพาพวกเราไปไหนกันหรือ?

มาทราบคำตอบเมื่อคณะเดินมาถึงท่าน้ำกวอรีกาต (Gworighat) เซอร์ไพรส์ของ FAM 4 คือการมาร่วมพิธีบูชาแม่น้ำนาร์มาดาหรือนาร์มาดา อารตี (Narmada Arti)  หนึ่งในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าไหลมาจากเศียรพระศิวะ การบูชาแม่น้ำจึงเป็นการบูชาพระศิวะไปในตัว 

(ภาพโดย Zubin Thomas)

นักบวชฮินดูสาธยายมนต์บนแท่นพิธีริมฝั่ง แขกต่างชาติไม่คุ้นเคยแต่ก็ดื่มด่ำไปกับความศรัทธาของคนท้องถิ่นที่มาร่วมพิธีกันคับคั่ง ภาพพิธีกรรมที่เคยเห็นในสารคดีปรากฏจริงตรงหน้า พุทธศาสนิกชนชาวไทยร่วมพิธีได้ไม่เคอะเขิน คืนแรกในมัธยประเทศชาวคณะได้รับพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันถ้วนหน้า การทำงานนับจากนี้มีแต่ความราบรื่น

•  อุทยานแห่งชาติคันฮา

หนึ่งในไฮไลท์ของมัธยประเทศดินแดนแห่งพยัคฆ์คือการไปดูเสือ ชาวคณะ FAM4 ออกเดินทางแต่เช้าจากจาปาลปูร์สู่อุทยานแห่งชาติคันฮา (ประตูมุกกิ) ระยะทางราว 200  กม. ตามกำหนดการใช้เวลาเดินทาง 4.5 ชั่วโมง โดยต้องแวะพักที่ศูนย์ต้อนรับนักท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวมัธยประเทศ ณ โมเต็ลมันดลา ห่างจากจาบาลปูร์ 100 กม.  (แวะจุดพักรถ)

แต่กลับกลายเป็นว่าเป้าหมายนี้ต้องใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมงเนื่องจากถนนแคบเพียงสองเลน แล่นผ่านป่าเขาและหมู่บ้าน ผู้ใช้รถใช้ถนนมีเสรีภาพอย่างเต็มที่ รถใหญ่ รถเล็ก จักรยานยนต์ จักรยาน คนเดินเท้า ล้วนมีสิทธิใช้ถนนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เว้นกระทั่งวัว ทั้งฝูงวัวที่ชาวบ้านต้อนขึ้นมาเลี้ยงหรือวัวที่นอนพักผ่อนสโลว์ไลฟ์อยู่บนถนน ไม่มีใครเบียดบังสิทธิของใครได้ สมกับความเป็นประเทศประชาธิปไตยใหญ่ที่สุดในโลก!

โปรแกรมท่องอุทยานแห่งชาติคันฮาเพื่อดูเสือจำเป็นต้องพักค้างคืนเตรียมตัวก่อนหนึ่งคืนที่คันฮาจังเกิลแคมป์ รุ่งขึ้นตื่นแต่เช้าตรู่นั่งรถจี๊ปเข้าอุทยานกว้างใหญ่กินพื้นที่ 940 ตาราง กม. ถือเป็นอุทยานใหญ่สุดแห่งหนึ่งของมัธยประเทศ และเป็นอุทยานที่มีการจัดการดีที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย ประชากรเสือเบงกอลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

•  ท่องป่าตามหาพยัคฆ์

อุทยานแห่งชาติคันฮาแบ่งเป็นสามเขต ได้แก่ คาเทีย, คิสลี และมุกกิ จากคันฮาจังเกิลแคมป์เข้าไปยังมุกกิขับรถเพียง 20 นาทีชมวิวหมู่บ้านและทุ่งนาบรรยากาศทุ่งรวงทองมาเพลินๆ เมื่อเข้าเขตอุทยานเจ้าหน้าที่คอยสะกิดให้ดูหมูป่ากินอาหารอยู่ใกล้กวางฝูงเล็กๆ ทำหน้าที่ราวกับเป็นพนักงานต้อนรับ ขับรถลึกเข้าไปยิ่งเห็นฝูงกวางฝูงค่างท่ามกลางภูมิประเทศทุ่งหญ้าสลับกับผืนป่า 

เจ้าหน้าที่อุทยานเล่าว่า ค่างกับกวางนั้นเป็นมิตรกัน  ฝูงค่างอยู่บนที่สูงพวกมันจึงมองเห็นได้ไกล เมื่อเสือขยับเข้ามาใกล้ค่างพวกนี้ก็จะส่งเสียงเตือนให้ฝูงกวางที่อยู่ข้างล่างรู้ตัว

ความตื่นเต้นของทริปดูเสือคือต้องคอยจับสังเกตเสียงร้องของค่างหรือกวาง เพราะนั่นคือสัญญาณว่าเจ้าป่ากำลังจะมา ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เจ้าหน้าที่อุทยานทำท่าเงี่ยหูฟัง ซุบซิบกันด้วยภาษาท้องถิ่น ย่อมหมายความว่า บางสิ่งบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น เอ๊ะ!  หรือว่าเสือกำลังมา?

หลักฐานทางเสือผ่านดูที่รอยเท้า เจ้าหน้าที่ชี้ให้ดูรอยเท้าเสือตัวผู้ เสือตัวเมีย รวมทั้งรอยเท้ากระทิงที่เพิ่งเดินผ่านไปเมื่อคืนนี้ ทวีความหวังให้ชาวคณะ FAM4 ว่ามาเยือนมัธยประเทศดินแดนแห่งพยัคฆ์ครั้งนี้ไม่เสียเที่ยว ต้องได้เห็นเสือตัวเป็นๆ ออกมาอาบแดดยามเช้าเป็นแน่ แต่เรื่องบางเรื่องก็ต้องอาศัยวาสนาชะตาต้องกัน เช้าวันนั้นมีรถจี๊ปเพียงหนึ่งคันที่ได้เจอเสือจริงๆ คนอื่นๆ อาจผิดหวังบ้างแต่การได้สัมผัสธรรมชาติยามเช้ากลางผืนป่าแค่ได้เห็นกวางย่างเยื้องชำเลืองเดินกับตา ก็ถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต  (ภาพจาก www.mptourism.com)

(ภาพจาก www.mptourism.com)

(อิ่มอร่อยกับอาหารเช้าในอุทยาน)

ขณะที่ FAM4 ตื่นเต้นกับการดูเสือในอุทยานแห่งชาติคันฮา FAM 1, 2, 3, 5 และ 6 ต่างแยกย้ายกันไปชมความงดงามอื่นๆ ของมัธยประเทศ จากนั้นทุกคนไปรวมตัวกันในงาน MPTM 2025 ตลอดระยะเวลาสามวันงานได้ตอกย้ำภาพความแข็งแกร่งของการท่องเที่ยวและโอกาสการลงทุนในมัธยประเทศในฐานะจุดหมายปลายทางที่หลอมรวมทั้งมรดกโลก วัฒนธรรม และบรรยากาศชนบทไว้ด้วยกันอย่างยั่งยืน ดังนั้นทุกดีลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย  ทุกโปรเจคการลงทุนที่ประกาศออกไปล้วนเป็นดีลที่เกิดจากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสมาแล้วจริงๆ เพื่อส่งเสริมให้มัธยประเทศเป็นจุดหมายปลายทางแรกของ Incredible India ตามที่รัฐบาลตั้งใจไว้