‘Maison Mystique’ พระราชวัง แห่งจินตนาการ ท่ามกลางขุนเขา

ดินแดนแห่งจินตนาการแห่งหนึ่ง.... อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของประเทศไทย ณ เทือกเขาสูงใหญ่ที่ทอดตัวยาว ยังคงเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ อากาศดีตลอดทั้งปี  Maison Mystique เป็นที่ตั้งของ พระราชวัง แห่งความฝัน

พร้อมเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือน เมซง มีสทีค เขาใหญ่ ที่เจ้าของตั้งใจจะให้เป็น A House of Immagination แล้วแต่ผู้มาเยือนจะจินตนาการ ว่าที่นี่คือบ้านของตน 

เป็นคฤหาสน์ ปราสาท หรือพระราชวัง ก็ได้ตามใจเลย สำหรับผู้สร้างสถานที่แห่งนี้ ที่นี่ก็คือ เรือนแห่งจินตนาการ อยู่ระหว่างเขตแดนของความจริง และความฝัน

‘Maison Mystique’ พระราชวัง แห่งจินตนาการ ท่ามกลางขุนเขา แห่งนี้ คุณเฟิร์น-เกศชนก และ คุณบัน-วิภวิน ธาดาสีห์ กล่าวว่า

“เป็นคอนเซ็ปต์ของเราตั้งแต่ต้นว่า อยากให้คนที่มาพักรู้สึกถึงความน่าค้นหา เราก็เลยตั้งชื่อว่า เมซง มีสทีค แปลว่าบ้านที่น่าค้นหา มีกลิ่นอายของยุโรปในอดีตไม่เจาะจงยุคสมัยและกาลเวลา เราคิดว่าที่นี่น่าจะเป็นมากกว่า โรงแรมที่พัก

ทั้งสถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่ง เซนส์ต่างๆที่ลูกค้าเข้ามาสัมผัสเช่นกลิ่น อาหาร เครื่องดื่ม และการบริการ เป็นบ้านที่น่าค้นหา เช่นพอเราเดินไปก็จะเจออีกห้องๆ ซึ่งแต่ละห้องมีคาแรคเตอร์ต่างกัน

ห้องพักเราจะแบ่งออกเป็น 4 คอนเซ็ปต์ เช่นพันธุ์พืช โทนสีเขียว คอนเซ็ปต์ของสะสม มีโดมผีเสื้อ แบบที่ 3 เป็นห้องที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ความรัก และแพชชั่น ส่วนแบบที่ 4 จะเป็นห้องสีน้ำเงิน ธีมดวงดาว เหมือนเรานอนอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว”

Maison Mystique (เมซง มีสทีค) แห่งนี้เจ้าของออกแบบเองคุมงานเอง คุณเฟิร์น-เกศชนก เรียนมาทางด้าน Fine Art เธอสร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาจากจินตนาการล้วนๆ โดยใช้เวลาค่อยๆสร้างประมาณ 5 ปี บนพื้นที่ 44 ไร่ (ทำโรงแรมประมาณ 1 ไร่)

“เพราะเป็นคนชอบเดินทางท่องเที่ยว แต่ละที่ก็มีคาแรคเตอร์ต่างกัน ที่ เมซง มีสทีค ได้นำหลายๆวัฒนธรรมมารวมกัน เราชอบเสน่ห์ของเมืองเก่าในแถบยุโรป

ชอบไปเดินตามซอกซอยเล็กๆ รู้สึกเหมือนเราได้ไปค้นหาอะไรบางอย่าง ก็เลยนำอารมณ์ตรงนั้นมาเล่นกับโรงแรมนี้ค่ะ”

เช่นเดียวกับ ‘สวน’ ของโรงแรม ที่มีหลายบรรยากาศ หลายอารมณ์ซ่อนอยู่เพื่อรอการค้นพบ อาทิ เขาวงกต สวนดอกไม้ต่างๆ มีสวนสี่ฤดู ที่จะรวมดอกไม้สีเดียวกันไว้ในสวน อาทิ สีขาว สีชมพู สีม่วง

ดอกไม้สีม่วงนานาพันธุ์ 

ดอกเวอร์บิน่า

โรสแมรี่ออกดอกสีม่วงเล็กๆน่ารัก

กุหลาบอังกฤษสีชมพูหอมกรุ่น

ถ่ายภาพออกมาแล้วสวยงามถูกใจชาวโชเชียล เช้าวันหนึ่ง เรามองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นกระต่ายป่า วิ่งเล่นในป่า รู้สึกตื่นเต้นมาก คอยจับตามองดูว่า ตรงนั้นมีกระต่ายป่ากี่ตัวกันนะ? มองเห็นกระต่ายสีน้ำตาล สีดำ สีขาว รู้สึกดีที่เป็นผู้คนพบ

พอได้คุยกับพนักงานจึงทราบว่า เป็นกระต่ายที่ทางโรงแรมซื้อมาปล่อยให้ธรรรมชาติช่วยเลี้ยง จนเขาออกลูกหลาน กลายเป็นกระต่ายป่าจำแลงไปแล้ว

ที่นี่มีนกหลากหลายกว่า 20 ชนิด ได้เห็นผีเสื้อบินเชยชมดอกไม้ เป็นความสุขที่ไม่ไกลเกินเอื้อม มาพักซัก 3 วัน 2 คืนกำลังดีแสนอิ่มเอมหัวใจ

ยามเช้าตื่นขึ้นมาออกไปยืนที่ระเบียงห้อง เห็นสายหมอกพาดผ่านทิวเขา มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ  นกน้อยพากันร้องเพลงขับกล่อม

ห้องอาหาร  THE VIVARIUM (เดอะ วิวาเรียม)

สักพักเราต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปรับประทานอาหารเช้าแสน อร่อย ที่ ห้องอาหาร  THE VIVARIUM (เดอะ วิวาเรียม) AN EVERBLOOM DINING 

ที่นี่บริการอาหารเช้า และมื้อค่ำแบบเป็นคอร์ส เราเลือกนั่งโซนเอาท์ดอร์รับโอโซนอันบริสุทธิ์ มาพร้อมแสงแดดอุ่นๆ ยามเช้า

อาหารเช้า 

เมนูโปรตีนยามเช้า

ปลื้มปริ่ม House Baker’s Basket มีทั้งครัวซองต์ บันแครนเบอร์รี่วอลนัท และ Curio Breads เสิร์ฟมากับแยมผลไม้ที่หอมกรุ่นกลิ่นโรสแมรี่ ที่ทางโรงแรมปลูกเอาไว้ดาษดื่น ออกดอกสีม่วงสวยงาม

ถัดมาคิดหนักว่าจะเลือกอะไร ระหว่าง Amberwood Granola หรือ Garden Harvest Salad หรือจะเป็น Pancake ดีนะ ในที่สุดก็เลือกสลัดทั้งสองเช้าเลย

ชาพีช อเมริกาโน คาปูชิโน หรือ โกโก้ร้อน ล้วนน่าสนใจและเข้ากับบรรยากาศยามเช้าเป็นยิ่งนัก คิดเองไปว่าอยู่ที่นี่ 1 วัน อายุยืนไปอีก 10 ปี 

มื้อเย็นเรายังคงดื่มด่ำอาหารค่ำที่ห้องอาหาร เดอะวิวาเรียม เสิร์ฟอาหารแบบคอร์ส มาตั้งแต่พระอาทิตย์เริ่มอัสดง มองเห็นแสงสีทองบนก้อนเมฆสวยงามแสนโรแมนติก

Rosemary Focaccia

ค่ำนี้ประทับใจ อาหารอร่อย เริ่มตั้งแต่ Rosemary Focaccia พร้อมกับเนยทรัฟเฟิล มะกอกโอลีฟ ส่วนเมนูเรียกน้ำย่อยขอเลือก Scarlet Harmony เพราะชอบทั้งมะเขือเทศและ Burrata อยู่แล้ว

Scarlet Harmony

Seared Tuna Crudo

Wild Crafted Mushroom Soup

ถัดมาเป็นจานเส้น เราเลือก Gnocchi di Luna อร่อยราวกับเชฟต้นตำรับมาทำเอง จานหลักเป็น Cherry Wood Duck เป็ดรมควันหอมกรุ่นเนื้อนุ่มไม่มีกลิ่นคาวเลย

Bucatini Bagna Cauda

Cherry Wood Duck อร่อยถูกใจสุดๆ

สเต็กปลากะพง

Nocturne Tiramisu

ขอบอกว่าอาหารที่นี่ชนะเลิศ ถูกปากถูกใจมากๆ ราวกับอยู่ที่ยุโรปจริงๆ มื้อค่ำนี้จบสวยๆ ด้วยขนมหวาน Nocturne Tiramisu ว๊าวถึงกับอร่อยกรี๊ด

BAR MYSTÈRE (บาร์ มิสแทร)

เครื่องดื่มแสนถูกใจที่ บาร์ มิสแทร

BAR MYSTÈRE (บาร์ มิสแทร) ช่วงกลางวัน

จากนั้นไปต่อที่ BAR MYSTÈRE (บาร์ มิสแทร) : A POTION OF PLEASURE จิบเครื่องดื่มเบาๆ ก่อนเข้านอนอย่างมีความสุข

รับประทานอาหารเช้าแบบเอาท์ดอร์ นอกปราสาท 

เช้าวันรุ่งขึ้น รีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปรับประทานอาหารเช้าโซนเอาท์ดอร์  พร้อมออกไปเดินเล่นชมสวน เก็บภาพสวยๆ ไปลงโชเชียล ยังมีอีกห้องที่น่าสนใจมากๆนั่นก็คือ

Bibliothèque Émeraude (บิบลิโอเทก เอเมอโรด) ห้องสมุดสุดสง่างาม

Bibliothèque Émeraude (บิบลิโอเทก เอเมอโรด) ห้องสมุดสุดสง่างาม พาเราท่องไปในดินแดนของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็ไม่ปาน หนังสือทุกเล่มเป็นของจริงนะจ๊ะ สามารถหยิบขึ้นมาอ่านได้เลย 

อนาคตที่ห้องนี้จะมี ดนตรีแจ๊ส พร้อมเสิร์ฟ ค็อกเทลซิกเนเจอร์สุดพิเศษ ที่เสิร์ฟเฉพาะในห้องสมุดแห่งนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น มาร์ตินีเซเล็กชัน หรือ ค็อกเทลเฉดสีอัญมณี แถมยังมี ‘ห้องลับ’ รอการค้นหาซ่อนตัวอยู่ในห้องนี้ด้วยนะ  

เอ...จะหาเจอไหมนะ ทว่าเป็นห้องเฉพาะสมาชิกคลับสุดพิเศษเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าไปได้ 

ห้องโถงดุจท้องพระโรง แห่งพระราชวังในจินตนาการ

‘Maison Mystique’ พระราชวัง แห่งจินตนาการ ท่ามกลางขุนเขาแห่งนี้ เพิ่งเปิดบริการไปได้ไม่นาน ยังไม่แกรนด์โอเพนนิ่ง

ห้องนอนสีน้ำเงินของเจ้าหญิงจำแลง

ห้องนอนใหญ่ สำหรับ 4 ท่าน

มุมเครื่องดื่มภายในห้องพัก

โซนห้องพักสีเขียว

ยังรอโซนใหม่ๆที่จะเข้ามาเพิ่มสีสันความสะดวกสบาย อาทิ สระว่ายน้ำ สปา ฯ เป็นต้น และยังมี ห้องจิบชายามบ่าย THE BOTANIST'S BIBLE (เดอะ โบทานิส ไบเบิล) AN AFTERNOON REVERIE อีกด้วย

ใครที่ได้มาพักที่นี่รับรองว่าต้องมนต์เสน่ห์ ติดใจเข้าพักครั้งต่อไปอีกแน่ๆ เพราะแต่ละห้องพักสวย และมีคาแรกเตอร์ต่างกัน ทำให้ต้องกลับมาสัมผัสอีกครั้งๆ ไม่รู้เบื่อ 

Room Type  อาทิ ห้อง ROSIE'S CURIOSITIES, THE NIGHT BLOOMING,THE HEART POEM,THE BIRD'S CALENDAR,MOONWATCHER'S COMPANION,

LILITH'S HEART,THE BOHEMIA, EDEN'S GARDENIA, DARWIN ROOM และ ODYSSEY TO THE STARS

ทิวต้นมะฮอกกานี ช่วงเดือนกุมภาพันธ์จะเปลี่ยนสีและทิ้งใบสวยงามราวกับฤดูใบไม้ร่วงในยุโรป

ทางคุณเฟิร์นและคุณบัน เจ้าของอาณาจักรแห่งนี้อธิบายเพิ่มเติมว่า อนาคตจะมีโปรแกรมมากมายให้เราเพลิดเพลิน อาทิ โปรแกรมดูนก มีกล้องส่องดูดาว พร้อมให้ความรู้เรื่องดวงดาว เพราะที่นี่มืดสนิทมองเห็นหมู่ดาวได้ชัดเจน

พนักงานชายยืนรอต้อนรับ

รวมทั้งกิจกรรม Picnic ที่มีให้เลือกทั้ง เซตชา-กาแฟ และเซตไวน์

หากคุณเป็นคนที่รักธรรมชาติ และเป็นคนช่างฝัน.... เที่ยวเขาใหญ่ ครั้งต่อไปต้องไม่พลาดการเข้ามามีส่วนร่วมใน เรือนแห่งจินตนาการ แห่งนี้ ที่ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งไม่ได้ไกลจาก 'กรุงเทพมหานคร' เลย

‘Maison Mystique’ (เมซง มีสทีค) ตั้งอยู่เลขที่ 89, หมู่ 3 ตำบลหนองน้ำแดง  อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30450 Tel. +66 44 000 117 | +66 90 243 5555 Line Official: @maisonmystique