ถ้ำอะไร ...ขนาดไก่ยังหล่น

ถ้ำไก่หล่น ที่เที่ยวทางเลือกในหัวหิน แม้เส้นทางจะสูงชันแต่ภายในถ้ำโปร่ง อากาศถ่ายเท ไม่มืด มีหินงอกหินย้อย มีเจดีย์เบญจมหาโพธิสัตย์ ยอดเจดีย์ทะลุปล่องเพดานถ้ำ
KEY
POINTS
- ถ้ำไก่หล่นเป็นหนึ่งในสามถ้ำที่ตั้งอยู่ใกล้กันในพื้นที่หัวหินบนถนนหมายเลข 3218 ร่วมกับถ้ำดาวและถ้ำลับแล
- การเดินทางขึ้นไปยังปากถ้ำต้องผ่านบันไดที่มีความชัน แต่ภายในถ้ำโปร่งสว่างและอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มืดหรืออับชื้น
- จุดเด่นภายในคือโถงถ้ำกว้าง มีหินงอกหินย้อย และเป็นที่ตั้งของ "เจดีย์เบญจมหาโพธิสัตย์" ซึ่งมียอดเจดีย์ทะลุปล่องเพดานถ้ำ
- เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางเลือกของหัวหิน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวถ้ำแบบสบายๆ ไม่น่ากลัว และสามารถเที่ยวชมร่วมกับถ้ำอื่นในบริเวณใกล้เคียงได้
หัวหินไม่ได้มีแต่ชายทะเล หรือหลวงพ่อทวดวัดห้วยมงคลเท่านั้น หากแต่มีที่เที่ยวแนวถ้ำสวยๆ ที่อยากแนะนำให้รู้จักกัน เผื่อจะได้เป็นทางเลือกสำหรับการไปเที่ยวหัวหินในครั้งต่อไปของท่านผู้อ่าน ถ้ำที่ว่านี้ มี 3 แห่งอยู่ใกล้ๆ กัน แต่ละแห่งห่างกันไม่กี่กิโลเมตร แต่ละแห่งเป็นถ้ำที่ไม่มืด ถ้ำไหนมืดก็จะมีไฟฟ้าให้แสงสว่าง และไม่อึดอัด
โดยเรียงตามลำดับ คือ ถ้ำดาว (วัดหนองพลับ) ถ้ำลับแล และถ้ำไก่หล่น ถ้ำสามแห่งนี้จะใช้ถนนหมายเลข 3218 (หนองพลับ-โป่งเกตุ-พุมะคำ (เขากะปุก)) โดยแต่ละแห่งจะห่างจากถนนใหญ่เข้าไปไม่เกิน 2 กม. ถ้ำทุกแห่งล้วนน่าสนใจ แต่ครั้งนี้ ผมจะพาไปดูถ้ำสุดท้าย คือ 'ถ้ำไก่หล่น' เป็นเริ่มแรกก็แล้วกัน
มาจากหัวหิน มาทางที่จะไปน้ำตกป่าละอู จะถึงสามแยกหนองพลับก่อน ตรงนี้จะมีวัดหนองพลับ ที่มีถ้ำดาว แต่เราเลยไปก่อน ให้ใช้ถนนหมายเลย 3218 จากสามแยกหนองพลับ ไปตามทางเรื่อยๆ จากนั้นจะผ่านทางแยกเข้าถ้ำลับแล ก็เลยไปก่อน ไม่กี่กิโลเมตร จะถึงทางแยกเข้าถ้ำไก่หล่น
ขับตรงเข้าไปตามทางประมาณกิโลเมตรกว่าๆ ก็จะถึงลานจอดรถในสำนักสงฆ์ จะเห็นบันไดขึ้นไปถ้ำ ซึ่งผมแนะนำว่า ควรมีน้ำดื่มติดไปด้วยสักขวดครับ บันไดไม่กี่ขั้นก็จริงแต่ชันเอาเรื่อง เดินลอดซุ้มครุฑ แล้วไปตามบันไดปูน ตอนขึ้นบันไดนี้อย่าหักโหมครับ เหนื่อยก็พัก ไม่ต้องรีบ มันไม่ไกล แค่ชันเท่านั้น
เดินขึ้นไปจนสุดทางบันได ก็จะเห็นปากถ้ำอยู่ด้านหน้า ทางขวาเป็นกุฏิสงฆ์ ทางซ้ายมีศาลาเปิดโล่ง นั่งพักสักครู่ให้หายเหนื่อยก่อน ค่อยเข้าไปเที่ยวในถ้ำครับ
ปากถ้ำ ห่างจากขั้นบันไดชั้นบนไม่ถึง 10 เมตร ไปยืนตรงปากถ้ำ จะเห็นว่าตัวถ้ำอยู่ต่ำลงไปไม่มาก ตรงกลางเป็นโถงโล่ง กว้าง ทางซ้ายมือ มีกองหินย้อยตามผนัง และหินงอกขนาดใหญ่ ด้านขวามือ มีหินงอกขนาดใหญ่ มีคนเอาพระพุทธรูปองค์เล็กๆมาวางไว้ตรงโคนหนงอกเป็นร้อยๆ องค์
เดินลงไปในโถง จึงเห็นว่าพื้นที่ในโถงบางส่วนมีการปูเสื่อน้ำมัน มีที่นั่งพระที่ยกพื้นสูงขึ้นนิดหนึ่ง มีพระพุทธรูป เข้าใจว่าแต่ก่อนคงเคยมีการมาทำพิธีการทางสงฆ์ตรงนี้ แต่ตอนนี้คิดว่าไม่ได้ขึ้นมาใช้นานแล้ว เพราะบนเสื่อน้ำมัน ดูไม่ได้สะอาดนัก
ผนังถ้ำด้านในทางขวามือ มุมหนึ่งมีหินย้อยตามผนังลงมาจนดูเป็นน้ำตกถ้ำสีแดงๆ ตามแร่ธาตุที่เคลือบ และยังดูสดใหม่ แสดงถึงการยังเป็นหินย้อยที่ยังไม่ตาย แต่มีคนเอาพญานาคที่สานจากใบมะพร้าวมาตั้ง หินงอกบางเสาก็มีคนเอาพวงมาลัยมาคล้อง
ภายในถ้ำแสงสว่างส่องถึง แม้บางมุมจะแสงรำไรบ้าง นั่นเพราะถ้ำนี้บนหลังคาถ้ำมีโพรงขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางโถง ด้านหน้า มีหน้าต่างถ้ำสองช่องขนาดใหญ่ หนึ่งคือช่องที่เราเดินลงมา และอีกช่อง อยู่ติดๆ กันมีขนาดใกล้เคียงกัน ถ้ำนี้จึงไม่อับ ไม่ร้อน อากาศเย็นสบาย ไม่มืด ปีป้ายสีแดงติดไว้บอกทางไป "เจดีย์เบญจมหาโพธิสัตย์"
เราเดินตามเข้าไปในหลืบถ้ำมืดๆ เดินตามเข้าไปราว 10 เมตร ก็เห็นแสงรำไรๆ และเห็นเจดีย์ที่ยอดเจดีย์โผล่ทะลุขึ้นไปบนปล่องถ้ำอีกด้านหนึ่ง นี่คือเจดีย์เบญจมหาโพธิสัตย์ ที่เอ่ยถึง
ด้านหลังเจดีย์เป็นเวิ้งหลืบถ้ำค่อนข้างจะมืด มีแคร่ไม้เก่าๆ ผนังหลืบถ้ำหลังเจดีย์นี้ด้านหนึ่งมีหินย้อยตามผนังที่ดูสวยงาม ดูแล้วยังไม่ตาย ในหน้าฝนน่าจะมีน้ำย้อยลงมา
พอเดินกลับออกมาที่โถงใหญ่ จึงเห็นภาพที่สวยงามของถ้ำไก่หล่นแห่งนี้ ภาพก็อย่างที่ให้ดูเลยครับ ออกมาเดินเล่นในถ้ำชื่นชมความสวยงามในถ้ำให้คุ้มกับที่ขึ้นเขาชันมา ก่อนจะเดินออกมานอกถ้ำ แล้วจึงเดินลงบันไดกลับ
ถ้ำไก่หล่น ไม่ได้เป็นถ้ำที่สวยอะไรมากมาย แต่เป็นถ้ำที่เที่ยวแล้วไม่ได้มีความกลัว หรืออึดอัดเลย อยู่ได้เป็นวันๆ ยิ่งถ้ามาพ่วงกับการเที่ยวถ้ำอีก 2แห่งที่อยู่ใกล้กัน ก็นับว่าคุ้มในการเที่ยวถ้ำไปบนเส้นทางถนนสายนี้ และจะบอกว่า ถ้ำอีกสองแห่งที่เหลือ เดินง่าย และไม่ชันเท่านี้ เรียกว่าง่ายกว่าเยอะ
หัวหินจึงไม่ได้มีดีแค่ชายหาด ทะเล และหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีถ้ำอีกด้วย ถ้ำไก่หล่นรอคนมาเยือน มีโอกาสก็เชิญชวนครับ...







