สวมชุด 'บาบ๋าย่าหยา' จิบกาแฟ แลอังมอเหลาที่ ‘บ้านชินประชา’ภูเก็ต

สวมชุด 'บาบ๋าย่าหยา' จิบกาแฟ แลอังมอเหลาที่ ‘บ้านชินประชา’ภูเก็ต

สวมชุด'บาบ๋าย่าหยา' จิบกาแฟ ณ ‘บ้านชินประชา’ภูเก็ต คฤหาสน์สไตล์ชิโน-ยูโรเปี้ยนหลังแรกของภูเก็ต ปัจจุบันเปิดเป็น 'พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมภูเก็ต'

บ้านชินประชา หรือที่เรียกกันว่า อังมอเหลา (Angmor Lounge) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2446 โดย พระพิทักษ์ชินประชา (ตันม่าเสียง) ต้นตระกูล ตัณฑวณิช

เป็น พิพิธภัณฑ์มีชีวิต ที่เจ้าของบ้านยังใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้าน ขณะเดียวกันก็เปิดบ้านให้เป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวภูเก็ต ผ่านเรื่องราวของสถาปัตยกรรม ศิลปวัตถุ เฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านที่ได้รับการเก็บรักษาเป็นอย่างดี

'เมื่อร้อยกว่าปีเป็นอย่างไร ทุกวันนี้ก็เป็นเช่นนั้น' คุณชนะชนม์ ตัณฑวณิช ทายาทรุ่นที่ 5 ของ บ้านชินประชา เกริ่นขณะนำชมอาคารหลังประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2552 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์

สวมชุด 'บาบ๋าย่าหยา' จิบกาแฟ แลอังมอเหลาที่ ‘บ้านชินประชา’ภูเก็ต ฉิ่มแจ้ ช่องรับแสงธรรมชาติกลางบ้าน

สวมชุด 'บาบ๋าย่าหยา' จิบกาแฟ แลอังมอเหลาที่ ‘บ้านชินประชา’ภูเก็ต คุณชนะชนม์ ตัณฑวณิช ทายาทรุ่นที่ 5 ของบ้านชินประชา

ลมเย็น ๆพัดผ่านหน้าต่างลูกไม้ปลิวไสว บ่อน้ำกลางบ้านให้ความรู้สึกฉ่ำเย็น  เกิดจากทิศทางลมและแดดที่ผ่านการคิดคำนวณมาเป็นอย่างดี โดยมีช่องแสงเหนือบ่อน้ำที่เปิดให้ลม ฝน และแดดเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างเต็มที่

“คนจีนเราเรียกบริเวณที่เปิดรับธรรมชาติกลางบ้านว่า ฉิ่มแจ้ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความร่มรื่นเย็นสบาย บางบ้านอาจทำเป็นสวน พื้นที่ซักล้าง

แต่บ้านเราชอบบ่อน้ำจึงทำเป็นบ่อเลี้ยงปลา ชาวจีนเชื่อว่าฉิ่มแจ้เป็นฮวงจุ้ยของบ้าน ช่วยให้เงินทองไหลเข้าบ้าน แล้วบ่อน้ำก็ช่วยเก็บกักความมั่งคั่งเอาไว้ด้วย” เจ้าของบ้านอธิบาย

สำหรับฮวงจุ้ยเก็บทรัพย์นี้ยังเชื่อมโยงกับลวดลายแกะสลักไม้บริเวณใต้บันไดอันมีความหมายถึงทรัพย์สิน เงินทอง และความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งนอกจากมีความหมายที่ดีแล้วงานแกะสลักไม้ก็มีความสวยงามวิจิตรไม่น้อยเลยทีเดียว

คุณชนะชนม์ กล่าวว่า บ้านหลังนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2446 (ปลายรัชกาลที่ 5)โดย พระพิทักษ์ชินประชา (ตันม่าเสียง) ต้นตระกูล ตัณฑวณิช เจ้าของกิจการเหมืองแร่ดีบุกและธุรกิจโรงงานน้ำแข็ง โรงรับจำนำ โรงภาพยนตร์ เป็นต้น

บิดาของพระพิทักษ์ชินประชา คือ หลวงบำรุงจีนประเทศ (ตันเหนี่ยวยี่) เป็นชาวฮกเกี้ยนโดยกำเนิด ท่านเป็นทหารมีตำแหน่งเป็น บู๊เต็กจงกุน เดินทางมาเมืองไทยในช่วงปลายรัชกาลที่ 4 ปี พ.ศ. 2397 มาทำกิจการเหมืองแร่ดีบุกที่ภูเก็ต และกิจการค้าขายที่ปีนังในชื่อบริษัท เหลียนบี้

พระพิทักษ์ชินประชา (ตันม่าเสียง) เกิดที่ ภูเก็ต เมื่อโตขึ้นก็รับช่วงสืบทอดกิจการของบิดา ส่วนบ้านหลังนี้สร้างขึ้นขณะที่มีอายุ 20 ปี เป็นอาคารที่สร้างตามแบบชิโน - ยูโรเปี้ยนตามแบบปีนัง

ถือว่าเป็น อังมอเหลา(Angmor Lounge) หลังแรกในภูเก็ต (อังมอ เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยนแปลว่า ผมแดง ใช้เรียกชาวต่างชาติเชื้อสายยุโรป เหลา หมายถึง บ้าน หรือ ตึก)

สวมชุด 'บาบ๋าย่าหยา' จิบกาแฟ แลอังมอเหลาที่ ‘บ้านชินประชา’ภูเก็ต โต๊ะและเก้าอี้นำเข้าจากอังกฤษ พื้นกระเบื้องสวยจากอิตาลี

สวมชุด 'บาบ๋าย่าหยา' จิบกาแฟ แลอังมอเหลาที่ ‘บ้านชินประชา’ภูเก็ต

ตู้โชว์คู่สำหรับฝ่ายชายและฝ่ายหญิง

ด้วยความที่ติดต่อค้าขายกับทางปีนังมาอย่างต่อเนื่อง วัสดุสิ่งของในการสร้างบ้าน ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับตกแต่ง ข้าวของเครื่องใช้จึงเป็นสินค้านำเข้ามาจากยุโรปผ่านมาทางปีนัง เช่น กระเบื้องปูพื้นจากอิตาลี เฟอร์นิเจอร์ไม้จากอังกฤษ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ประดับมุกมาจากประเทศจีน

“เฟอร์นิเจอร์สมัยโบราณจะมีเป็นคู่ เช่น ตู้จะมีตู้สำหรับผู้ชายและผู้หญิงอยู่คู่กัน สังเกตได้จากลวดลายที่แกะสลักด้านบนสุดตู้ของผู้ชายจะเป็นรูปนกฟีนิกซ์

ในขณะที่ของผู้หญิงจะเป็นรูปดอกไม้ หรือจะดูที่ขาตู้ที่แกะสลักเป็นรูปหัวสิงห์จะเห็นว่าเป็นสิงห์ผู้หญิงกับผู้ชาย” เจ้าของบ้านชี้ให้ดูตู้โชว์ไม้แกะสลักที่จัดวางอยู่เคียงกันในบ้าน

“เฟอร์นิเจอร์มุกก็เช่นกัน จะมีเก้าอี้ของผู้หญิงกับผู้ชาย” สื่อความหมายถึงความเป็นคู่ของชายหญิง หรือ หยินหยาง นั่นเอง

สวมชุด 'บาบ๋าย่าหยา' จิบกาแฟ แลอังมอเหลาที่ ‘บ้านชินประชา’ภูเก็ต

เฟอร์นิเจอร์มุกจากประเทศจีนมีเป็นคู่ชายหญิงเช่นกัน

คุณชนะชนม์ เล่าให้ฟังว่าเดิมทีห้องชั้นล่างไม่ได้มีห้องนอน แต่เนื่องจากมีการใช้พื้นที่ของบ้านจัดงานวิวาห์บาบ๋าภูเก็ต จึงจัดห้องหนึ่งให้เป็นห้องนอนสำหรับให้เจ้าสาวมานั่งรอขบวนขันหมากในวันแต่งงาน

สิ่งที่น่าสนใจ คือ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นล้วนเป็นของเดิมที่ตกทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอนที่ตกแต่งด้วยโอปอลจากออสเตรเลีย เปลเด็กอ่อนที่คุณชนะชนม์เคยนอนตอนเด็ก เป็นต้น

สวมชุด 'บาบ๋าย่าหยา' จิบกาแฟ แลอังมอเหลาที่ ‘บ้านชินประชา’ภูเก็ต บริเวณห้องที่จัดไว้สำหรับจัดงานวิวาห์แบบบาบ๋าภูเก็ต

สวมชุด 'บาบ๋าย่าหยา' จิบกาแฟ แลอังมอเหลาที่ ‘บ้านชินประชา’ภูเก็ต

ขนมพื้นเมืองภูเก็ตและกาแฟบ้านชินประชา (ภาพ Chinpracha House & Museum)

นอกจากเปิดบ้านให้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานเพื่อสืบสานงานวิวาห์บาบ๋าภูเก็ตแล้ว บ้านชินประชายังเปิดให้บริการห้องเสื้อชุดบาบ๋าย่าหยา สำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาว และนักท่องเที่ยวสวมใส่ไปท่องเที่ยวในเมืองเก่าภูเก็ต รวมทั้งสวมใส่ถ่ายรูปภายในบ้านชินประชา

“คุณแม่ของผม (คุณจรูญรัตน์ ตัณฑวณิช) ท่านเป็นคนสะสมและชื่นชอบในเรื่องเครื่องแต่งกายและมีฝีมือในการเย็บปักถักร้อย

เราจึงเปิดมุมหนึ่งในบ้านเป็นห้องเสื้อที่มีเสื้อผ้าพื้นเมืองของชาวภูเก็ตมาให้เช่าสวมใส่ถ่ายรูปและออกงาน เรามีเครื่องประดับให้ด้วย

ช่วงโควิดภรรยาผมมาช่วยด้วยเราจึงมีบริการตัดชุด ซึ่งเป็นแบบที่มีการพัฒนาให้มีความร่วมสมัย สวมใส่ในชีวิตประจำวันได้เลยครับ”

ได้ยินเจ้าของบ้านเล่าเราก็ตาลุกวาวด้วยความสนใจ

สวมชุด 'บาบ๋าย่าหยา' จิบกาแฟ แลอังมอเหลาที่ ‘บ้านชินประชา’ภูเก็ต

คุณจรูญรัตน์ ตัณฑวณิช ในชุดบาจูปันจัง(ครุยยาว)อายุร้อยกว่าปี ลายดอกพิกุลสีน้ำตาลเข้ม (ภาพ : Chinpracha House & Museum)

ใกล้ห้องเสื้อมีมุมกาแฟและขนมพื้นเมืองที่เปิดให้บริการด้วย ใครที่รักบ้านเก่าชื่นชมความงามของเครื่องแต่งกายพื้นเมืองภูเก็ต

แนะนำให้จัดเวลามาเที่ยว บ้านชินประชา สักครึ่งวันนะคะ จะได้นั่งจิบกาแฟ เดินชมบ้าน และที่ขาดไม่ได้ มาแต่งชุดบาบ๋าย่าหยา ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในการมาเยือน ภูเก็ต กันค่ะ

สวมชุด 'บาบ๋าย่าหยา' จิบกาแฟ แลอังมอเหลาที่ ‘บ้านชินประชา’ภูเก็ต สวมชุด 'บาบ๋าย่าหยา' จิบกาแฟ แลอังมอเหลาที่ ‘บ้านชินประชา’ภูเก็ต

บ้านชินประชา

เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/ChinPrachaHouseMuseum

ที่ตั้ง 98 ถนนกระบี่ ตำบลตลาดเหนือ จังหวัดภูเก็ต

เปิดให้เข้าชมทุกวัน 9.00–16.30 น. โทร. 0 7621 1281

ค่าเข้าชมคนไทย 100 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท

ห้องเสื้อให้เช่าชุดบ่าบ๋าย่าหยาสวมใส่ถ่ายรูปในบ้าน และนอกสถานที่ ติดต่อได้ที่คุณเล็ก โทร. 08 8553 5396 เฟซบุ๊ก เช่าชุดเจ้าสาวบาบ๋าบ้านชินประชา  https://www.facebook.com/babadressChinpracha