รากปราสาท...ที่บ้านกรวด

แหล่งตัดหินทรายโบราณ วัดป่าลานหินตัด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ สันนิษฐานว่าเป็นต้นทางวัสดุที่ใช้ก่อสร้างปราสาทหินหลายแห่งในเขตอีสานใต้ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 15-18
KEY
POINTS
- มีการค้นพบแหล่งตัดหินทรายโบราณขนาดใหญ่ในพื้นที่วัดป่าลานหินตัด อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์
- สันนิษฐานว่าแหล่งตัดหินแห่งนี้เป็นต้นทางของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างปราสาทหินขอมหลายแห่งในเขตอีสานใต้
- พบร่องรอยการสกัดหินจำนวนมากกระจายทั่วพื้นที่หลายร้อยไร่ ซึ่งกรมศิลปากรระบุว่ามีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 15-18
บรรยากาศการขัดแย้งกันเรื่องชายแดนกับประเทศติดกันยังไม่จางหาย หมอกควันของการขัดแย้งยังกรุ่นอยู่ในพื้นที่ ก็อย่างที่เรารู้กันว่า ปราสาทหินที่อยู่ริมชายแดนนั้นถูกยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการแย่งชิง ซึ่งจริงๆ แล้ว ปราสาทหินอาจจะแค่ข้ออ้างแต่ที่ต้องการจริงๆคือ “ดินแดน” ต่างหากที่อยากได้ ถ้าได้ตัวปราสาท ไม่ได้หมายความแต่เนื้อที่ตรงที่ปราสาทตั้งอยู่เท่านั้น แต่หากจะหมายไปถึงแผนที่ ที่ขีดยาวไปจากปราสาทหนึ่งไปยังอีกปราสาทหนึ่ง ซึ่งก็จะกินเนื้อที่ไปหลายสิบตารางกิโลเมตร
ความพิเศษของปราสาทตาเมือนทม อย่างที่เราไปเห็นกันมาแล้วคือ ตัวปราสาทสร้างอยู่บนลานหินทรายธรรมชาติ ที่มันเป็นเนินและเป็นลานหินบางส่วนอยู่แล้ว ส่วนที่เป็นเนินนูนก็อุปมาเป็นดั่งศิวลึงค์ ต้นธารแห่งการก่อกำเนิด ตามลัทธิไศวนิกายที่นับถือพระศิวะเป็นใหญ่ เราจึงเห็นโคนนทิ อยู่ภายในตัวปราสาทประธานด้วย ตัวปราสาท ทั้งโคปุระ เรือนธาตุ และตัวปราสาทอื่นๆ เราจะเห็นว่าส่วนฐานปราสาท รวมทั้งขอบฐานที่ตั้งปราสาทนั้น ทำจากศิลาแลงซึ่งก็ไม่อยู่ว่าบ่อศิลาแลงในย่านนี้นั้นอยู่ที่ใด
ส่วนด้านนอกปราสาทที่เป็นลานหินนั้นหรือการตกแต่งต่างๆ มีการแกะสลักหิน เป็นตัวฐานเรือนธาตุ เป็นส่วนต่างๆ ของปราสาทประธาน รวมทั้งเห็นร่องรอยการร่างแบบบนลานหิน เป็นรูปช้าง และรูปต่างๆ เหล่านี้จะเป็นหินทรายซึ่งไม่รู้ว่านำมาจากที่ใด ทั้งที่บริเวณนั้นบรรดาหินที่ปรากฏ แม้จะเป็นหินทรายแบบเดียวกับที่สร้างปราสาทก็จริง แต่ในบริเวณใกล้เคียงเราก็ไม่เห็นแหล่งตัดหินอยู่ใกล้ๆ เลย
ไม่เหมือนที่ปราสาทภูเพ็กที่สกลนคร หรือปราสาทเขาพระวิหารเองที่ใกล้กับตัวปราสาท จะปรากฏแหล่งที่ตัดหินเอาไปสร้างปราสาท โดยเฉพาะปราสาทเขาพระวิหารนั้น แหล่งตัดหินอยู่ด้านนอกตัวกำแพงแก้วกันเลยทีเดียว (แต่คงไม่ใช่แหล่งตัดหินส่วนใหญ่ในการสร้างปราสาท คงเอามาจากที่อื่นด้วย)
ในบ้านเราก็มีปราสาทหินอยู่หลายแห่ง ในขณะเดียวกัน เราก็พบแหล่งตัดหิน อยู่หลายแห่งเช่นกัน สำหรับในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ติดกับอำเภอพนมดงรักของศรีสะเกษ ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทตาเมือนทมนั้น บ้านกรวดเองมีปราสาทหินเล็กๆ อย่างปราสาททอง ปราสาทบายแบก แต่วัสดุหลักที่สร้างปราสาทบายแบกจะเป็นอิฐ ส่วนปราสาททอง แม้จะเป็นปราสาทหินทรายและอิฐ แต่ก็ใช้หินทรายน้อยเกินไป
ปราสาทใกล้ๆ ก็อยู่ที่อำเภอโนนดินแดง คือปราสาทหนองหงส์ ซึ่งดูจะไม่สอดคล้องกับแหล่งตัดหินขนาดใหญ่ ที่วัดป่าลานหินตัด ซึ่งอยู่ในพื้นที่บ้านสายตรี 3 และ 4 ตำบลปราสาท อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ห่างตัวอำเภอบ้านกรวดไม่มาก วัดนี้จะรู้จักกันอีกชื่อหนึ่งคือวัดพระขี่จักรยาน ชื่อจริงๆ คือ วัดป่าธรรมศิลาราม ซึ่งเป็นวัดที่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมด้วย บรรยากาศในวัดจึงร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ เงียบสงบร่มรื่น
ภายในบริเวณวัด นอกจากบรรดาต้นไม้น้อยใหญ่ที่ให้ร่มเงา ใบบังทั่วบริเวณแล้ว ยังมีหินทรายน้อยใหญ่ ระเกะระกะ กระจายกันอยู่ทั่วไปในบริเวณวัด บรรดาหินทรายเหล่านี้เองที่ปรากฏว่ามีร่องรอยของการสกัดหินที่ปรากฏทั้งร่องรอยที่มีการตัด ยก เอาหินออกไปแล้ว มีทั้งที่เซาะแบ่งก้อนหินเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้แซะยกออกไป
อีกทั้งเห็นร่องรอยการลงเหล็กสกัด ทำเป็นร่องรอยไว้ว่าจะสกัดหินมาในแนวนี้ หินที่สกัดก็มีทั้งขนาดใหญ่ ยาว และสั้น อย่างที่บอกว่า ทั้งบริเวณวัดที่เป็นทั้งป่า ก็มีหินพวกนี้กระจายกันอยู่ทั่วบริเวณและหินพวกนี้ ก็ปรากฏร่องรอยการตัดหินอยู่ทั่วไปเช่นกัน
ในวัดเขาจะมีเส้นทางเดินดูแหล่งหินตัด ทำเป็นทางปูนอย่างดี เราเดินไปตามทางก็จะไม่พลาดแหล่งตัดหินที่อยู่ที่นี่
นอกจากนั้นเขาจะมีจุดที่เรียกว่า "หม้อหินใหญ่" ซึ่งเป็นหลุมลึก ปากหลุมกว้างราว 70 ซม. ลึกราวเมตรเศษๆ ซึ่งจริงๆ ก็คือกุมภลักษณ์นั่นเอง ซึ่งกุมภลักษณ์นี้จะปรากฏในลานหินทรายเป็นเรื่องปกติ ฝั่งตรงข้ามจะมีป้ายติดว่า รอยตีนเสือ ปรากฏเป็น 2 รอย บนหินขนาดใหญ่ ดูเผินๆ ก็เหมือนรอยตีนเสือจริงๆ แต่พอดูใกล้ๆ จะเป็นรอยของการใช้อุปกรณ์ที่ใช้สกัดหิน เจาะลงไปในเนื้อหินทรายเป็นสองรอย คงจะทำอะไรสักอย่าง แต่ไม่ทันได้ทำจึงทิ้งร่องรอยไว้
เดินตามทางออกไปเรื่อยๆ เหมือนจะออกไปนอกแนวป่าร่มครึ้มที่เป็นเขตวัด ออกไปสู่พื้นที่ที่เป็นสวนยางพารา ผมเคยไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนเป็นไร่มันสำปะหลัง แต่ตอนนี้เป็นสวนยางพาราไปแล้ว ทางเดินจะนำพาเราไปเห็นลานหินขนาดใหญ่ ที่ปรากฏร่องรอยการสกัดหินมากมาย แล้วทางก็ยังพาไปอีกไกล คาดว่าเดินดูไปเรื่อยก็คงเจอแหล่งตัดหินไปเรื่อยเช่นกัน
จากการที่เราเดินดูมาทั้งในป่าเขตวัด ออกมาถึงลานกลางสวนยางพาราและมีที่ไปได้อีกแต่ไม่ได้เดินไปดูนั้น จะเห็นว่าที่นี่ เป็นแหล่งตัดหินขนาดใหญ่ กว้างและใหญ่กว่าแหล่งตัดหินริมทางถนนมิตรภาพที่สีคิ้วมาก กรมศิลปากรมาขึ้นป้ายอนุรักษ์พื้นที่ให้เป็นเขตโบราณสถาน
และมีป้ายอธิบายความไว้ด้วย ว่าร่องรอยเหล่านี้ เกิดขึ้นในช่วงการสร้างปราสาทหินทั้งหลาย คือราวพุทธศตวรรษที่ 15-18 ครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยไร่ คาดว่าที่นี่น่าจะเป็นแหล่งตัดหินเพื่อนำไปสร้างปราสาทหินในเขตอีสานใต้ เข้าใจว่าหินที่นี่คงมีคุณภาพดี ไม่ได้อยู่บนภูเขาสูง ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการขนย้าย และอยู่ไม่ไกลจากจุดหมายที่จะนำไปก่อสร้างมากนัก
การมาดูแหล่งหินตัดทั้งที่อื่นๆ หรือที่บ้านกรวดแห่งนี้จะทำให้เราเชื่อมโยงไปถึงการก่อสร้างปราสาทหินต่างๆ และชุมชนของคนที่มาปักหลักสกัดหินที่คงอยู่กันเป็นปีๆ เพื่อทำการสกัดหินดังกล่าว บางพื้นที่จะปรากฏบารายหรือบ่อน้ำขนาดใหญ่ ใกล้แหล่งตัดหินด้วย
แหล่งสกัดหินจึงอาจเป็นภาพจิ๊กซอว์ (Jigsaw puzzle) ตัวเล็กๆ ที่แสดงให้เห็นถึงต้นทางแห่งการสร้างปราสาทหิน ไปดูรากของปราสาทหินต่างๆ จนนำมาสู่การแย่งชิงในปัจจุบัน เห็นปัจจุบันแล้วมองย้อนอดีต จะทำให้เราพอกำหนดอนาคตได้บ้าง
ครั้งนี้ไม่มีอะไรมาก แค่อยากจะบอกว่า ผ่านไปบ้านกรวด บุรีรัมย์ ลองแวะเข้าไปดูแหล่งตัดหินกันครับ นี่แหละ รากปราสาทของจริง...







