เที่ยว 'ปางช้าง' อย่างเป็นมิตร ไม่ขี่ช้าง ไม่อาบน้ำกับช้าง

การเที่ยว "ปางช้างเฟรนด์ลี่" ปลุกกระแสเที่ยวแบบใส่ใจชีวิตสัตว์ ไม่ขี่ช้าง ไม่อาบน้ำกับช้าง แค่ดูช้างกิน เดินตามช้าง ก็นับเป็น "ช้างบำบัด" กลับบ้านไปก็มีความสุขแล้ว
"ช้าง" เป็นสัตว์สัญลักษณ์ของเมืองไทย ผูกพันกับคนไทยมาเนิ่นนาน เราใช้ช้างในศึกสงคราม เลี้ยงไว้ใช้งาน เลี้ยงช้างเป็นเพื่อน ดูแลราวสัตว์เลี้ยงแสนรัก
ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งช้าง ภาคเหนือที่มีชื่อว่า ล้านช้าง หมายถึงมีช้างจำนวนนับล้าน ๆ ตัวในป่า รวมถึงช้างเลี้ยง
คนไทยกับช้าง เป็นความผูกพันชั่วนิรันดร์...
คนไทยรักช้าง ชาวต่างชาติที่บ้านเขาไม่มีช้างก็อยากมาดูช้าง หลายคนบอกว่า once in a lifetime ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องมาเห็นช้างตัวเป็น ๆ จึงเป็นที่มาของ ปางช้าง สถานที่ท่องเที่ยวให้คนไปดูช้าง
ปางช้างยุคใหม่เป็นมิตรต่อช้าง
เนื่องในวาระครบรอบ 75 ปี องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection – WAP) ร่วมกับ มูลนิธิช้างทรัพย์ไพรวัลย์ เปิด Elephant Forest Phitsanulok ต้นแบบปางช้างที่เป็นมิตรอย่างสมบูรณ์ ณ ปางช้างทรัพย์ไพรวัลย์ ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
โรจนา สังข์ทอง
โรจนา สังข์ทอง ผู้อำนวยการ WAP บอกว่า “องค์กรพิทักษ์สัตว์ฯ ทำงานมา 75 ปีแล้ว ในไทย 15 ปี ช่วยเหลือสัตว์ที่ประสบภัย เช่น ช่วงน้ำท่วมเราลงพื้นที่ภายใน 48 ชม. และดูแลเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ ทั้งสัตว์ในฟาร์ม สัตว์ป่า ซึ่งถึงวันนี้ไม่ได้ลดลงเลย มีแต่จะเพิ่มขึ้น อะไรเป็นสาเหตุเราต้องมองทั้งระบบ เช่น อาหารของสัตว์ การทำลายป่า พฤติกรรมการกินของคน หรือการใช้ประโยชน์จากสัตว์ป่าเพื่อสนองความต้องการของคน”
WAP ทำงานปกป้องสัตว์ใน 44 ประเทศทั่วโลก เมื่อมองถึงการท่องเที่ยวที่ใช้สัตว์ ปางช้าง เป็นสถานที่ยอดนิยม โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่อยากมาดูช้าง
"เราเชื่อว่าทุกปางต่างรักช้าง อยากให้ช้างมีชีวิตที่ดี องค์กรฯ มีเครือข่ายปางช้างที่เปลี่ยนผ่านสู่การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรแล้วกว่า 13 แห่งทั่วประเทศ จากปางช้างที่มีราว 300 แห่ง ภายในปลายปีนี้จะเพิ่มอีก 2 แห่ง เพิ่มขึ้น 20% เพื่อยกระดับสวัสดิภาพสัตว์สู่ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมีปางช้างที่เชียงใหม่ที่เราทำงานด้วย เขาบอกว่า รายได้ตอนนี้มากกว่าตอนที่มีขี่ช้างอาบน้ำเสียอีก จึงอยากสื่อสารว่า เทรนด์การท่องเที่ยวตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว"
ไม่ขี่ช้าง ไม่อาบน้ำกับช้าง นักท่องเที่ยวจะมามั้ย...
ปางช้างเฟรนด์ลี่ สร้างแนวคิดการท่องเที่ยวใหม่ในปางช้างที่ ไม่ขี่ช้าง ไม่อาบน้ำช้าง ไม่ป้อนอาหารช้าง
ศิรอาภา ศิริวิริยะกุล
ศิรอาภา ศิริวิริยะกุล ผู้อำนวยการ มูลนิธิช้างทรัพย์ไพรวัลย์ ทายาทรุ่นที่ 4 ของคนรักช้าง เป็นแม่แบบ ปางช้างเฟรนด์ลี่
"เมื่อก่อนปางช้างจะ พาช้างมาให้คนดู แต่ตอนนี้เราจะพาคนไปดูช้างในป่า โดย Elephant Forest Phitsanulok ทำปางช้างเฟรนด์ลี่ให้เป็นจริง และอยากให้ปางช้างอื่น ๆ เห็นว่าการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ส่งเสริมสวัสดิภาพช้าง ควาญช้างดีขึ้น นักท่องเที่ยวก็ปลอดภัย ที่สำคัญสามารถมีรายได้อย่างยั่งยืน”
คนรักช้างเล่าว่า เลี้ยงช้างมาสิบกว่าปีแล้ว แรกเริ่มซื้อรีสอร์ทจากเจ้าของเก่าที่ช่วยเหลือช้างเร่ร่อน
"ชุดแรกเขามีช้าง 5 ตัว พื้นที่ 900 ไร่ ช้างมีสเปซ ได้กินอาหารตามธรรมชาติก็เริ่มเจริญพันธุ์ คลอดลูกหลานมา 15 ตัว เจ้าของเก่าบอกว่าช่วยรับดูแลช้างต่อได้มั้ย ช้างชุดแรกนั้นนิสัยกึ่งช้างป่า เวลาสัตวแพทย์มาเขาจะวิ่งหนี
สิ่งที่เราเรียนรู้คือ ช้างแต่ละตัวมีบุคลิกนิสัยไม่เหมือนกันเลย พอช้างคลอดลูกเยอะเราก็ไม่ไหว เลยส่งให้ศูนย์อนุรักษ์ช้างที่ลำปาง ส่วนช้างชุดนี้เราได้มาจากช้างที่ทำงานท่องเที่ยว เป็นช้างตัวเมียทั้งหมด บางตัวอายุมาก ป่วยมา ถูกทารุณมาก็มี บางตัวก็ได้รับการดูแลดี ตอนแรกเราเป็นปางช้างที่มีขี่ช้าง อาบน้ำ ป้อนอาหาร ซึ่งพอเราเปลี่ยนก็ถือว่าท้าทายมาก
ตอนที่เรามีขี่ช้าง นักท่องเที่ยวฝรั่งบอกว่า...ทำไมยังล่ามโซ่และป้อนอาหารช้าง ประเทศฉันไม่มีใครอยากมาเที่ยวแบบนี้...
พอเราเปลี่ยนกิจกรรมก็พบว่า นักท่องเที่ยวใช้เวลา 1 ชม. ยืนดูช้างในป่าด้วยระยะห่าง เขายินดีจ่ายเป็นหลักพันเพื่อมาดูช้างโดยไม่รบกวนช้าง ตอนแรกคิดว่าใครจะมาจ่ายถ้าไม่ทำอะไร ผลสุดท้ายเขามานั่งดูแล้วเขามีความสุขจริง ๆ
ถ้ามาขี่ช้างคุณก็จะเห็นแต่หัวช้าง แต่ถ้าเดินตามช้างจะเห็นเวลาช้างมาเจอกัน มันทักทายกัน เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวว้าว...มาก”
มาดูช้างเฉย ๆ โดยไม่สัมผัสช้าง เดินตามช้างในพื้นที่กึ่งป่า เว้นระยะ 4 เมตร ควาญช้างคอยดูแล จะเห็นช้างค่อย ๆ เดิน บางครั้งทักทายเพื่อนช้าง เมื่อช้างหยุดเราก็หยุด ระหว่างทางกระหวัดงวงเกี่ยวต้นไม้ใบหญ้ามากิน ช้างกินตลอดเวลา วันละ 250 กิโลฯ กินแล้วก็อึ ถ้าสุขภาพดีครั้งละ 6 ก้อน มูลช้างใช้ทำปุ๋ย
ปัจจุบัน Elephant Forest Phitsanulok เป็นบ้านของช้างเพศเมีย 5 ตัว ส่วนใหญ่เคยผ่านชีวิตที่ยากลำบากจากการลากไม้และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เมื่อมาที่นี่ช้างทุกตัวได้รับการฟื้นฟูทั้งกายและใจ
ที่สำคัญช้างกลับมาใช้ชีวิตอย่างอิสระ และมี ชีวิตบั้นปลายที่มีความสุข อย่างที่เจ้าของปางช้างตั้งใจ
ทริเชีย โครสดอล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WAP
การเปลี่ยนผ่านจาก ปางช้างทั่วไปมาเป็น ปางช้างเฟรนด์ลี่ ยังปรับอุปกรณ์โซ่ที่ใช้ผูกช้างเวลากลางคืน จากโซ่โลหะเปลี่ยนเป็นโซ่น้ำหนักเบา รวมถึงการสร้างคอกล้อมรั้วที่ปลอดภัยสำหรับใช้เวลาพัก จัดกิจกรรมเสริมอุปกรณ์ Enrichment กระตุ้นพฤติกรรมตามธรรมชาติ การฟื้นฟูสภาพป่า ตลอดจนดูแลช้างสูงอายุให้พักในโรงเรือน และทำอาหารเฉพาะที่ย่อยง่ายและช่วยระบบขับถ่าย
กัญจนา ศิลปอาชา
ที่สำคัญยังยกระดับคุณภาพชีวิตของควาญช้าง ปรับบทบาทจาก “ผู้ควบคุมบังคับ” เป็น “ผู้ดูแล ที่ทำงานร่วมกับช้างด้วยความเคารพและเข้าใจ เพื่อลดความเครียดของทั้งสองฝ่าย เจ้าของปางช้างเสริมว่า
คนรักช้างตัวจริง ประพันธ์ ศิริวิริยะกุล
“เรามีช้าง 5 ตัว พอทำปางช้างแนวใหม่ สิ่งที่น่าสนใจและเราเรียนรู้ไปด้วยคือ ลูกค้าต่างชาติเข้าใจแต่คนไทยน่าจะไม่เข้าใจ กลายเป็นว่าคนไทยหลายคนที่มาเขามีคอมเมนต์ที่น่าประหลาดใจเช่น ...เพิ่งรู้นะว่าช้างเป็นแบบนี้ เหมือนเปิดโลก เพิ่งรู้ว่าช้างแต่ละตัวมีนิสัยต่างกัน ตอนขี่ช้างไม่เห็นอะไรเลย แต่พอมาเดินกับช้างเห็นช้างยืนเล่นกัน บางตัวคุยกัน บางตัวหลบมุม
เหมือนเราเมื่อก่อนตอนไปเที่ยวสวนสัตว์แล้วเห็นช้างยืนส่ายไปส่ายมา นึกว่าช้างเต้นรำ มารู้ทีหลังว่าช้างไม่ได้เต้นรำ แต่เป็นพฤติกรรมที่แสดงความเครียด ช้างเป็นสัตว์ฉลาด พอถูกบังคับถูกล่ามโซ่ให้อยู่นิ่ง ๆ เขาจะมีพฤติกรรมที่มองดูคล้ายเสือติดจั่น
เส้นทางเดินกับช้าง
ปั้นซูชิทำจากข้าวและธัญพืชให้ช่างกิน ช่วยระบบย่อยอาหาร
คนไทยส่วนใหญ่คิดว่ารักช้าง รู้จักช้าง แต่ไม่ใช่ หรือคิดว่าช้างชอบกินกล้วยกินอ้อย แต่ถ้ากินมากไปกลายเป็นช้างอ้วน เป็นเบาหวาน
อีกอย่างที่คนไทยชอบคือสัมผัสช้าง ขี่ช้าง ถ้ามองดูช้างเขาไม่ได้รู้สึกอย่างเรา มันไม่ใช่นิสัยของช้างอยู่แล้ว”
กิจกรรมปั้นเมล็ดพืชแล้วใช้หนังสติ๊กยิงเข้าไปในป่า
เดินตามช้างแหวกพงหญ้าเล็กน้อย
เพราะกว่าช้างจะอ่อนโยนเชื่อฟังก็ผ่านการเคี่ยวกรำจากควาญช้าง หลายคนชอบป้อนอาหารช้างกับมือ แต่ช้างแต่ละตัวนิสัยไม่เหมือนกัน บางตัวอยากจะกินทันทีใช้งวงคว้ามือนักท่องเที่ยว ควาญช้างต้องคอยคุม สุดท้ายคือช้างโดนบังคับ
ไม่อยากให้ช้างถูกบังคับ เที่ยวปางช้างแบบใหม่เป็นประสบการณ์ที่ไม่ลองก็ไม่รู้ว่า...แค่ได้มองดูช้างก็มีความสุขแล้ว
Elephant Forest Phitsanulok : กิจกรรมเช่น กินอาหารเช้ากับช้าง, เดินกับช้าง ระยะทาง 700 เมตร, หอชมช้าง ยิงหนังสติ๊ก seed ball เข้าไปในป่า, ทำซูชิบอลล์ ข้าว+สมุนไพรปั้นให้ช้างกิน ฯลฯ
ครึ่งวัน (1.5 ชม.) ผู้ใหญ่คนละ 1,700 บาท เด็ก (5-11 ขวบ) 850 บาท เที่ยวเต็มวัน (6 ชม.) ผู้ใหญ่ 3,850 บาท เด็ก 1,925 บาท
โทร.081 533 7288
elephantforestphitsanulok.com.th





