ทูมอร์โรว์แลนด์กับ ‘รัฐบาลทูมอร์โรว์’ ค่อยฉลาด

ทูมอร์โรว์แลนด์กับ ‘รัฐบาลทูมอร์โรว์’ ค่อยฉลาด

ข่าวเล็กที่คนอาจจะหลงหูหลงตา แต่เงินไม่เล็กเพราะใช้เงินถึง 1,900 ล้านบาท เมื่อรัฐบาลแพทองธารเห็นชอบการซื้อลิขสิทธิ์การจัดงานเทศกาลดนตรี Tomorrowland ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2569

ยาวต่อเนื่องไป 5 ปี เป้าหมายคือ จะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาชมเทศกาลดนตรีที่ว่า และแม้จะอ้างด้วยว่าเป็นเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ก็ดูไม่เกี่ยวข้อง 

ตัวเลขที่พยายามนำมาสนับสนุนทั้งจำนวนนักท่องเที่ยว ทั้งการโปรโมทชื่อเสียงประเทศ ทั้งรายได้เข้าประเทศ ตัวเลขเหล่านี้ที่ไม่รู้เอามาจากไหน ไม่ต่างจากสารพัดตัวเลขที่เคยยกเมฆมาอ้างอิงกับกรณีอื่นๆ อีเวนต์แบบนี้ที่รัฐบาลถนัดนัก ย้ำคิดย้ำทำอย่างไม่รู้ว่าเมื่อไรจึงจะฉลาดขึ้น

ทูมอร์โรว์แลนด์เป็นเทศกาลดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ (Electronic dance music) ระดับโลกเริ่มจัดครั้งแรกในปี 2548 ที่เมืองบูม ประเทศเบลเยียมและกลายเป็นหนึ่งในเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในโลก เบื้องต้นในปี 2569 เทศกาล Tomorrowland จะมาจัดเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในเดือนธันวาคมเป็นเวลา 3 วันที่จังหวัดชลบุรี

หากรัฐบาลอ้างว่าการจัดเทศกาลดนตรีทูมอร์โรว์แลนด์เพื่อจะส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยนั้น ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ไม่ตอบโจทย์นี้ แม้ว่าที่ผ่านๆ มานายกฯ ผู้ไม่เคยเข้าใจคำว่าซอฟต์พาวเวอร์มากไปกว่าการทุ่มเงินจัดอีเวนต์จะพยายามโยงทุกเรื่องให้กลายเป็นเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ก็ตาม ต้องเริ่มต้นจากการถามว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะมางานเทศกาลดนตรีนี้เป็นกลุ่มไหน 

เป็นกลุ่มครอบครัวที่รัฐบาลหวังว่าจะมาดื่มด่ำกับศิลปวัฒนธรรมและธรรมชาติ นอนโรงแรมดีๆ ผ่อนคลายกับสปาหรือนวดแผนไทย ไปท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินกับชุมชน สนใจเรียนทำอาหารไทย หรือหัดมวยไทยอย่างที่พยายามหาเรื่องโยงไปหรือเปล่า หรือเขาเป็นนักท่องเที่ยวแบบฉาบฉวยมาสนุกแล้วก็กลับ ทิ้งร่องรอยที่อาจจะไม่พึงปรารถนาให้เราเก็บกวาดหรือเปล่า แล้วประเทศจะได้คุ้มเสียไหมกับเทศกาลดนตรีนี้

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ (Feasibility Study) ในการจัดงานเทศกาลดนตรี Tomorrowland ให้แล้วเสร็จ

ทั้งมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนการจัดงานเทศกาลดนตรี Tomorrowland ตามผลการศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ (ทั้งๆ ที่ผลการศึกษายังไม่ออกมาแม้แต่น้อย) 

ก็แปลว่าตั้งโจทย์และตอบโจทย์กันแล้วแบบเบ็ดเสร็จ หลังจากนั้นเพียงหนึ่งเดือนผลการศึกษาก็ส่งมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเป็นวาระรับทราบเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ทุกอย่างก็ผ่านฉลุย น่าฉงนว่าไปศึกษากันมาอย่างไร สสปน.มีหรือที่จะไม่สนองตอบการเมือง ตัวเลขสารพัดจึงพรั่งพรูออกมาอย่างน่าสงสัยและกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาล

หากไปดูผลการศึกษาจะพบว่า จนถึงวันนี้รัฐบาลและ ททท.ที่เป็นหน่วยงานชงตัวเลขตามใจผู้มีอำนาจก็ยังเน้นจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยว มิไยที่หลายฝ่ายพยายามจะบอกว่าต้องหันไปยกระดับคุณภาพนักท่องเที่ยว ไม่ควรมุ่งแต่ตัวเลขจนนักท่องเที่ยวล้นเมืองอย่างที่หลายประเทศกำลังประสบ แต่ควรจะเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพที่อยู่นานวัน ใช้จ่ายมากขึ้น ไม่ถลุงทรัพยากรการท่องเที่ยวแบบไม่รับผิดชอบ

 

ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือต้องสร้างความปลอดภัยให้เขา จัดระเบียบสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งการขนส่งการคมนาคมที่ได้มาตรฐาน ความสะอาดของพื้นที่ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับพวกเอาเปรียบคดโกงนักท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้มีคุณภาพดีหรือยัง คำตอบคือยัง รัฐบาลมุ่งแต่จะเอาตัวเลข แล้วผลก็เป็นอย่างที่เห็น นักท่องเที่ยวครึ่งปีที่ผ่านมาลดไปแล้ว 6% เทียบกับปีที่แล้ว

ททท.ละลายเงินไปกว่า 200 ล้านกับการจัดงานสงกรานต์ปีนี้ที่สนามหลวง ทั้งงบกลางและงบของ ททท. แล้วได้ประเมินผลกันไหมว่ามีผลตอบแทนกลับมาเท่าไรจากเงินจำนวนนี้ หากได้ผลจริงนักท่องเที่ยวไม่ควรจะหาย

การจัดโครงการหนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ที่จะล้มเหลวไม่เป็นท่ากับความพยายามสร้างเชฟหรือศิลปินบนความเพ้อเจ้อของนายกฯ งานสแปลซเวทีโชว์ซอฟต์พาวเวอร์เมื่อเดือนที่แล้วก็ละลายเงินไปอีกกว่า 55 ล้าน เฉพาะค่าจัดงานไม่รวมค่าทำบูธของแต่ละหน่วยงาน รวมๆ แล้วน่าจะใกล้ร้อยล้าน

จัดอีเวนต์ออกมาไม่ต่างจากงานไทยเที่ยวไทยที่หาสาระอะไรไม่ได้ ทูมอร์โรว์แลนด์จะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ 1,900 ล้านบาทต่อ 5 ปีหรือปีละ 380 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าตัวศิลปิน ค่าโปรดักชัน และค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่างๆ ส่วนรายได้ก็เป็นแค่ฝันหวานไม่รู้จะเหลืออยู่ในประเทศสักเท่าไร (ดูรายละเอียดได้ใน www.isranews.org/article/isranews/140388-politics-89.html) 

การละลายเงินไปกับอีเวนต์ต่างๆ โดยอ้างว่าเพื่อสร้างซอฟต์พาวเวอร์ของเล่นของนายกฯ เจนวายจึงเป็นการล้างผลาญงบประมาณของประเทศโดยแท้ ข้าราชการก็คอยชงตัวเลขและทำงานไปตามคำสั่ง จะโทษข้าราชการก็ไม่ได้ ใครๆ ย่อมห่วงเก้าอี้ตัวเอง

อีเวนต์เช่นนี้กับการละลายเงินงบประมาณโดยอ้างซอฟต์พาวเวอร์แบบมั่วๆ ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจนานัปการนั้นนับเป็นเคราะห์กรรมของประเทศ โจทย์ใหญ่ที่วิกฤติยิ่งคือการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมครั้งใหญ่ไม่เคยมีใครพูดถึงว่าจะทำกันอย่างไร วิกฤตการส่งออกและการจ้างงานที่รอเวลาปะทุจะทำอะไรกันจริงจังขนาดไหน เงินที่เตรียมไว้จะเพียงพอไหม จะช่วยอุตสาหกรรมได้อย่างทันท่วงทีไหม จะหาตลาดใหม่ๆ กันอย่างไร 

การรวมกลุ่มประเทศพันธมิตรเพื่อจะลดทอนผลกระทบจากภาษีของสหรัฐจะออกมาในรูปไหน ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายกับทุกเรื่องจะทำอย่างไร เหล่านี้ประชาชนรอคำตอบอยู่แต่รัฐบาลตอบกลับมาด้วยทูมอร์โรว์แลนด์

ถามว่าหลังจาก 5 ปี ทูมอร์โรว์แลนด์จะเป็นอย่างไร ตอบได้ว่าก็ยังเป็นทรูมอร์โรว์แลนด์ของคนอื่นที่ไม่มีอะไรให้ใครย้อนนึกถึงประเทศไทยอีก งบประมาณก็ละลายกันไป ถามว่านายกฯ และรัฐบาลจะฉลาดขึ้นเมื่อไรก็ได้แต่หวังว่าจะทูมอร์โรว์