“เที่ยวนครสวรรค์” ครั้งหนึ่งในชีวิต...ได้พิชิตเขาหน่อ

“เที่ยวนครสวรรค์” ครั้งหนึ่งในชีวิต...ได้พิชิตเขาหน่อ

“เที่ยวนครสวรรค์” ครั้งหนึ่งในชีวิต ได้พิชิตเขาหน่อ เตรียมความพร้อม รองเท้าผ้าใบ หมวก เสื้อแขนยาว น้ำดื่มขวดเล็ก เป้เล็กๆใส่ของใช้จำเป็น บันไดชันมาก ทว่าวิวด้านบนสวยคุ้มค่าเหนื่อย มี “รอยพระพุทธบาท” บนยอดเขาให้สักการะอีกด้วย

เที่ยวนครสวรรค์ หลายคนก็คงค้างคาใจเหมือนกันแน่ๆ   ที่เมื่อเรานั่งรถมาตามทางสายเอเชีย ออกจากนครสวรรค์มุ่งหน้าสู่กำแพงเพชร 

ก่อนถึงกำแพงเพชรราว 80-90 กิโลเมตร   ที่จะเห็นภูเขาหินปูน ทอดตัวยาวขนานไปกันกับถนนหมายเลข 1

และอย่างที่ผมเคยให้นิยามภูเขาหินปูนไปแล้วว่าเป็นภูเขาที่ไร้รูปไร้รอยตายตัว  รูปร่างผันแปรไปตามสภาพแวดล้อม 

แต่ไม่ว่าจะรูปทรงแบบใด เขาหินปูน ก็จะสวยงาม ชวนให้คนที่ได้พบเห็น จินตนาการไปต่างนาๆ เขาหน่อ-เขาแก้ว แห่งนครสวรรค์นี่ก็เช่นเดียวกัน

ผมว่าร้อยทั้งร้อย ใครที่นั่งรถผ่านช่วง เขาหน่อ-เขาแก้ว นี้ ต้องหันไปมองเป็นแน่  เพราะนอกจากจะสะดุดตาด้วยรูปทรงของภูเขาแล้ว 

ไม่ว่าเราจะผ่านภูเขาหินปูนแสนสวยนี้ไปในช่วงเวลาใดก็ตาม ก็จะเห็นสภาพโดยรอบ เขียวขจีไปด้วยต้นข้าวเสมอ  เพราะชาวบ้านเขาทำนากันแทบตลอดทั้งปี

เก็บเกี่ยวแล้วลงมือทำต่อ เป็นแบบนี้แทบตลอดเวลา สีเทาหม่นๆของภูเขาหินปูน ที่รายล้อมด้วยสีเขียวของต้นข้าว จึงสะดุดตาใครต่อใคร 

จนมาช่วงหลังๆ ที่มีการปรับเปลี่ยนนาข้าว ไปปลูกยางพาราบ้างนั่นเอง จึงพูดไม่ได้แล้วว่ารอบเขาหน่อ-เขาแก้ว มีแต่นา    

มาช่วงหลังๆ   เห็นภาพจากนักเดินทางหลายๆคนนำภาพบนยอด เขาหน่อ มาอวด   ด้วยความที่ไม่อยากให้ท่านผู้อ่านค้างคาใจ

ผมเลยอาสาไปปีนยอดเขาหน่อ เพื่อนำเรื่องราวมาบอกเล่าหรือใครจะตามรอยมา เที่ยวนครสวรรค์ ก็ได้

เมื่อท่านผู้อ่านมุ่งหน้าขึ้นเหนือ เขาหน่อ-เขาแก้ว จะอยู่ทางขวามือ  เมื่อเห็นป้ายทางหลวงบอกทางเข้าเขาหน่อ-เขาแก้ว ก็ให้เลยไปเพื่อจะกลับรถ 

เมื่อท่านผู้อ่านเลี้ยวรถเข้าไปในซอยที่ปากทางเขียนเขาหน่อ-เขาแก้วแล้ว ก็ขับตรงไปเรื่อยๆ  ช่วงตรงกลางจะเป็นช่วงรอยต่อของภูเขาสองลูก

เขาหน่อและเขาแก้ว มี รูปปั้นลิงยักษ์ อุ้มลูกและถือกล้วย ด้านหลังลิงยักษ์ จะเห็นหน้าผาของ เขาหินปูน ฝั่งเขาหน่อที่มีร่องรอยเป็นริ้วๆในแนวตรง 

ซึ่งเกิดจากน้ำที่เป็นผู้กระทำ และหินบนยอดเขาหน่อ- เขาแก้ว ก็เป็นแบบนี้แทบทั้งหมด

ทางขึ้นจะเลย รูปปั้นลิงยักษ์ เข้าไปจนเกือบถึงหน้าวัดเขาหน่อ (ส่วนเขาแก้วยังไม่มีทางขึ้น)  ท่านผู้อ่านจะเห็นลิงมากมายบนถนน

รวมทั้งตู้ขายอาหารลิงด้วย  ใช่แล้วครับ ตรงนี้เขาให้เป็นที่ ให้อาหารลิง ได้ ส่วนบริเวณอื่นๆ จะมีป้ายห้ามให้อาหารลิงติดไว้ตลอดทาง   

ในแต่ละวันก็จะมีคนใจบุญ นำอาหารมาบ้าง หรือมาซื้อ แล้วให้ลิงกิน ลิงในย่านนี้จึงเยอะมาก   เยอะจน ท่านผู้อ่านไม่ควรจอดรถทิ้งไว้

แล้วเดินขึ้นเขาเด็ดขาด ลงมารถเยินแน่  ฝากรถไว้กับคนขายอาหารลิงก็ได้ครับ อุดหนุนเขาหน่อยก็พอ  ดีกว่ารถเราถูกรื้อจนพังพินาศ

“เที่ยวนครสวรรค์” ครั้งหนึ่งในชีวิต...ได้พิชิตเขาหน่อ มณฑปที่คลุมรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาหน่อ

ควรใส่รองเท้าผ้าใบ  เพราะหินข้างบนค่อนข้างคม  ถ้ากลัวร้อนก็เตรียมหมวก เตรียมเสื้อแขนยาวไปด้วย  และที่สำคัญ

อย่าลืมน้ำดื่มขวดเล็กๆ  เป้ใบเล็กๆใส่ของกระจุกกระจิก และเพื่อให้มือไม่ต้องถือของ เดี๋ยวช่วงบันไดเหล็กต้องใช้มือช่วยในการขึ้น  

เมื่อพร้อมแล้วก็เดินขึ้นไปตามทางเลยครับ

“เที่ยวนครสวรรค์” ครั้งหนึ่งในชีวิต...ได้พิชิตเขาหน่อ ผลงานของน้ำที่ทำต่อหินปูน

เขาหน่อ ก็จะเป็นฟอร์มภูเขาที่มีการพังทลาย   คือจะมีไหล่เขาที่เกิดจากการพังทลายของส่วนยอดๆ ในเวลากี่แสนกี่ล้านปีก็ไม่รู้และก็ผุพังมาต่อเนื่อง 

ส่วนที่ผุพังนี้จะค่อยๆลาดเอียงลงมา  ส่วนที่ลาดเอียงนี้จะมีต้นไม้ขึ้นได้  และส่วนที่เป็นยอดเขา ที่เป็นหินล้วนๆ

“เที่ยวนครสวรรค์” ครั้งหนึ่งในชีวิต...ได้พิชิตเขาหน่อ สารพันลิง 

ช่วงแรกทางเดินจะเป็นบันไดปูน มีราวจับ ตามพื้นอาจจะดูสกปรก  เพราะมีกลิ่นทั้งอึและฉี่ของลิง เพราะมีลิงเยอะแยะ

อาศัยในช่วงที่ยังมีต้นไม้  (ส่วนบนยอดเขาจริงๆไม่มีลิงอยู่เพราะไม่มีทั้งน้ำเละอาหาร)  บางทีเราจะเห็นขยะตามข้างทาง ผลงานของลิงทั้งนั้นละครับ

“เที่ยวนครสวรรค์” ครั้งหนึ่งในชีวิต...ได้พิชิตเขาหน่อ ทางชันของบันไดปูน

บันไดปูนจะตัดตรงดิ่งขึ้นยอดเขา เห็นก็อย่าเพิ่งท้อ ค่อยๆเดินไปทีละขั้นๆ เหนื่อยก็พัก   ช่วงนี้จะมีร่มเงาไม้ตลอดทาง จนขึ้นไปสุดไหล่ทางลาด  

จะเหลือแต่ยอดหินที่โด่เด่  ทีนี้ต้นไม้จะน้อย และบันไดทางขึ้นจะเปลี่ยนจากบันไดปูน เป็นบันไดเหล็ก เป็นเหล็กท่อนใหญ่ๆ เอามาต่อ

เป็นบันได แต่ละขั้นจะห่างกันเกือบๆ 2 ฟุต  ที่สำคัญ บันไดจะตั้งชันมาก  ชันเกือบ 90 องศา กันเลยทีเดียว จะมีบันไดเหล็ก ชันๆแบบนี้อยู่ราว 5 ช่วง 

“เที่ยวนครสวรรค์” ครั้งหนึ่งในชีวิต...ได้พิชิตเขาหน่อ ประเมินกันเอาเลยว่าไหวมั้ย

แต่ละช่วงยาวราว 10 เมตร  และมีช่วงสั้นๆ  4 –5 เมตร ราว 4 ช่วง   เล่นเอาขาสั่นเลยครับ เพราะบันไดชันมาก และแต่ละขั้นก็ห่างกัน 

แต่เมื่อขึ้นไปแล้วก็ต้องเดินหน้าอย่างเดียว  ห้ามเหยียบบันไดพลาด  เพราะข้างล่างจะเป็นหินที่แหลมคมทั้งนั้น 

“เที่ยวนครสวรรค์” ครั้งหนึ่งในชีวิต...ได้พิชิตเขาหน่อ ชันยิ่งกว่าเมื่อเจอบันไดเหล็ก 

โชคดีที่เขาทำราวเหล็กไว้ข้างๆ ให้ยึดเกาะได้ตลอดทาง  (นี่แหละที่ผมบอกว่ามืออย่าถือของ) แต่ถึงกระนั้นก็ขาสั่นพั่บๆ

เมื่อขึ้นไปถึงยอด จะมีทางเดินและทางไต่ต่อไปยังยอดสุด  และเมื่อขึ้นไปถึงยอดแล้ว บอกได้คำเดียวว่าทิวทัศน์สุดยอดของความสวยกันทีเดียว

“เที่ยวนครสวรรค์” ครั้งหนึ่งในชีวิต...ได้พิชิตเขาหน่อ ข้างบนยอดเขาหน่อมีที่ราบนิดเดียว เป็นที่ตั้งของเสาธงชาติ  มีระฆังแขวนเรียงราย   มีอุโมงค์ที่ทำจากศิลาแลง ปากอุโมงค์ตัน มีพระพุทธรูปประดิษฐาน 3 องค์ 

ใกล้กันเป็นคล้ายกูบสูงราวเมตรเศษ สร้างจากปูน ทรงสี่เหลี่ยม ยอดแหลม มีทางเข้าเป็นช่องเล็กๆ 4 ด้าน  มี รอยพระพุทธบาท อยู่ภายใน

“เที่ยวนครสวรรค์” ครั้งหนึ่งในชีวิต...ได้พิชิตเขาหน่อ และมีต้นลั่นทมที่กำลังออกดอกเลย สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้โดยรอบ ส่วนใหญ่จะเป็นทุ่งนาอย่างที่ได้บอกไป แต่โดยรวมแล้ว

วิวสวยมาก  สวยคุ้มกับการที่ได้ดั้นด้นขึ้นมาจนถึงจะมีทางเดินไปทางหัวเขาทางด้านทิศเหนือ  ให้ได้ยืนบนหินคม ถ่ายรูปเพื่อยืนยันว่าได้ขึ้นมาพิชิตยอดเขาหน่อ 

“เที่ยวนครสวรรค์” ครั้งหนึ่งในชีวิต...ได้พิชิตเขาหน่อ ได้มาสักการะรอยพระพุทธบาทบนยอด เขาหน่อ แล้ว ความงามนั้นคงไม่ต้องบรรยายมาก ดูเอาจากรูปภาพก็แล้วกัน แต่บอกเลยว่าคุ้มกับทางขึ้นที่หวาดเสียวแบบนี้

“เที่ยวนครสวรรค์” ครั้งหนึ่งในชีวิต...ได้พิชิตเขาหน่อ ยอดเขาหน่อ

ของดีที่ต้องแลกมาด้วยความยากลำบากแบบนี้   เมื่อขึ้นไปได้ จึงจะเห็นคุณค่าของสถานที่   ที่บางที อาจจะแค่ครั้งเดียวสำหรับที่นี่

ก็ที่นี่แหละ...เขาหน่อ นครสวรรค์