‘สายมู’ ห้ามพลาด บวงสรวง ‘องค์ช้างเอราวัณ’ เสริมดวงท้ายปี เสาร์ 17 ธ.ค.นี้

เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี เมืองโบราณ จึงได้จัดงานพิธีบวงสรวงองค์อินทร์ องค์ช้างเอราวัณ และมหาเทพศักดิ์สิทธิ์ ครั้งยิ่งใหญ่ ณ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ วันเสาร์ ที่ 17 ธ.ค.นี้

องค์ช้างเอราวัณ หรือ องค์ช้างสามเศียร จังหวัดสมุทรปราการ กำลังจะมีงานใหญ่ เนื่องในโอกาส เมืองโบราณ ครบรอบ 60 ปี

มีการจัดพิธีบวงสรวงองค์อินทร์ องค์ช้างเอราวัณ และมหาเทพศักดิ์สิทธิ์ โดย พระอาจารย์เทพนรินทร์ ชินรังสี เพื่อสักการะองค์เทพ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ บูชาองค์ช้างเอราวัณ และเสริมดวงชะตา รับปีใหม่

ในวันเสาร์ ที่ 17 ธันวาคม 2565

เวลา 19:00 น. ถึง 01:00 (เริ่มพิธีตอน 3 ทุ่ม)

ผู้เข้าร่วมงานควรแต่งกายด้วยเสื้อสีขาว หรือ สีอ่อน

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ (The Erawan Museum) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสมุทรปราการ ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท บริเวณที่ตัดกับถนนกาญจนาภิเษก ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ

‘สายมู’ ห้ามพลาด บวงสรวง ‘องค์ช้างเอราวัณ’ เสริมดวงท้ายปี เสาร์ 17 ธ.ค.นี้ Cr. พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ สมุทรปราการ

สร้างขึ้นจากความคิดและจินตนาการของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ นักธุรกิจเจ้าของบริษัทวิริยะประกันภัย ที่ต้องการจัดเก็บโบราณวัตถุที่มีค่าไว้เพื่อความปลอดภัยและความเหมาะสม

ช้างเอราวัณ สามเศียร ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะของพระอินทร์ แต่เป็นช้างจักรวาลอิสระ เป็นอาคารศักดิ์สิทธิ์ บรรจุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมือง

คุณเล็กมอบหมายให้คุณพากเพียร วิริยะพันธุ์ บุตรชายคนโต หาช่างมาดำเนินการสร้าง ทำพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2537 เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2537

ออกแบบให้ช้างเอราวัณยืนอยู่บนตัวอาคาร ความสูงจากพื้นดินถึงหัวช้าง 43.60 เมตร ตัวช้างกว้าง 12 เมตร ยาว 39 เมตร สูง 29 เมตร น้ำหนักลำตัว 150 ตัน น้ำหนักเศียร 100 ตัน รวมแล้ว 250 ตัน

โครงสร้างภายในเป็นเหล็ก ผิวเป็นแผ่นทองแดงหุ้มปิด เป็นประติมากรรมลอยตัวรูปช้างด้วยวิธีการเคาะขึ้นรูปด้วยมือ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เมื่ออาคารช้างสามเศียรเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ผู้คนที่พบเห็นต่างก็มากราบไหว้บูชา จนกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

คุณเล็กและคุณพากเพียร วิริยะพันธุ์ ได้สิ้นไปก่อนอาคารจะแล้วเสร็จ ปัจจุบันลูกหลานดำเนินการแทน ให้เป็นสถานที่จัดงานประเพณีทางวัฒนธรรมที่ดีงาม

วัตถุประสงค์ของพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ

1.เพื่อสืบสานงานช่างศิลป์ไทย เผยแพร่ความรู้มรดกวัฒนธรรมของชาติแก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป

2.เพื่อเป็นสถานที่เก็บรักษาพระพุทธรูปและศิลปวัตถุ ให้มรดกทางวัฒนธรรมได้รับการดูแลที่เหมาะสม ปลอดภัย ไม่ให้ออกไปนอกประเทศ

3.เพื่อสร้างสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ตามคติโลกทัศน์ของคนตะวันออก ชั้นล่างดั่งนครบาดาล โถงอาคารดุจเขาพระสุเมรุ พื้นที่ตัวช้างเอราวัณดั่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน

ชั้นบาดาล ชั้นล่างสุด จัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุและนิทรรศการ ความเป็นมา ชีวิตและผลงานของคุณเล็กและคุณพากเพียร วิริยะพันธุ์ จัดแสดงเครื่องเรือนโบราณ, เครื่องถ้วยจีนและไทย

ชั้นโลกมนุษย์ โถงชั้นบน ทรงโดม ประดุจเขาพระสุเมรุ จัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุ แสดงงานฝีมือช่างศิลปะตะวันออกและตะวันตก ส่วนแรกเป็นงานปูนปั้นฝีมือช่างเพชรบุรี นำถ้วยเบญจรงค์มาประดับ

ส่วนที่สอง งานสลักดุนบนแผ่นดีบุก หุ้มเสา 4 ต้น บนเพดานเป็นแผนที่โลกและจักรราศี ประดับกระจกสี (stained glass) ฝีมือของ Mr.Jacob Schwarzkopf ศิลปินชาวเยอรมัน