"ใจบัว ฮิดดิง" เปิดใจคดี ตร. ทำอนาจาร ยันตัดสัมพันธ์เพื่อนคนสนิท 

"ใจบัว ฮิดดิง" เปิดใจคดี ตร. ทำอนาจาร ยันตัดสัมพันธ์เพื่อนคนสนิท 

ดาราสาว "ใจบัว ฮิดดิง" เปิดใจ หลังถูกตำรวจ "พ.ต.ต." ระดับ สว. อนาจาร ยันตัดสัมพันธ์เพื่อนคนสนิทหลังชวนไปที่เกิดเหตุ เชื่ออาจมีส่วนรู้เห็นด้วย ส่วนตร.ผู้ก่อเหตุ ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยข้อเท็จจริงแล้ว ด้านดาราสาวเตรียมเข้าให้ปากคำตร.เอาเรื่องถึงที่สุด

วันนี้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมด้วยนางสาว ใจบัว ฮิดดิง นักแสดงสาว แถลงข่าวเปิดใจกรณีถูกนายตำรวจกระทำอนาจาร

นางสาวใจบัว เปิดเผยว่า คืนวันเกิดเหตุวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.00 น. ตนและเพื่อนประมาณ 5 คนไปงานวันเกิดรุ่นพี่ที่ร้านหมูกระทะแถวนวลจันทร์ จากนั้นจะไปกินข้าวกันต่อที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่ระหว่างเดินทาง เพื่อนชายคนสนิทที่คบกันมานาน 10 ปี กลับเปลี่ยนแผน ชักชวนให้ไปสังสรรค์ที่บ้านรุ่นพี่คนหนึ่งแถวคู้บอน

เมื่อไปถึงบ้านเพื่อนเวลาประมาณตี 2 พบเพื่อนเจ้าของบ้านและนายตำรวจ ซึ่งก็มีการทักทายกันและนั่งดื่มกันปกติ โดยนายตำรวจคนดังกล่าวนั่งอยู่ตรงข้ามตน ซึ่งระหว่างที่นั่งดื่มกินตำรวจรายดังกล่าวไม่มีทีท่าว่าจะลวนลาม หรือพูดหยอกล้อในลักษณะเชิงชู้ชาว

จนกระทั่งเวลาประมาณตี 4 ตนรู้สึกง่วง จึงจะขอกลับบ้าน แต่เพื่อนชายคนสนิท คนที่ชักชวนมาที่บ้านหลังนี้ กลับบอกว่าให้รอกลับพร้อมกันโดยให้ตนไปนั่งรอที่โซฟาก่อนจะเผลอหลับไป ยอมรับว่าดื่มแอลกอฮอล์ แต่ยืนยันว่ามีสติทุกอย่าง

จากนั้นเวลาประมาณ 9 โมงเช้า ของวันที่ 2 สิงหาคม ตอนที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพบว่ามีตำรวจมานอนข้างๆ และใช้มือจับที่หน้าอก ตนรู้สึกตกใจ จึงใช้มือสะบัดออกและโวยวายเล็กน้อย จนตำรวจที่ก่อเหตุรีบลุกเดินไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว ซึ่งที่โต๊ะกินข้าวจะมีเจ้าของบ้านและเพื่อนชายคนสนิทนั่งอยู่ รวมถึงเพื่อนอีกคนที่มากับตนนอนอยู่ใกล้ๆ กับโซฟาตัวดังกล่าว ตนจึงทักแชทไปหาเพื่อนชายคนสนิทเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เพื่อนชายคนดังกล่าวไม่กล้าเข้ามาช่วย แต่ให้เธอส่งสัญญาณตะโกนเสียงว่าอยากกลับบ้าน ก่อนจะเดินทางกลับ

“หลังเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะแจ้งความ รอให้คนก่อเหตุเข้ามาขอโทษ แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธและไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆ รวมทั้งครอบครัวตัวเองโดยเฉพาะคุณพ่อ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ มองว่าเรื่องนี้ปล่อยเงียบไม่ได้ เพราะเป็นผู้เสียหาย เป็นผู้ถูกกระทำ ไม่ควรโทษตัวเอง ไม่ควรอับอาย เพราะคนที่อายควรจะเป็นคนก่อเหตุมากกว่า จึงเดินทางมาปรึกษาทนายตั้มและไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.คันนายาว ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด”

นางสาวใจบัว ยังบอกอีกว่า ช่วงแรกหลังเกิดเหตุรู้สึกโทษตัวเองมาตลอดว่าทำไมตอนนั้นถึงไม่ตัดสินใจที่จะกลับบ้าน ทำไมถึงไว้ใจเพื่อนมากเกินไป ซึ่งคนที่อยู่ในบ้านเป็นตำรวจ ไม่คิดว่าตำรวจจะเป็นคนก่อเหตุเอง ซึ่งตนสงสัยเพื่อนชายคนสนิทอาจจะรู้เห็นกับการกระทำของนายตำรวจคนดังกล่าวหรือไม่ หลังจากนี้คงต้องจบความสัมพันธ์กับเพื่อนคนนี้

“ฝากบอกและเตือนภัยกับคนอื่นๆ ที่อาจจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับตัวเอง ไม่ว่าใครหรือเพศไหนทุกคนมีสิทธิ์รักษาสิทธิในร่างกายตัวเอง และไม่อยากให้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ความรู้สึกตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นเล็กน้อย แต่หลังเกิดเหตุต้องไปพบจิตแพทย์ ”

ด้านทนายตั้ม กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็น พันตำรวจตรี สน.ย่านบางพลัด ในข้อหากระทำอนาจารต่อธารกำนัน ซึ่งทางผู้กำกับการ สน.คันนายาว ได้เชิญตัวผู้อยู่ในเหตุการณ์มาให้ปากคำ แต่กลุ่มที่อยู่ในที่เกิดเหตุยังไม่ได้เข้ามาให้ปากคำใดๆ ทั้งเพื่อนชายคนสนิทของใจบัว (คนที่เปลี่ยนแพลนชวนไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ) และเจ้าของบ้าน มีเพียงเพื่อนที่นอนอยู่ข้างๆ มาให้ปากคำเพียงคนเดียว

“ตำรวจได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ถ้าตำรวจออกหมายเรียกครบ 2 ครั้งแล้วยังไม่มาให้ปากคำ ก็จะออกหมายจับต่อไป ขณะนี้ทาง บก.น.7 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยตำรวจที่ก่อเหตุ หลังจากนี้จะให้นางสาวใจบัว เข้าไปให้ปากคำด้วย”