ปฏิบัติการพลิกโฉมทุกอีเวนต์ให้เป็น 'Organizing Healthy Events' สุขภาพดีมีได้ทุกงาน

ปฏิบัติการพลิกโฉมทุกอีเวนต์ให้เป็น 'Organizing Healthy Events' สุขภาพดีมีได้ทุกงาน

"Organizing Healthy Events: สุขภาพดีมีได้ทุกงาน" ปฏิบัติการพลิกโฉม ทุก “อีเวนต์” ให้เป็น "งานประชุมที่ส่งเสริมสุขภาพ"

เพราะชีวิตคนทำงานในเมืองใหญ่ แต่ละวันของเราเริ่มต้นด้วยการนั่งในรถ ถึงที่ทำงานก็ยังนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ และยัง "นั่ง" เมื่อต้องเข้าสู่ ห้องประชุม สัมมนาที่กินเวลาต่อเนื่องหลายชั่วโมงโดยมีรางวัลบั่นทอนสุขภาพตบท้ายเป็นอาหารเบรกยามบ่ายที่อุดมไปด้วยน้ำตาลและไขมัน

ปฏิบัติการพลิกโฉมทุกอีเวนต์ให้เป็น 'Organizing Healthy Events' สุขภาพดีมีได้ทุกงาน

พฤติกรรม "นั่ง 15 ชั่วโมงต่อวัน" ได้กลายเป็นความเคยชินของคนทำงานส่วนใหญ่ในประเทศไทย เช่นเดียวกับการจัดงานประเภท "อีเวนต์" หรือการจัดกิจกรรมในห้องประชุม ซึ่งมักถูกออกแบบมาให้ผู้คนต้องนั่งนิ่งๆ และมีอาหารที่ไม่เอื้อต่อสุขภาพวางอยู่ตรงหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสุขภาวะที่ดีของเราจึงลดลงไปทุกวันแม้เพียงแค่การทำงาน

เพื่อกระตุ้นให้ตระหนักถึงวิกฤตสุขภาพที่อาจมองข้าม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ผนึกกำลังกับเครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน. หรือ TCEB), และสมาคมวิชาชีพหลากหลายแขนง ร่วมกันจัดงาน “Organizing Healthy Events: สุขภาพดีมีได้ทุกงาน”

เป้าหมายสำคัญคือการปฏิวัติวงการ MICE (Meeting, Incentive Travel, Convention, Exhibition) เปลี่ยนจากผู้จัดงานที่เน้นประสิทธิภาพทางธุรกิจ สู่การเป็นผู้สร้างสรรค์ที่มอบ "สุขภาพ" กลับไปเป็นของแถมให้แก่ผู้เข้าร่วม และนำพาวงการนี้สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

เจาะอินไซต์คนไทย เมื่อชีวิตนี้มีแต่ "นั่ง"

เริ่มที่ ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุน สสส. ได้เปิดเผยตัวเลขจากผลสำรวจการมีกิจกรรมทางกายในปี 2565 โดยศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าตกใจว่า คนไทยมีพฤติกรรม "เนือยนิ่งสูงถึง 15 ชั่วโมง 5 นาทีต่อวัน" โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงาน นั่นหมายความว่าชีวิตประมาณ 1 ใน 3 ของเราในแต่ละวันกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง และกำลังนำไปสู่ภาวะการเจ็บป่วยด้วยกลุ่มโรคไม่ติดต่อ หรือ NCDs ที่พุ่งสูงขึ้น
"พฤติกรรมเนือยนิ่งของประชากรไทยเพิ่มขึ้นสูงถึง 15 ชั่วโมง 5 นาทีต่อวัน ซึ่งเป็นสถิติที่สูงมากและเป็นปัจจัยเสี่ยงโดยตรงที่นำมาสู่ภาวะเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)"

ปฏิบัติการพลิกโฉมทุกอีเวนต์ให้เป็น 'Organizing Healthy Events' สุขภาพดีมีได้ทุกงาน

แม้ว่าข้อมูลล่าสุดในปี 2567 จะแสดงให้เห็นว่าระดับกิจกรรมทางกายของประชากรวัยทำงานเพิ่มขึ้นเป็น 77.7% ซึ่งสูงขึ้นจากปี 2565 ที่ 65.8% อย่างมีนัยสำคัญ แต่ความท้าทายยังคงอยู่ เนื่องจากสภาพแวดล้อมในการทำงานและการจัดกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการประชุมสัมมนาที่กินเวลานานต่อเนื่อง ยังไม่เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกายอย่างแท้จริง

ดร.นพ.ไพโรจน์ เน้นย้ำว่า การต่อยอดจากการส่งเสริมสุขภาพภายในองค์กรภาครัฐและเอกชน สู่การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการจัดงานรูปแบบต่างๆ สามารถจัดงานในรูปแบบที่ดีต่อสุขภาพได้นั้น เป็นมาตรการที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อตอบโจทย์การสร้างเสริมสุขภาพทั้งในด้านผู้จัดงานเอง และผู้เข้าร่วมงานที่ต้องใช้เวลาในอีเวนต์ต่างๆ

สุขภาพที่ถูกคุกคามในห้องประชุม

หลายคนอาจไม่ทันสังเกตว่า สุขภาพของเรากำลังถูกคุกคามอย่างช้าๆ ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่เต็มไปด้วยเก้าอี้และอาหารเบรกยามบ่าย

ศ.เกียรติคุณ พญ.วรรณี นิธิยานันท์ ประธานเครือข่ายคนไทยไร้พุง ชี้ให้เห็นว่า การเลือกหยิบเบเกอรี่หรือกาแฟที่มีน้ำตาลสูง ไม่ได้เกิดจากความไม่รู้ว่าอะไรดีกว่า แต่เป็นเพราะสภาพแวดล้อมได้ “เซตค่าเริ่มต้น” ให้เราต้องทำพฤติกรรมเหล่านั้น 

พร้อมกล่าวถึงความสำคัญของการสานพลังในครั้งนี้ว่า การส่งเสริมการจัดประชุมที่ดีต่อสุขภาพ เป็นการทำงานที่ท้าทาย แต่เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมระดับการมีกิจกรรมทางกาย และปรับพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนวัยทำงาน

"สิ่งสำคัญที่สุดคือการสานพลังภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็น สสส. สสปน. สมาคมเครือข่ายโรคไม่ติดต่อแห่งประเทศไทย สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย และสมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทย การร่วมมือกันนี้จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการจัดงานสามารถขยายผลจากการจัดงานอย่างยั่งยืน สู่การจัดงานที่คำนึงถึงการสร้างเสริมสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม" ศ.เกียรติคุณ พญ.วรรณี กล่าว

ปฏิบัติการพลิกโฉมทุกอีเวนต์ให้เป็น 'Organizing Healthy Events' สุขภาพดีมีได้ทุกงาน

ในขณะเดียวกันก็จะต้องให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมงานให้เห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพควบคู่กันไป เพราะบ่อยครั้ง สภาพแวดล้อมในการจัดงานที่ใกล้ตัวเราสุดก็อาจจะไม่ค่อยเอื้อเท่าไหร่นักโครงการนี้จึงได้พัฒนา กรอบแนวคิดและแนวปฏิบัติในเชิงรูปธรรมขึ้นเพื่อทำให้การจัดงานหนึ่งงานสามารถเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้จริง ทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้ "เห็นของจริงและปฏิบัติ" พฤติกรรมสุขภาพที่ดีในระหว่างอีเวนต์ ซึ่งจะถูกนำไปใช้ต่อในชีวิตประจำวันในมิติอื่นร่วมด้วย

เพื่อที่ต่อไปนี้ "ห้องประชุม" จะไม่ใช่แค่สถานที่ แต่คือ 'ตัวกำหนดพฤติกรรม' สุขภาพของเราได้ และต่อไป 'ประชุมแบบแอคทีฟ' ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือทางรอดสุขภาพคนทำงานยุคนี้ 

เปิดตัว "คู่มือ Healthy Events" ปฏิวัติ 3 มิติหลัก

รศ.นพ.เพชร รอดอารีย์ รองประธานเครือข่ายคนไทยไร้พุงฯ ในฐานะหัวหน้าโครงการฯ ได้เปิดเผยแนวปฏิบัติที่ครอบคลุม 3 มิติหลัก ซึ่งจะถูกรวบรวมไว้ใน "คู่มือ-หลักสูตร-เครื่องมือ" เพื่อเสริมความรู้และเทคนิคให้แก่ผู้ประกอบการอย่างครบวงจร โดยกล่าวว่า การทำให้ "Healthy Meeting" เกิดขึ้นจริงต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนในสามมิติหลัก ได้แก่

1. Food Experience Design เมื่อการควบคุมแคลอรี ไม่ใช่แค่ 'Plant-Based'  ซึ่งหัวใจของการประชุมที่ดีต่อสุขภาพคือการจัดการ "อาหาร" โดยต้องก้าวข้ามความเชื่อเดิมที่ว่าอาหารสุขภาพต้องไม่อร่อย แนวทางใหม่คือการออกแบบ "Food Experience" ที่สามารถควบคุมปริมาณแคลอรีได้ อย่างเช่น อาหารเบรกที่แนะนำให้มีแคลอรีไม่เกิน 200 กิโลแคลอรี 

2. Active Environment  การนั่งเป็นเวลานานคือผู้ร้ายตัวจริง การประชุมแบบ Healthy Meeting จึงส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางกายภาพในระหว่างงาน การมีสเปซ หรือพื้นที่ที่ผ่อนคลายมากขึ้น  โดยส่งเสริมแนวคิดที่ว่าห้องประชุมไม่ควรถูกจำกัดด้วยการจัดโต๊ะแบบ "Classroom" หรือ "Theater" เสมอไป แต่ควรมีทางเลือก เช่น "โต๊ะยืน" หรือการสร้างพื้นที่ "Camfi" (Comfortable Area) ให้ผู้เข้าร่วมได้เดินเหิน พูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้อย่างผ่อนคลาย 

รวมถึงในช่วงพัก ต้องมีการจัดกิจกรรมให้ผู้เข้าร่วมได้ "ยืดเส้นยืดสาย" หรือออกกำลังกายเบาๆ เพื่อกระตุ้นร่างกายและสมอง 

3. Sustainability & Healthy Organization คือการต่อยอดไปสู่การเป็น Healthy Organization เพื่อให้ผู้จัดงานเองก็มีสุขภาพที่ดี แน่นอนว่าการจัดงานอย่างยั่งยืนยังรวมถึงการลดขยะอาหาร และการคำนวณและชดเชย คาร์บอนฟุตพรินต์ ของการจัดงานทั้งหมด ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลกที่ใส่ใจ ESG ในปัจจุบัน

ปฏิบัติการพลิกโฉมทุกอีเวนต์ให้เป็น 'Organizing Healthy Events' สุขภาพดีมีได้ทุกงาน

สานพลัง MICE เปลี่ยน "อีเวนต์" ให้เป็น "ยิมสุขภาพ"

ในมุมมมองของ อรชร ว่องพรรณงาม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ สสปน. เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรู้จักที่จะออกแบบการนำเสนอประสบการณ์อาหารเพื่อสร้าง “Food Experience” ที่จูงใจ ด้วยการสร้างสรรค์ในแนวคิด Storytelling หรือเรื่องเล่า การใช้ผลิตภัณฑ์จากผักผลไม้เป็นของตกแต่งหรือของที่ระลึก หรือการใช้วัตถุดิบพื้นถิ่น ซึ่งไม่เพียงแต่ราคาไม่แพงและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ยังช่วยส่งเสริมความยั่งยืนของเกษตรกรไทยด้วย

ด้านผู้ประกอบการด้านสถานที่จัดงาน อย่าง กฤษณา จรรยาสกุลวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามอัลไลแอนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (ผู้บริหารพารากอน ฮอลล์ และ ไอคอนสยาม ฮอลล์) ยอมรับว่า ปัจจุบันเทรนด์สุขภาพเริ่มเข้ามามากขึ้น แต่ผู้ประกอบการและผู้จัดงานส่วนใหญ่ยังละเลย มุ่งเน้นเรื่องความอร่อยมากกว่าสนใจเรื่องแคลอรี

ความท้าทายที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้คือ “วิธีคิดกับพฤติกรรมของทุกฝ่าย” อย่างไรก็ตาม กฤษณาเชื่อว่าความยั่งยืนของการจัดงานไม่ได้เป็นเพียงแค่ต้นทุน แต่เป็นผลตอบแทนในรูปแบบที่ได้ทั้งในแง่ Return on Investment และทั้งในแง่ Return on Experience

การผลักดันให้การจัดอาหารเพื่อสุขภาพกลายเป็น “มาตรฐาน” ของสถานที่จัดงาน ไม่ใช่เพียงทางเลือก เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งล่าสุดทางพารากอนเอง ได้นำร่องติดป้ายบอกแคลอรีบนเมนูเบรก เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถตัดสินใจเลือกได้อย่างมีข้อมูล

พันเอกหญิง ดร.กรกต วีรเธียร นายกสมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทย ชี้ว่าการนำเสนออาหารสุขภาพในงานประชุมที่ "อร่อยและว้าว" จะทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยเน้นหลักการ

สำคัญ 5 องค์ประกอบในการปรับเมนูอาหาร คือ การ ลดรสหวาน รสมัน และรสเค็ม (โดยใช้วัตถุดิบธรรมชาติเข้ามาเสริมความหวานแทน) และการ เพิ่มไฟเบอร์ ด้วยการเพิ่มผัก และการ ลดแคลอรีส่วนเกิน ด้วยการลดขนาดของ Portion Size และเสริมด้วยผลไม้

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอเทคนิคเสริมอื่นๆ เช่น การทำ อาหารตา หรือการจัดตกแต่งอาหารให้สวยงามน่ารับประทาน การใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ที่รักษาสิ่งแวดล้อม และการปรับเปลี่ยนวิธีการเสิร์ฟ โดยแนะนำให้เปลี่ยนจากการเสิร์ฟแบบเป็นเซ็ตไปเป็นการ จัดมุมอาหารว่าง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานตักในปริมาณที่ต้องการ ซึ่งช่วยลดปัญหา Food Waste และสุดท้ายคือการเน้นย้ำถึงการใช้ วัตถุดิบพื้นถิ่นของไทย ในแต่ละภูมิภาคแทนวัตถุดิบนำเข้า ซึ่งเป็นการส่งเสริมความยั่งยืนของเกษตรกรไทย

สำหรับแคมเปญดังกล่าวนี้ยังได้เปิดรับโอกาสให้ผู้ประกอบการ MICE มืออาชีพ โรงแรม ศูนย์การประชุม และผู้ประกอบการอาหารที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมเป็นต้นแบบในการนำแนวปฏิบัตินี้ไปประยุกต์ใช้ โดยจะมีการอบรมเสริมความรู้และให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่อง

ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Email: [email protected] หรือโทรศัพท์ หมายเลข 081-933-4005 ปฏิบัติการพลิกโฉมทุกอีเวนต์ให้เป็น 'Organizing Healthy Events' สุขภาพดีมีได้ทุกงาน ปฏิบัติการพลิกโฉมทุกอีเวนต์ให้เป็น 'Organizing Healthy Events' สุขภาพดีมีได้ทุกงาน ปฏิบัติการพลิกโฉมทุกอีเวนต์ให้เป็น 'Organizing Healthy Events' สุขภาพดีมีได้ทุกงาน