พระราชกุศโลบายที่แฝงอยู่ใน ‘ฉลองพระองค์’ พระพันปีหลวง

‘พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ’ เปิดเข้าชมฟรี ขอเชิญพสกนิกรชื่นชมฉลองพระองค์ในพระพันปีหลวงที่มีทั้งพระปรีชาสามารถ และพระราชกุศโลบายแฝงอยู่ในนั้น
KEY
POINTS
- พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เปิดเข้าชมฟรี ให้พสกนิกรชาวไทยมีโอกาสชื่นชม 'ฉลองพระองค์' พระพันปีหลวงที่มีพระราชกุศโลบายอันแยบยลแฝงอยู่ในนั้น
- ทรงมีพระราชดำริให้สร้างสรรค์ "ชุดไทยพระราชนิยม" ขึ้นเพื่อเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติสำหรับสตรีไทย และใช้แสดงเอกลักษณ์ของชาติระหว่างการเสด็จฯ เยือนต่างประเทศ
- ทรงใช้พระราชกุศโลบายในการส่งเสริมผ้าไหมไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล โดยโปรดเกล้าฯ ให้นายปิแอร์ บัลแมง ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส ออกแบบฉลองพระองค์โดยใช้ผ้าไหมไทย
- ฉลองพระองค์ที่งดงามและเหมาะสมเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การเสด็จฯ เยือนสหรัฐอเมริกาและยุโรปในปี พ.ศ. 2503 ประสบความสำเร็จในการเจริญสัมพันธไมตรีและส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ
- พระปรีชาสามารถในการเลือกใช้ฉลองพระองค์ทำให้ทรงได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติให้เป็นหนึ่งในสตรีที่แต่งกายงดงามที่สุดในโลก
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เยือนสหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรป รวม 14 ประเทศ กับ 1 รัฐ ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน ถึง 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2503
ถือเป็นการเสด็จเยือนต่างประเทศครั้งสำคัญที่กินระยะเวลานานถึง 6 เดือน เพื่อทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ ส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทย อีกทั้งยังเป็นกุศโลบายประกาศตัวเป็นกลางในยุคที่ ‘สงครามเย็น’ กำลังครุกรุ่น ประเทศเพื่อนบ้านรอบข้างถูกระบอบคอมมิวนิสต์เข้ายึดครองเกือบหมด
การเสด็จพระราชดำเนินฯ ในครั้งนั้นประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง ทุกประเทศถวายการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงได้รับคำชื่นชมว่าทรงเป็นพระราชินีที่มีพระสิริโฉมงดงาม และได้รับการเฉลิมพระเกียรติให้ทรงเป็นหนึ่งในสุภาพสตรีที่แต่งกายงดงามที่สุดในโลกหลายครั้ง ในปี พ.ศ. 2503 พ.ศ. 2504 และ พ.ศ. 2507
มาจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2508 ได้มีการจารึกพระนามาภิไธยไว้ในหอแห่งเกียรติคุณ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในฐานะที่ทรงเป็น 'หนึ่งในสิบสองสุภาพสตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก''
ฉลองพระองค์ชุดราตรีขณะเสด็จทอดพระเนตรการแสดงดนตรี ณ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2503 (เครดิตภาพ : พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ)
สิ่งนี้เกิดจากพระปรีชาสามารถของพระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของฉลองพระองค์ที่จะทรงใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินไปหลายสถานที่ ต้องทรงพบพระประมุขและประมุขของประเทศต่าง ๆ รวมทั้งผู้มีชื่อเสียงของหลายประเทศ
หนังสือ ‘งามสมบรมราชินีนาถ’ ที่จัดทำขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้ข้อมูลว่า ในชั้นแรก พระองค์ทรงเชิญสตรีผู้มีหน้าที่ปฏิบัติงานในต่างประเทศ เช่น ภริยาเอกอัครราชทูตไทย และผู้มีประสบการณ์ในการเดินทางต่างประเทศมาแนะนำเรื่องการเตรียมฉลองพระองค์และเครื่องประดับให้เหมาะสมแก่ธรรมเนียมและโอกาส
โดยมีพระราชประสงค์ให้มีทั้งฉลองพระองค์แบบไทยเพื่อแสดงถึงเอกลักษณ์ของชาติไทย ซึ่งมีวัฒนธรรมของตนเองสืบมาหลายร้อยปีแล้ว รวมทั้งฉลองพระองค์แบบสากลตามธรรมเนียมปฏิบัติของแต่ละชาติ
แต่ทุกคนกราบบังคมทูลเป็นเสียงเดียวกันว่า การแต่งกายของภริยาทูตหรือผู้แทนประเทศที่เคยมีมา ไม่สามารถนำมาเป็นแบบอย่างสำหรับการแต่งพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถแห่งประเทศไทยได้ จึงต้องทรงเป็นผู้ตัดสินพระทัยเรื่องการเตรียมฉลองพระองค์ครั้งนี้ด้วยพระองค์เอง
พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงคำนึงว่าสตรีไทยยังไม่มีเครื่องแต่งกายประจำชาติที่เป็นแบบแผนดังเช่นชาติอื่น ๆ จึงมีพระราชเสาวนีย์ให้รวบรวมคณะผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และประเพณีไทยมาช่วยกันค้นคว้าเรื่องการแต่งกายแต่โบราณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉลองพระองค์ของพระมเหสีของรัชกาลก่อน ๆ ในสมัยรัตนโกสินทร์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการออกแบบฉลองพระองค์ชุดไทยให้สวยงามและคงเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมไว้
หลังจากที่มีพระราชวินิจฉัยเห็นชอบในแบบต่าง ๆ ที่คณะทำงานได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตัดเย็บเป็นฉลองพระองค์ชุดไทยที่จะทรงใช้ในระหว่างการเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ ‘ชุดไทยพระราชนิยม’ ซึ่งกลายเป็นต้นแบบชุดประจำชาติของสตรีไทยในปัจจุบัน
ชื่อของชุดไทยทั้ง 8 แบบ ได้แก่ ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยจักรี ชุดไทยดุสิต ชุดไทยศิวาลัย และชุดไทยจักรพรรดิ์ ตั้งตามชื่อพระที่นั่งหรือพระตำหนักต่างๆ
ฉลองพระองค์ชุดไทยขณะเสด็จเยือนพิพิธภัณฑ์เมโทรโปลิแตน นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2510 (เครดิต : พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จฯ)
สำหรับฉลองพระองค์แบบสากลนั้น บังเอิญ นายปิแอร์ บัลแมง ดีไซเนอร์ผู้มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสเดินทางมาเที่ยวกรุงเทพฯ ในระยะนั้นพอดี ช่างตัดเย็บฉลองพระองค์จึงกราบบังคมทูลแนะนำให้ทรงเชิญนายบัลแมงมาปรึกษาเรื่องนี้ และเขาก็ได้กลายมาเป็นผู้ดูแลการออกแบบตัดเย็บฉลองพระองค์แบบตะวันตกสืบมา
ฉลองพระองค์ที่นายบัลแมงออกแบบสำหรับการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาและยุโรปในครั้งนั้นงดงามและเหมาะสมยิ่ง สื่อมวลชนและชาวต่างประเทศสนใจและชื่นชมพระสิริโฉมของพระบรมราชชนนีพันปีหลวงเป็นอย่างมาก
หลังจากการเสด็จพระราชดำเนินนั้น พระพันปีหลวงยังทรงไว้วางพระราชหฤทัยให้นายบัลแมงเป็นผู้ดูแลฉลองพระองค์ต่อไป ภายหลังยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายบัลแมงตัดเย็บฉลองพระองค์ชุดไทยด้วย ทรงแนะนำนายบัลแมงเรื่องการใช้ผ้าไทย มีนายอีริก มอร์เทนเซน นักออกแบบชาวเดนมาร์ก ซึ่งเป็นนักออกแบบหลักของห้องเสื้อบัลแมงในขณะนั้นมาร่วมช่วยงาน
ฉลองพระองค์ชุดราตรี พ.ศ. 2503 ตัดเย็บจากผ้าไหมซาติน งานปักได้รับอิทธิพลจากลวดลายตกแต่งแบบที่นิยมในยุโรป คริสตศตวรรษที่ 18 ซึ่งนายบัลแมงชอบเป็นพิเศษ (เครดิต : พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จฯ)
พระราชกุศโลบายที่แฝงอยู่ใน 'ฉลองพระองค์'
การที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักออกแบบต่างชาติมาดูแลฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บจากผ้าไหมไทยนั้น ถือเป็นพระราชกุศโลบายในการเผยแพร่และส่งเสริมผ้าไทย ทำให้นักออกแบบผู้มีชื่อเสียงเหล่านั้นได้ประจักษ์ความงามที่มีเอกลักษณ์ของผ้าไทย และทำให้คนทั่วไปได้รู้จักและยอมรับผ้าที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทย ผ่านผลงานของนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก
“...เมื่อข้าพเจ้าพบนายบัลแมงครั้งแรกใน พ.ศ. 2502 ข้าพเจ้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อทราบว่าสุภาพบุรุษผู้นี้รักประเทศไทยและวัฒนธรรมไทย มิตรภาพของเราเริ่มต้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาช่วยให้คำแนะนำที่มีประโยชน์เสมอ และช่วยให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นในโลกตะวันตก ถือเป็นสหายสนิทคนหนึ่งของข้าพเจ้า…”
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พุทธศักราช 2528
พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เปิดให้เข้าชมฟรี
ข่าวดีคือ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สถานที่เก็บรวบรวมฉลองพระองค์อันทรงคุณค่าเหล่านี้ ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เปิดให้ประชาชนที่มาลงนามถวายความอาลัยและถวายสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เข้าชมพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ฟรี นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา
พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่ ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ริมกำแพงพระบรมมหาราชวังทางทิศเหนือ ระหว่างประตูวิเศษไชยศรี และประตูวิมานเทเวศร์
หมายเหตุ : ช่วงนี้พระบรมมหาราชวังเปิดเฉพาะสำหรับประชาชนที่เข้ามาถวายความอาลัยเท่านั้น โดยผู้ที่ถวายความอาลัยเรียบร้อยแล้ว สามารถแวะเข้ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ต่อได้เลย ส่วนคนทั่วไปที่ไม่ได้เข้ามาถวายความอาลัย ไม่สามารถเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ได้โดยตรงในช่วงนี้
บรรณานุกรม :
- หนังสือ 'งามสมบรมราชินีนาถ'
- พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ











