‘มือถือ’ เปลี่ยนชีวิต 'Real Case' ชีวิตจริง สร้าง ‘อาชีพ’

เรื่องราวชีวิตจริงของคนสามคน ที่เปลี่ยนไปเพราะ ‘มือถือ’ พร้อมบอกเล่าความเป็นมา เคล็ดลับ เทคนิค วิธีการ มุมมองความคิด ที่จะทำให้ประสบความเสร็จ
KEY
POINTS
- โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถสร้างอาชีพและสร้างรายได้ในยุคปัจจุบัน
- 3 กรณีศึกษาจริงของบุคคลหลากหลายวัยที่ใช้มือถือสร้างตัวตนและธุรกิจบนโลกออนไลน์จนประสบความสำเร็จ
- เคล็ดลับความสำเร็จคือการสร้างคอนเทนต์จากความชอบและประสบการณ์จริง การเข้าใจแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และความมุ่งมั่น
"โทรศัพท์มือถือที่ทุกคนมีอยู่ มีความสำคัญและสามารถเปลี่ยนโลกได้ ในตอนนี้มันไม่ได้เป็นเพียงแค่โทรศัพท์อย่างเดียว แต่มันเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง
ตั้งแต่นาฬิกาปลุก ธนาคาร กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ เครื่องแปลภาษา ฯลฯ
เราไม่สามารถออกจากบ้านได้โดยไม่มีโทรศัพท์ ถ้าลืมกระเป๋าสตางค์แต่เรามีมือถือ เราก็ยังออกจากบ้านได้ เพราะมือถือสามารถใช้จับจ่ายซื้อของได้"
ใจความสำคัญจากเวทีเสวนา หัวข้อ ภารกิจคิดเผื่อ Real case มือถือเปลี่ยนชีวิต ดังออกมาจากในงานเทศกาล Life Fest 40+ รู้ก่อน ดีกว่า พร้อม How to สู่ชีวิตที่เป็นอิสระ ที่จัดผ่านพ้นไปแล้ว
Cr. Kanok Shokjaratkul
หากย้อนไปในอดีตเราจะเห็นว่ามือถือมีการพัฒนาเปลี่ยนรุ่นและเทคโนโลยีไปอย่างมากมาย แต่จะมีเพียง 10 รุ่นเท่านั้นที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นเปลี่ยนโลก
1.Motorola DynaTAC 8000X (ค.ศ.1983) โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องแรกของโลก มีน้ำหนักต่ำกว่า 1 กิโลกรัม
2.Nokia 8110 (ค.ศ.1996) ปรากฎอยู่ในฉากของภาพยนตร์เรื่อง The Matrix
3.Nokia 3310 (ค.ศ. 2000) ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน มาพร้อมเกมงู
4.Motorola RAZR V3 (ค.ศ. 2004) เริ่มมีกล้อง มีความคมชัด 500,000 พิกเซล
5.Nokia N95 (ค.ศ. 2007) มีกล้อง 5 ล้านพิกเซล มี GPS มี WiFi มัลติมีเดียครบ ใช้ระบบปฏิบัติการ Symbian Phone
6. BlackBerry Bold 9000 (ค.ศ. 2008) เป็นยุคที่คนไม่ขอเบอร์โทรแต่ขอพิน BB
7.iPhone (ค.ศ. 2007) การเปิดตัวของ สตีฟ จ็อบส์ (Steve Job) ที่เปลี่ยนโลกด้วยการนำคีย์บอร์ดออกไปเหลือแต่จอเรียบ ๆ และเป็นระบบสัมผัส
8. HTC Dream (ค.ศ. 2008) มือถือ Android ตัวแรกของโลกได้กำเนิดขึ้น
9. Samsung Galaxy S (ค.ศ. 2010) ต้นกำเนิดของ Samsung Galaxy คู่แข่ง iPhone
10. iPhone 6s (ค.ศ. 2015) เป็น iPhone รุ่นแรกที่สามารถถ่ายวิดีโอความคมชัดระดับ 4K ได้
Cr. Kanok Shokjaratkul
- มีมือถือเครื่องเดียว ก็เปลี่ยนชีวิตได้!
ศิลา พีรวัฑฒึก เจ้าของช่อง TikTok พ่อมดติ๊กต่อก, TikTok Mentors Thailand กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นไม่เคยคิดเลยว่า มือถือจะสามารถสร้างอาชีพ หรือทำเงินได้มาก่อน
"เรื่องมันเริ่มต้นตอนปี 2022 มีน้องคนหนึ่งมาชวนผมทำ TikTok ตอนนั้นผมปฏิเสธไปเลย เพราะผมเข้าใจว่า TikTok คือการเต้น การร้องเพลง หรือการลิปซิงค์ แต่สิ่งที่น้องเขาพูดถึงคือ TikTok Shop
ช่วงนั้นผมตกงาน แต่ก็เปิดรับสิ่งใหม่ ผมมีความคิดว่า ชีวิตคือการต่อจุด ก็เอาทักษะที่เคยเรียนมา การถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ การตัดต่อ มาใช้ฝึกฝน รับงานไปเรื่อย ๆ
Cr. Kanok Shokjaratkul
เพื่อนที่เคยทำงานด้วยกันเห็นเราทำงานแบบนี้ยังถามเลยว่า "ไหวไหม กลับมาทำงานด้วยกันไหม" แต่ตอนนั้นผมกับแฟนกำลังคิดว่าจะขายหอยแครงลวก โชคดีที่ TikTok มันปังซะก่อน
ทำให้มีงานเข้ามาจาก โทรศัพท์มือถือ เครื่องเดียว
ตอนนี้ผมมีรายได้ ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาทต่อเดือน บริษัทของผมไม่เคยใช้กล้องดิจิทัลถ่ายทำ และไม่เคยตัดต่อผ่านคอมพิวเตอร์เลย ผมใช้แอปพลิเคชัน CapCut ในการตัดต่อ 100%
ผมอยากให้ทุกคนมั่นใจว่า "เงินอยู่ในอากาศจริง ๆ"
ในขณะที่คนในสังคมบ่นว่าเศรษฐกิจไม่ดี แต่ก็มีผู้หญิงที่ตั้งกล้องไลฟ์สดกับเพื่อน ๆ แล้วทำรายได้ครั้งละ 10 ล้าน ถึง 100 ล้านบาท อยู่ที่ว่าเราจะคว้ามันได้หรือเปล่า
Cr. Kanok Shokjaratkul
หากคุณอยากเป็น Content Creator คุณต้องมี 6 ทักษะนี้
1. การสื่อสาร : คือการพูดเรื่องยาวให้สั้น พูดเรื่องสั้นให้เข้าใจ พูดเรื่องเข้าใจให้สนุก และพูดเรื่องสนุกให้สามารถใช้งานได้จริงและน่าติดตาม
2. มองเห็นสิ่งรอบตัว เป็น Content : ประสบการณ์ของคนวัย 40+ คือ Content ที่เด็กไม่สามารถมีได้ หากเราสื่อสารประสบการณ์ ทักษะ หรือความรู้ความสามารถออกไป มันคือ Content
3. สร้างชิ้นงานได้ : สามารถถ่ายวิดีโอ ตัดต่อ หรือพากย์เสียงได้
4. เข้าใจการตลาดและตลาด : ตลาดเปลี่ยนไปแล้ว เราต้องทำตัวเป็น พระจันทร์ ที่โคจรรอบดาวเคราะห์ ไม่ใช่ทำตัวเป็นพระอาทิตย์ที่ให้ทุกคนมาโคจรอยู่รอบเรา
5. สร้างตัวตน (Personal Branding) ให้เกิดขึ้น
6. เข้าใจแพลตฟอร์ม : ต้องทำความเข้าใจกฎระเบียบต่าง ๆ โดยเฉพาะ TikTok ที่มีกฎที่เคร่งครัดมาก เพราะถูกควบคุมโดย ByteDance บริษัทสัญชาติสิงคโปร์"
Cr. Kanok Shokjaratkul
คนแรกผ่านไปแล้ว มาฟังเคสที่สองกันบ้าง
- มือถือ 1 เครื่อง เปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งได้จริงหรือ?
อนุสร ตันเจริญ YouTober เจ้าของช่อง ลุงอ้วน กินกะเที่ยว (อายุ 60 กว่า) เผยว่า ตอนที่ทำเพจครั้งแรกเมื่อ 30 ปีที่แล้ว สมัยนั้นยังไม่มีคำว่าเพจ ไม่มีคำว่ายูทูบเบอร์ ไม่มีคำว่าบล็อกเกอร์ มีแต่คำว่าพันทิป
"ก็ทำอยู่ในแพลตฟอร์มพันทิป หลังจากนั้นก็มี Facebook ปัจจุบันมีผู้ติดตามประมาณ 1 ล้านเกือบ 200,000 หลัง ๆ เริ่มทำ YouTube
การเล่าเรื่องมาได้ยังไง ? มันออกมาเอง ผมไม่มีสคริปต์ ทำด้วยความชอบส่วนตัว ด้วยความเห็น ด้วยความที่เคยกิน ร้านอาหารที่ผมไปกินหรือไปทำ มันไม่ใช่เป็นการไปครั้งแรก คือต้องกินจนประจำ ๆ จนรู้อยู่แล้ว
คือ เราทำในสิ่งที่เราชอบ มันจะเวิร์คกว่า ถ้าอะไรที่เราไม่ชอบแล้วเราอยากไปทำโดยที่เราไม่รู้ มันค่อนข้างจะทำยาก
ที่ผ่านมามีช่วงหนึ่งคนเริ่มดูทีวีน้อยลง หันมาใช้มือถือมากขึ้น มือถือก็ใช้ง่ายขึ้น สนุกขึ้น มี Facebook มี YouTube มีอะไรต่าง ๆ นานา เราสามารถดูตอนไหนก็ได้
Cr. Kanok Shokjaratkul
ตอนที่ทำ YouTube ใหม่ ๆ ก็ยากนะ ตอนถ่ายครั้งแรก ผมทำเอง อย่างการลงเสียง ผมถ่ายด้วยมือถือ แต่เสียงผมไม่มี ก็ใช้ iPad อีกตัวหนึ่งเปิดเสียง แล้วก็ถ่าย
บางคนติดว่าอายุเยอะแล้ว ไม่ทันแล้ว เรื่องอายุ ผมคิดว่าไม่เป็นอุปสรรค เทคโนโลยีสมัยใหม่ ๆ หรือการไปถ่ายกลางห้างพารากอน ตอนเราอายุ 60 แล้ว ผมก็ทำ ก็อายเขานะ แต่พอทำไปแล้วมันก็โอเค เดี๋ยวก็ชินไปเอง
ส่วนเรื่องรายได้ ทุกวันนี้ที่ผมทำ ผมไม่ได้มุ่งหวังเรื่องรายได้ ได้ก็ดี ไม่ได้ไม่เป็นไร เราอย่าไปมุ่งหวังว่า "เฮ้ย ฉันทำแล้ว ต้องได้"
ทุกวันนี้เวลาผมไป ไม่มีสคริปต์ ไม่มีร้าน บางทีผมก็ไปคนเดียว วันนี้ฉันอยากกินร้านนี้ ฉันถ่ายได้ฉันก็ถ่าย ถ่ายไม่ได้ฉันก็เก็บ เพราะเราไม่ได้ลงทุนอะไร เป็นชีวิตปกติที่เราไปกินแบบนั้นอยู่แล้ว
Cr. Kanok Shokjaratkul
คำแนะนำสำหรับวิธีการหาสไตล์ช่องของตัวเองก็คือ อะไรที่เราชอบ อะไรที่เรารัก แล้วเราจะไม่เบื่อ เราก็ทำ เราทำไปเรื่อย ๆ
เคล็ดลับของ ลุงอ้วน กินกะเที่ยว คือ ความเรียล (Real) เราทำอะไรคอนเทนต์ทุกอย่าง ขอให้เรียล อย่า make ดีไม่ดีลงไปเลย เราต้องซื่อสัตย์กับคนดูของเรา
ถ้ามีคนดูเยอะ แต่ไม่มีรายได้เข้ามาเลย จะยังไงดี ถ้าเริ่มต้นมีคำตอบแบบนี้ก็ผิดแล้ว
การทำเราต้องทำด้วย Passion ด้วยความชอบของเรา รายได้ไม่ต้องไปคิด ถ้าจะทำให้เรามีรายได้ ต้องใช้ระยะเวลา"
Cr. Kanok Shokjaratkul
มาถึงคนที่สามกันบ้าง เป็นสาวน้อยวัยรุ่น
- ไม่อยากออกกล้อง ก็ขายของได้!
หลิว-ลลิตา สถิตธรรมพนา เจ้าของช่อง หลิวหลิว ฟาร์ม กล่าวว่า มาจากเชียงใหม่ การนำเสนอส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตบนดอย ผลไม้ในสวน
"จุดเริ่มต้นมาจากช่วงโควิด ตกงาน กลับมาอยู่ที่บ้าน บวกกับเราขี้อายด้วย แล้วมองเห็นว่า บ้านเรามีผลไม้ มี อะโวคาโด อยู่ที่บ้าน ถ้าเราไม่ขายช่วงนั้นช่วงโควิด เราก็ส่งออกไม่ได้อยู่แล้ว มันก็เสีย เราเลยต้องเอามาขาย
เริ่มจากการโพสต์รูปอะโวคาโดที่สวนของเราลงไปในกลุ่มที่เราจะขาย ปรากฎว่า ผลตอบรับดีมาก ในช่วงแรกที่ขาย โพสต์แรกขายได้เกือบ 100 บ้านเลย
การเป็นคนขี้อายแล้วต้องมาทำคอนเทนต์ มันก็ยากนะ เพราะว่าเราไม่ค่อยกล้าพูด ไม่ค่อยกล้าออกกล้อง เป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง
ในช่วงหนึ่งปีแรกที่หลิวทำ ไม่มีใครเห็นหน้าหลิวเลย จนถึงช่วงหนึ่งที่ Facebook เริ่มตัน แล้วเราก็เล่น TikTok ทุกวันอยู่แล้ว ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะเอาหน้าเราไปอยู่ในนั้น
วันหนึ่งมีไฟ เกิดความฮึกเหิมในตัว ฉันต้องได้เป็นดาว TikTok ก็ตั้งกล้องถ่ายเลย
Cr. Kanok Shokjaratkul
ไม่รู้ว่าวิดีโอมันจะตัดทุก 30 วินาที เราก็ถ่ายไป กลายเป็น 3 คลิป เป็นวิดีโอทานอะโวคาโด 3 คลิป แล้วคลิปนั้นก็ได้แสนวิว ทั้ง 3 คลิปเลย
จังหวะมันใช่ คนเห็นว่าเรากินอะโวคาโดอยู่ ก็เริ่มมีคอมเมนต์ว่าสนใจ จะสั่งที่ไหนได้บ้าง
เราก็แปะเพจเลย พอ TikTok Shop มา เราก็ต้องกลับมาขายในระบบของเขาแทน ไม่สามารถดึงลูกค้าไปที่อื่นได้แล้ว เพราะว่ามันเป็นกฎของแพลตฟอร์ม
ตอนหลังมี ไลฟ์สด ขายของด้วย ตอนแรก ๆ ที่หลิวทำ ขาตั้งกล้องก็ไม่มี เอาโต๊ะวางไว้ แล้วเอาขวดน้ำวาง เอาโทรศัพท์มาวางพิงขวดน้ำ แล้วก็ไลฟ์สดเลย
หลัก ๆ คือเน้นพูดคุยกัน สร้างฐานลูกค้าก่อน พอหลังจากนั้นแชทแตกมากเลยค่ะ คนทักมา หลิวตอบแชทไม่ทันเลย ได้นอนไม่เกิน 2 ชั่วโมง ต้องลุกมาตอบ
สินค้าที่ขายดีที่สุดของหลิวส่วนใหญ่ก็จะเป็น อะโวคาโด จำนวนต่อเดือนก็ 15-20 ตัน
วิธีหาหาสไตล์ช่องของตัวเอง ทำยังไง ? ไม่ยากค่ะ ปกติเราเป็นคนยังไง ก็นำเสนอไลฟ์สไตล์ของเรา
ถ้ามีคนดูเยอะแต่ไม่มีรายได้เข้ามาเลย ? ก็ไม่เป็นไร อย่าเพิ่งไปกดดันตัวเอง ให้เราทำไปก่อนเรื่อย ๆ สักวันหนึ่งก็จะมีรายได้เข้ามาหาเราเอง
สิ่งที่อยากฝาก คือ พยายามมองหาโอกาสเสมอ หลิวเป็นเด็กที่อยู่บนดอย ห่างไกลจากความเจริญ ห่างไกลจากหลาย ๆ โอกาสมาก แต่เราไม่เคยท้อ ที่ไหนที่เรามองเห็น มันจะมีโอกาสอยู่ตรงนั้น เราก็เอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้นเสมอ
เคล็ดลับของหลิว คือ ความขยัน หลิวทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด มีแต่ความขยัน ที่ไหนมีงาน เราจะไปอยู่ตรงนั้น"







