การละเมิดลิขสิทธิ์ ‘หนังสือ’ ถึงเวลาต้องจัดการ ‘PUBAT’ ไม่สนับสนุน

การจัดการปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ 'หนังสือ' อย่างจริงจังในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งล่าสุด ทำให้ผู้ละเมิดฯไม่พอใจ 'PUBAT' มีคำตอบ
การละเมิดลิขสิทธิ์ หนังสือ มีเกิดขึ้นมานานแล้วในประเทศไทย นั่นเพราะยุคสมัยที่ผ่านมา การสื่อสาร ยังไม่ทั่งถึง อีกทั้งคนทำก็ไม่มีความตระหนัก ทำให้การละเมิดเกิดขึ้นได้ง่าย
แต่ในปัจจุบัน ยุคที่การสื่อสารของทุกคนทุกประเทศในโลกเชื่อมถึงกันหมดด้วยอินเทอร์เน็ท ทุกคนสามารถรับรู้ข่าวสารได้ในระดับวินาที เพียงแค่เปิดมือถือ
ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 9-19 ตุลาคม 2568 การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน คือการไม่สนับสนุนนักเขียน นักแปล และสำนักพิมพ์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ให้นำมาจำหน่ายในงานนี้ ทำให้เกิดการถกเถียงและพูดคุยกันอย่างมากมายในวงการหนังสือ
วันที่ 18 ตุลาคม 2568 ณัฐกร วุฒิชัยพรกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
Cr. Kanok Shokjaratkul
"ผมขอออกมาพูด มาสื่อสารบ้างนะครับ กับประเด็นดรามาเรื่องที่ผ่านมา อาจจะมีความเป็นทางการมากหน่อย เพราะผมพูดในฐานะที่รับตำแหน่งนายกสมาคม แต่ออกมาจากใจของผม
"เมื่อความถูกต้อง…ต้องแลกด้วยความเข้าใจผิด"
ผม ในฐานะนายกสมาคมฯ ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ พร้อมเจอปัญหาดราม่า ประเด็น หนังสือ "ละเมิดลิขสิทธิ์"
ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างที่สุด ในการที่จะตัดสินใจ "ทำในสิ่งที่ถูกต้อง" แต่อาจจะ "ไม่ถูกใจ" ใครหลาย ๆ คน จนเกิดกระแสต่อต้านมากมาย!
เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ น่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว ปัญหา "หนังสือละเมิดลิขสิทธิ์" มันถูกซุกอยู่…ใต้พรม! มานานหลายสิบปี! ไม่มีใครกล้าไปแตะ! เพราะจะไปขัดผลประโยชน์ของเพื่อนพ้อง เลยต้องหลับตาข้างนึง! เลือกที่จะปล่อยผ่าน
การที่ผมต้องตัดสินใจ ไม่สนับสนุนให้นำ "หนังสือแปล ละเมิดลิขสิทธิ์" มาจำหน่าย! ในงานมหกรรมหนังสือฯ ครั้งที่ 30 เพราะสมาคมฯ มีกฎข้อบังคับ ซึ่งผม ในฐานะนายกสมาคมฯ ต้องปฏิบัติตาม นั่นคือสมาชิกสมาคมจะต้องไม่กระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ใดเลย และในคู่มือผู้ออกบูธก็สั่งห้ามอย่างชัดเจน
ซึ่งผมรู้ตัวดีว่า การตัดสินใจทำแบบนี้ ผมจะต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง แต่ที่ผมเสียใจที่สุดคือ ต้องเสีย…เพื่อน เสียพี่ เสียคนที่ผมรักเคารพที่ไม่เห็นด้วย
แต่ผมต้องยอม "บาดเจ็บ" เพื่อทำในสิ่งที่…ถูกต้อง! แม้ต้องเจอมรสุมอีกมาย ผม กล้าที่จะยืดอกรับอย่างลูกผู้ชาย ผม เป็นนายกสมาคมฯ คนแรก! ที่ตัดสินใจทำเรื่องนี้ ด้วยความยากลำบาก! ท่ามกลางคนที่เห็นต่าง
ก่อนการจัดงาน ผมได้รับหนังสือร้องเรียน จากเอเยนซี่ ว่ามี "หนังสือแปล ละเมิดลิขสิทธิ์" จำหน่ายในงานหนังสือที่ผ่านๆ มา ขอให้ทางสมาคมฯ ในฐานะผู้จัดงานฯ ได้พิจารณาเรื่องนี้ด้วย
เพื่อเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ผมได้หาทางออก ให้เพื่อนสมาชิก ด้วยการแนะนำให้เอาหนังสือ เฉพาะที่ถูกลิขสิทธิ์มาขาย และยังให้เปิดบูทขายได้ตามปกติ
แต่กลับมีการสร้างกระแสข่าวว่า ผมกลั่นแกล้ง ไม่ให้เปิดบูทขาย ไม่ให้เวลาในการเตรียมตัว ฯลฯ ต่างๆ นานามากมาย!
เรื่องจริง คือ สมาคมฯ ยังให้บูทขายได้ตามปกติ ขอแค่…อย่าเอาหนังสือแปลละเมิดลิขสิทธิ์มาขาย เท่านันเอง!!!
การซื้อลิขสิทธิ์หนังสือมาแปล "ราคาหลักหมื่นบาท" ไม่ได้แพง!!! อย่างที่มีกลุ่มคนกำลังสร้างวาทกรรม…หนังสือแปลดีๆ จะไปตกอยู่กับกลุ่ม นายทุน!
หยุด! ละเมิดลิขสิทธิ์
เพื่อ…เริ่มต้น สิ่งที่…ถูกต้อง!
"ของแท้ ไม่ต้อง…ซ่อน"
Real Books. Real Pride.
หยุด! ก่อนจะสาย… ทุกหน้ากระดาษที่ถูกลักลอบแปล หรือการคัดลอก (ก๊อบปี้) ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งสิ้น คือการทำลาย ความฝัน ความพยาม ที่มาจากความยากลำบาก ของนักเขียน
ในยุคที่หนังสือไทย กำลังจะก้าวไกลสู่เวทีโลก "การละเมิดลิขสิทธิ์" คือบาดแผลที่ฉุดรั้งทั้งวงการไว้
เพราะอุตสาหกรรมหนังสือไทยจะยืนอย่างสง่างามบนเวทีโลกได้ ก็ต่อเมื่อ "เราทุกคน" หยุด! สนับสนุนการละเมิดลิขสิทธิ์
ยุติ! ยุค "ปิดตาข้างเดียว"
อย่าทำร้าย! คนที่คุณ…บอกว่ารัก ผ่านการสนับสนุนให้ละเมิดลิขสิทธิ์
ถ้ารักกันจริง ต้องแนะนำให้เขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง
เพราะหนังสือทุกเล่มที่ละเมิดลิขสิทธิ์ คือ "คำสารภาพ! ของการ ไม่เคารพกฏหมาย"
หนังสือทุกเล่ม มีเจ้าของ อย่าทำให้มันกลายเป็น "ของกลาง" ทางกฎหมาย
คุณอาจคิดว่า… แค่ลักลอบแปลหนังสือเล่มหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องใหญ่!
แต่รู้ไหม… สำหรับคนเขียน มันคือ "การขโมยชีวิต และความฝัน"
กว่าหนังสือหนึ่งเล่มจะเกิดขึ้น…คือ คืนที่ไม่ได้นอน…นับพันคืน!
แต่เพียงแค่ หนังสือออกวางบนชั้นแป๊บเดียว! ทุกอย่าง "ถูกก๊อบปี้" ไปหมด!
คุณไม่ได้ ขโมย แค่…ตัวอักษร
แต่มันคือการ…ขโมยความฝัน ของนักเขียน ความยุติธรรมของสำนักพิมพ์ และความเชื่อมั่นของประเทศ
เพราะการลักลอบแปล ไม่ใช่แค่ผิดกฎหมาย แต่มัน "ฆ่า ความเชื่อมั่นวงการหนังสือไทย" ทีละหน้า
หยุด! ละเมิดลิขสิทธิ์
ให้ "ตัวอักษรไทย" มีศักดิ์ศรี
ให้ "นักเขียนไทย" มีคุณค่า
ให้ "วงการหนังสือไทย" ได้ยืนบนเวทีโลกอย่างสง่างาม!
- ละเมิดลิขสิทธิ์ เล่มเดียว… ทำร้ายทั้งวงการ
- ทุก ไฟล์เถื่อน คือ ไฟ ที่เผาความฝันของนักเขียน
คนเขียน ใช้เวลาเป็นปี ส่วนคนละเมิดใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน
หยุด! ละเมิดลิขสิทธิ์…สร้างความเชื่อมั่นวงการหนังสือไทย เพื่อขยาย
ไปสู่ตลาดโลก!
หน้าที่ของผู้นำ ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจ!
แต่คือ การทำให้ถูกต้อง!
……………………………..
ณัฐกร วุฒิชัยพรกุล
นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT)
ล่าสุด วันที่ 19 ตุลาคม 2568 วันสุดท้ายของงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 ณัฐกร วุฒิชัยพรกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ได้ให้สัมภาษณ์กับ กรุงเทพธุรกิจ ถึงเรื่องนี้ว่า
"ในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ในตลาดหนังสือไทย เราให้การสนับสนุน สำนักพิมพ์ ที่ทำสิ่งที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์
เรามีมาตรการที่จะช่วยเปลี่ยนผ่านให้ทุกคนกลับมาทำได้อย่างถูกต้องมากขึ้น
ปัจจุบัน เปอร์เซ็นต์ของสำนักพิมพ์ที่ไม่ถูกต้องลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ เราคิดว่าในอีกไม่นานปัญหานี้ก็น่าจะหมดไป
สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯจำเป็นจะต้องเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่ดูแลเรื่องนี้ ไม่ให้มีการนำหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์ออกสู่ตลาด
มันเป็นความเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นต้องเกิด เพราะเรากำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคต และเรากำลังจะขายลิขสิทธิ์ไปยังเมืองนอก
ดังนั้น มาตรฐานของเราจะต้องแน่น เราจะต้องไม่ให้มีหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ในงาน"
- สิ่งที่เกิดขึ้น
"ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ดำเนินการหลายอย่าง มีการตรวจสอบ และมีการตักเตือน สำนักพิมพ์ที่ยังคงมีหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ เราได้ห้ามจำหน่ายหนังสือเหล่านี้ในงาน โดยอนุญาตให้จำหน่ายเฉพาะหนังสือที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องเท่านั้น
ในเรื่องของ การให้ความรู้เรื่องลิขสิทธิ์ เป็นหน้าที่และเป็นภารกิจอย่างหนึ่งของสมาคมฯ ที่เราต้องทำให้ทุกคนทั่วไปได้รับรู้ว่า เรื่องลิขสิทธิ์นั้นเป็นอย่างไร และช่วยทำให้ความเข้าใจผิดนั้นหายไปด้วย
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็มีทั้งด้านดีและไม่ดี มีคนด่าบ้างอะไรบ้าง แต่คนส่วนใหญ่เห็นด้วย และเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่สมควรจะต้องเกิด ซึ่งกลุ่มที่เห็นด้วยมีมากกว่า"
- ลิขสิทธิ์ คือตัวตน ทุกคนต้องให้ความสำคัญ
"ลิขสิทธิ์เป็นเรื่องสำคัญ เราจำเป็นจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และเป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะตระหนัก ไม่ว่าท่านจะอยู่ฝ่ายไหนในองค์ประกอบของหนังสือทั้งหมดก็ตาม
และการทำเรื่อง ลิขสิทธิ์ จะทำให้เราสามารถยืนหยัดอยู่กับต่างประเทศและนานาชาติ ได้อย่างสง่างาม
เราไม่ได้สนใจเพียงแค่การขายหนังสือเท่านั้น แต่เราสนใจเรื่องการทำให้ถูกต้อง สนใจเรื่องที่นักเขียนจะต้องได้รับค่าตอบแทนในผลงานของเขา
ผมขอย้ำว่า การละเมิด คือ การขโมย เราอย่าไปเรียกอย่างอื่น เพราะฉะนั้น การขโมยจะเกิดขึ้นไม่ได้"







