วันสุดท้าย ‘มหกรรมหนังสือฯ' ทะลุเป้า 1.5 ล้านคน! ยอดขาย 474 ล้านบาท

'มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30' จบลงแล้ว สร้างสถิติใหม่ ผู้เข้าชมงาน 1.5 ล้านคน เงินสะพัดกว่า 474 ล้านบาท 'Gen Z' มาร่วมงานมากสุด
สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) แถลงข่าวสรุปผลการจัดงาน มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 (Book Expo Thailand 2025) วันที่ 19 ตุลาคม 2568 หน้าฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ณัฐกร วุฒิชัยพรกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เผยว่า การจัดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 (Book Expo Thailand 2025) วันที่ 9-19 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รวมทั้งสิ้น 11 วัน
"ภาพรวมในปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากและเกินความคาดหมาย ยอดผู้เข้าชมงานที่เราคาดหวังไว้ที่ 1.4 ล้านคน กลายเป็น 1.5 ล้านคน
ยอดขายก็เติบโตขึ้นถึง 8% โดยเพิ่มจาก 438 ล้านบาท เป็น 474 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นหลายล้านบาทเลยทีเดียว
Cr. Kanok Shokjaratkul
ปัจจัยสำคัญ มีหลายสาเหตุ ประการแรกคือ หนังสือที่ออกใหม่มีความยอดเยี่ยมมากขึ้น มีการใช้เทคนิคใหม่ ๆ ในการผลิตหนังสือ
ประการที่สอง ยูทูบเบอร์และนักรีวิว อ่านหนังสือแล้วนำไปรีวิว ทำให้หลายคนรู้สึกว่าต้องมาอ่านหนังสือเล่มนี้ให้ได้ นอกจากนี้ โปรดักต์และกิจกรรมที่เราประกาศออกไปก็ทำให้คนสนใจมางานอย่างมาก
จุดที่น่าสังเกตที่สำคัญที่สุดคือการก้าวเข้ามาของกลุ่ม Gen Z กลุ่มนี้กลายเป็นผู้เข้าชมงานกลุ่มใหญ่มาก ๆ ของเรา คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของผู้เข้าชมงานทั้งหมด โดยเฉลี่ยแล้วอัตราส่วนนี้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 20%
สิ่งที่ Gen Z ชื่นชอบคือการเปลี่ยนแปลงของสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ที่ทำรูปเล่มได้พิเศษมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสันปกหรือรายละเอียดอื่น ๆ
และมีการมองว่า หนังสือ ไม่ได้ไว้อ่านอย่างเดียว แต่เป็น ของสะสม ด้วย อีกทั้งทุกสำนักพิมพ์ต่างก็แข่งขันกันทำเทคนิคพิเศษเพื่อให้หนังสือน่าสนใจและน่าเป็นเจ้าของมากยิ่งขึ้น"
Cr. Kanok Shokjaratkul
- อะไรขายดีที่สุด?
"หนังสือขายดีอันดับแรก คือ นิยาย ในงานนี้มีหนังสือนิยายที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก อันดับ 2 คือ มังงะ อันดับ 3 คือ How-To อันดับ 4 คือ หนังสือเรียน อันดับ 5 คือ หนังสือเด็ก
ในส่วนของ นิยาย ที่ได้รับความนิยม คือนิยายไทยและนิยายต่างประเทศ ประกอบด้วย นิยายแฟนตาซี, นิยายสืบสวน, นิยายรัก Boy Love และ Girl Love ที่เห็นชัดเจนคือ จำนวนยอดขายของนิยายไทยได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น
การที่ นิยายไทย ได้รับความนิยม ทำให้มีนักเขียนไทยมาร่วมงานมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้คนมางานมากขึ้นด้วย แสดงให้เห็นว่าสำนักพิมพ์ไทยมีการเพิ่มขึ้นและมีหนังสือที่มีคุณภาพมากขึ้น
ในแง่กำลังซื้อของผู้เข้าชมงานก็มีการจับจ่ายใช้สอยโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ จากเดิมที่อยู่ที่ 600-700 บาท ต่อคน ในงานนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1,000 บาท ต่อคน โดยเฉลี่ย
Cr. Kanok Shokjaratkul
เมื่อมอง ภาพรวมอุตสาหกรรมหนังสือ ก็พบว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างน่าสนใจ มูลค่าตลาดที่เราเคยประมาณการไว้ที่ 18,000 ล้านบาท ในปีนี้พุ่งสูงถึง 20,000 ล้านบาท
เป็นผลมาจากแรงสนับสนุนจากผู้อ่านเจนใหม่ที่ใส่ใจในการอ่านมากขึ้น และสำนักพิมพ์เองก็มีการออกลูกเล่นใหม่ ๆ และทำตลาดที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วย
ในส่วนของ การขยายตลาดสู่สากล ตอนนี้คนของสมาคมฯหลายท่านไปร่วมงานอยู่ที่ แฟรงก์เฟิร์ตบุ๊คแฟร์ เราได้พาสำนักพิมพ์ 19 แห่ง และสำนักพิมพ์อื่น ๆ ที่ฝากหนังสือไป ไปขายลิขสิทธิ์ที่ต่างประเทศ
Cr. Kanok Shokjaratkul
การไปแฟรงก์เฟิร์ตบุ๊คแฟร์ก็เท่ากับว่า เราพร้อมแล้วที่จะนำชาวต่างชาติมาทำความรู้จักหนังสือไทยของเรา ครั้งที่ผ่านมามีผู้สนใจมากกว่า 60 ลิขสิทธิ์ในงาน ผมมองว่าตลาดนี้จะยิ่งเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้เราเข้าประตูไปได้แล้ว และหลังจากนี้จะยิ่งเติบโตขึ้นแน่นอน
PUBAT คาดการณ์ว่าปีหน้าตลาดหนังสือจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง 5–10% ปัจจัยหนุนหลักมาจาก สื่อผสม (Cross Media) ที่ส่งเสริมการอ่าน เช่น ภาพยนตร์, ซีรีส์, พอดแคสต์ รวมถึงการเติบโตของ E-Book และ Audio Book ที่ทำให้การเข้าถึงหนังสือสะดวกยิ่งขึ้น
ส่วนปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังคือ ราคาหนังสือที่สูงขึ้น ส่วนแบ่งรายได้ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ยังค่อนข้างมาก และพื้นที่จัดเก็บหนังสือของคนรุ่นใหม่ที่จำกัด"







