ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

การเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ในการรักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ด้วย ‘สเต็มเซลล์’ เกิดขึ้นแล้วในเมืองไทย กับ 'PetGeneX' ธนาคารสเต็มเซลล์สำหรับสัตว์เลี้ยง

KEY

POINTS

  • เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ครั้งแรกในไทยในการใช้ 'สเต็มเซลล์' รักษาสัตว์เลี้ยง โดยเก็บจากเลือด ไม่ต้องผ่าตัดหรือวางยาสลบ
  • 'สเต็มเซลล์' เป็นทางเลือกในการรักษาโรคจากความเสื่อมและโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคไต ข้ออักเสบ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ช่วยชะลอความเสื่อมและเพิ่มคุณภาพชีวิต
  • เทคโนโลยีนี้พัฒนาโดย 'PetGeneX' ซึ่งเป็นบริษัทแรกและรายเดียวในไทยที่ทำได้สำเร็จ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA)
  • มีกรณีตัวอย่างสัตว์เลี้ยงที่ป่วยหนักและสุนัขสูงวัยที่อาการดีขึ้นอย่างชัดเจนหลังได้รับการรักษา เช่น กลับมาเดินได้ หรือมีชีวิตชีวาขึ้น

เมื่อ สัตว์เลี้ยง ไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยง แต่เป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัว เป็นความสุขและรอยยิ้มของทุกคน การได้อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ อย่างมีความสุข เป็นสุดยอดปรารถนาของคนรักสัตว์เลี้ยง

แต่โรคภัยไข้เจ็บก็เกิดขึ้นได้ การรักษาสัตว์เลี้ยงแบบใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว ด้วยเทคโนโลยี สเต็มเซลล์ นวัตกรรมใหม่เพื่ออนาคตของสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรา

ทางเลือกใหม่ที่จะมาพลิกโฉมการดูแลสุขภาพของสมาชิกสี่ขาในครอบครัว ด้วยการเก็บ สเต็มเซลล์ จากสัตว์เลี้ยง โดย PetGeneX เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย

ที่เก็บสเต็มเซลล์จากเลือดของสัตว์เลี้ยงได้สำเร็จ ไม่ต้องผ่าตัดหรือวางยาสลบ ทำให้การเก็บสเต็มเซลล์เป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

Cr. Kanok Shokjaratkul

ในงานเปิดตัว สเต็มเซลล์ นวัตกรรมใหม่ เพื่อสัตว์เลี้ยง วันที่ 21 กันยายน 2568 ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ NIA ได้มาร่วมงานด้วย กล่าวว่า 

"ที่ NIA เราเห็นนวัตกรรมมาหลากหลายรูปแบบ ต้องยอมรับว่าตลาดสัตว์เลี้ยงในปัจจุบันใหญ่มาก จริง ๆ เพราะเราดูแลน้องหมาน้องแมวเหมือนคนในครอบครัว

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

PetGeneX นำงานวิจัยจากรั้วมหาวิทยาลัยต่อยอดมาสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ เป็นนวัตกรรมการเก็บ สเต็มเซลล์ จากเลือดได้ โดยใช้เลือดเพียงแค่ 3 CC ก็สามารถนำไปเพาะเลี้ยงต่อได้

เป็นการทำลายข้อจำกัดเดิม ๆ ของการเก็บสเต็มเซลล์ในสัตว์เลี้ยงที่ต้องวางยาสลบ ซึ่งสร้างความกังวลให้เจ้าของ นวัตกรรมนี้จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีอายุยืนยาว (Longevity) ไปพร้อมกับเรา

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

NIA มี 4 กลไกสนับสนุนผู้ประกอบการนวัตกรรม คือ Groom (ให้ความรู้), Grant (ให้ทุน), Growth (สร้างการเติบโต) และ Global (สู่ระดับโลก)

สำหรับ PetGeneX ได้เข้าร่วมโครงการ นิลมังกร เป็นโครงการที่เราไม่ได้ให้แค่เงินทุน แต่เราให้องค์ความรู้, Mentor, ช่วยเรื่อง Branding และ Storytelling

เราตั้งโจทย์ท้าทาย (Challenge) ให้ผู้ประกอบการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เช่น ทำให้ธุรกิจโตขึ้น 3 เท่า เพราะธุรกิจนวัตกรรมมีโอกาสโตแบบทวีคูณ (Exponential) อยู่แล้ว แค่ต้องการแรงผลักดัน กิจกรรมในวันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจนั้น"

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

  • ‘สเต็มเซลล์’ จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการสัตวแพทย์ได้อย่างไร

น.สพ.ชัยยศ ธารรัตนะ อาจารย์ประจำคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ร่วมก่อตั้ง PetGeneX กล่าวว่าตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เจอโรคต่าง ๆ มากมายที่น่าเศร้า เพราะบางครั้งไม่มีทางเลือกในการรักษา ทำได้เพียงประคับประคองและรอวันที่น้องจะจากไป

"สเต็มเซลล์ เป็นนวัตกรรมที่เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ สามารถช่วยชะลอความเสื่อมและลดความเจ็บปวดให้น้อง ๆ ได้ โดยเฉพาะในโรคที่ต้องใช้ยาแรง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น โรคมะเร็ง, โรคภูมิแพ้รุนแรง, โรคพุ่มพวง (SLE)

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

ซึ่งต้องใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ในปริมาณสูง ก่อให้เกิดผลข้างเคียงมากมาย เช่น กระเพาะเป็นแผล หรือตับมีปัญหา ทำให้อายุสั้นลง หรืออีกกรณีที่เจอบ่อยคือ โรคไต ซึ่งปกติแทบไม่มีทางรักษา ทำได้เพียงให้น้ำเกลือไปเรื่อย ๆ รอวันที่ไตจะเสื่อมลง

แต่ สเต็มเซลล์ มีรายงานการศึกษาว่าสามารถช่วยรักษาโรคเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องย้ำว่า สเต็มเซลล์ ไม่ใช่ยาครอบจักรวาล แต่เป็น ทางเลือกในการรักษา (Alternative Medicine) ที่คุณพ่อคุณแม่มีสิทธิ์เลือกเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก ๆ ของเรา

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

'สเต็มเซลล์' คืออะไร

น.สพ.ชัยยศ กล่าวว่า สเต็มเซลล์ คือ เซลล์ชนิดพิเศษที่มีความสามารถในการแบ่งตัวและพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายได้

"แต่ไม่ใช่ว่าเซลล์เดียวจะเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ตามใจชอบ ในร่างกายของเราจะมีสารอาหารหรือสารที่คอยเหนี่ยวนำให้สเต็มเซลล์พัฒนาไปเป็นเซลล์ที่ร่างกายต้องการ ณ จุดนั้น ๆ

เทคโนโลยีนี้มีการใช้อย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ของคน โดยเฉพาะในด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูและเวชศาสตร์ชะลอวัยเพื่อลดความเสื่อมของร่างกาย ซึ่งในสัตว์เลี้ยงก็มีหลักการที่ไม่แตกต่างกัน

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

Cr. Kanok Shokjaratkul

สเต็มเซลล์มีความสามารถโดดเด่นหลายประการ

1. การแบ่งตัว (Self-replicate) สามารถเพิ่มจำนวนตัวเองจาก 1 เป็น 2 เป็น 4 ได้อย่างรวดเร็ว

2. การเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์อื่น เมื่อร่างกายต้องการซ่อมแซมส่วนไหน สเต็มเซลล์สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์เนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้ เช่น กระดูก, กล้ามเนื้อ, ไขมัน หรือกระดูกอ่อน เพื่อเข้าไปทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพ

3. การชะลอความเสื่อมของเซลล์ (Anti-apoptosis) มีบทบาทในการชะลอการตายตามอายุขัยของเซลล์ต่างๆ ซึ่งเป็นหลักการที่นำมาใช้ในเวชศาสตร์ชะลอวัยของคน

4. การลดการอักเสบ (Anti-inflammation) มีรายงานการศึกษาชัดเจนว่า สเต็มเซลล์สามารถลดการอักเสบได้ดี สามารถนำไปใช้รักษาโรคที่เกิดจากการอักเสบได้หลากหลายมาก เช่น ข้ออักเสบ, ผิวหนังอักเสบ, ไตอักเสบ หรือตับอ่อนอักเสบ

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

Cr. Kanok Shokjaratkul

และมีรายงานการใช้ที่หลากหลายมาก ตั้งแต่การฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหายจากอุบัติเหตุ เช่น แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือแผลฉกรรจ์ ไปจนถึงการรักษาโรคเฉพาะทางต่าง ๆ

โรคระบบประสาท เช่น สุนัขที่ถูกรถชนจนกระดูกสันหลังหักและเดินลากขาหลัง สเต็มเซลล์สามารถเข้าไปช่วยฟื้นฟูได้

โรคข้อและกระดูก ในสุนัขพันธุ์ใหญ่มักเจอปัญหาข้อสะโพกเสื่อม ส่วนพันธุ์เล็กจะเจอปัญหาข้อเข่า ซึ่งสเต็มเซลล์ก็มีรายงานว่าช่วยได้

โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง (SLE) หรือโรคพุ่มพวง เป็นโรคที่รักษายากมากในสุนัข แต่มีรายงานว่าการใช้สเต็มเซลล์ประกอบการรักษาสามารถช่วยได้

โรคไต โดยเฉพาะในแมว ซึ่งปกติแล้วการรักษาจะทำได้ยากเพราะเครื่องฟอกไตมีขนาดใหญ่เกินไป มีรายงานว่าสเต็มเซลล์ช่วยให้ค่าไตลดลงและการกรองของไตดีขึ้นอย่างชัดเจน

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

Cr. Kanok Shokjaratkul

แต่ต้องเข้าใจว่านี่ไม่ใช่ยามหัศจรรย์ หากไตเสียหายไปมากแล้ว (เกิน 70%) ก็ไม่สามารถทำให้กลับมาเหมือนเดิม 100% ได้

โรคตา เช่น จอประสาทตาเสื่อม หรือแผลหลุมที่กระจกตา

• โรคอื่น ๆ เช่น เบาหวาน (มีเคสที่ไม่ต้องฉีดอินซูลิน), โรคหัวใจในสุนัขพันธุ์เล็ก, โรคเหงือกอักเสบเรื้อรังในแมว, โรคหอบหืด โรคเกี่ยวกับลำไส้

โดยทั่วไปเราจะเก็บสเต็มเซลล์ได้จาก สายสะดือ ซึ่งมีคุณภาพดีมาก แต่จะเก็บได้เฉพาะตอนคลอดเท่านั้น ถ้าสัตว์เลี้ยงของเราโตแล้วก็หมดโอกาส

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

อีกแหล่งคือ ไขกระดูกและไขมัน วิธีนี้ต้องผ่าตัดและวางยาสลบ ซึ่งเป็นการเสี่ยงโดยไม่จำเป็น ด้วยเหตุนี้ PetGeneX จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ เพราะเราสามารถเก็บสเต็มเซลล์ได้จากการเจาะเลือด เหมือนการตรวจสุขภาพทั่วไป ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องวางยาสลบ

สเต็มเซลล์ เป็นอีกหนึ่งโอกาสในการรักษาและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับสัตว์เลี้ยงของเรา โดยเฉพาะในโรคเรื้อรังหรือโรคที่เกิดจากความเสื่อม ซึ่งการแพทย์ในปัจจุบันอาจมีทางเลือกที่จำกัด"

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

  • ทางเลือกใหม่ของการรักษาสัตว์เลี้ยง

ดร.พงศกร กันหอม นักวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ผู้ร่วมก่อตั้ง PetGeneX กล่าวว่า นวัตกรรมนี้เปรียบเสมือน การเปิดประตูบานใหม่ ทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสเต็มเซลล์ได้ง่ายขึ้นมาก ช่วยขจัดความกังวลเรื่องการวางยาสลบ 

เช่น เคสของ น้องโซล่า สุนัขที่เป็นโรคหัด ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างล้มไปหมด เจ้าของรู้สึกสิ้นหวัง แต่คุณหมอได้แนะนำทางเลือกให้ใช้ สเต็มเซลล์

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

Cr. Kanok Shokjaratkul

หลังจากที่โซล่าได้รับการฟื้นฟูด้วยสเต็มเซลล์ จากที่เคยนอนติดเตียง ขับถ่ายเองไม่ได้ ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ 1 เดือนผ่านไป น้องกลับมาเดินได้เอง ปัจจุบันใช้ชีวิตได้ตามปกติ 

บริการของเรา มุ่งเน้นไปที่ สเต็มเซลล์ ชนิด Mesenchymal Stem Cells หรือ MSCs ซึ่งเป็นเซลล์ที่ซ่อนอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายและจะออกมาทำหน้าที่ซ่อมแซมเมื่อเกิดการเสื่อม

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

สเต็มเซลล์ ชนิดนี้ มีความปลอดภัยสูงมาก มีความเสี่ยงในการกระตุ้นให้เกิดมะเร็งต่ำ และไม่กระตุ้นให้เกิดการต่อต้านจากภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดผลข้างเคียงรุนแรง

ความท้าทายคือในเลือดมี MSCs อยู่น้อยมาก (น้อยกว่า 0.001%) แต่เรามีเทคโนโลยีเฉพาะในการคัดแยกและเพาะเลี้ยง กระตุ้นให้เซลล์เพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังคงคุณสมบัติที่ดีไว้ ไม่แก่เร็วเกินไปจนใช้งานไม่ได้

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง

กระบวนการปลอดเชื้อ เราทำงานในห้องคลีนรูมมาตรฐาน และนักวิจัยจะใส่ชุดป้องกันเหมือนชุดอวกาศเพื่อป้องกันการปนเปื้อน

อาหารเลี้ยงเซลล์ที่ปลอดภัย กระบวนการทั้งหมดของเรา ปราศจากเซรั่มรกวัว (Animal Component-Free) เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ข้ามสายพันธุ์

การตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอน (QC) สเต็มเซลล์ทุกล็อตที่เบิกไปใช้ จะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดว่า เซลล์ยังมีชีวิต, ยังเป็นสเต็มเซลล์ที่มีคุณภาพ, ไม่มีความเสี่ยงก่อมะเร็ง และไม่ปนเปื้อนเชื้อโรคเด็ดขาด

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

การจัดเก็บมาตรฐานสากล ในถังไนโตรเจนเหลวที่อุณหภูมิ -196°C มีระบบควบคุมอุณหภูมิและเติมไนโตรเจนอัตโนมัติ ทำให้สามารถเก็บเซลล์ไว้ได้นานกว่า 20 ปี

การรับรองมาตรฐาน ห้องปฏิบัติการของเราตั้งอยู่ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ฯ และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015

การฝากสเต็มเซลล์ไว้ก็เหมือนการสร้างหลักประกันสุขภาพให้ลูก ๆ ของเรา เพื่อที่ในอนาคตหากเขาเจ็บป่วย เราก็จะมีทางเลือกในการรักษาที่ดีที่สุดเตรียมพร้อมไว้"

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

จากซ้าย แม่น้องปังปิ้ง แม่น้องเปก้า  Cr. Kanok Shokjaratkul

  • แชร์ประสบการณ์การตัดสินใจเก็บสเต็มเซลล์

ปุ้ม-วศินี กิจจงถาวรกุล แม่น้องเปก้า เล่าว่า ตัวเองเป็นคนที่กลัวว่าน้องหมาจะตายอยู่ตลอดเวลา พอเขาอายุมากขึ้น เราก็เริ่มกังวลว่าวันหนึ่งเขาจะจากเราไป

"พยายามมองหานวัตกรรมต่าง ๆ ที่จะช่วยยืดอายุของเขาได้ ตอนแรกมองไปถึงเรื่องการโคลนนิ่งแต่กังวลว่าอาจจะไม่ใช่ดวงวิญญาณดวงเดิม ก็เลยมองหาวิธีอื่นที่ทำให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีและอายุยืนยาวขึ้น

พอรู้ว่ามีสเต็มเซลล์ ที่ PetGeneX เก็บได้จากการเจาะเลือดธรรมดา ไม่ต้องเก็บจากไขสันหลัง เพราะเรากลัวน้องเจ็บ ก็ตัดสินใจทันทีเลย

ขั้นตอนการเก็บ ไม่นานและไม่ยาก เราแค่ติดต่อไปที่ PetGeneX ทีมงานก็จะประสานงานกับโรงพยาบาลสัตว์ที่เป็นพาร์ทเนอร์ให้ เราแค่พาน้องไปตามนัดเพื่อเจาะเลือดแป๊บเดียว น้องแทบไม่รู้ตัวเลยว่าเกิดอะไรขึ้น

รู้สึกอุ่นใจมาก ๆ เรามีแผนว่าจะนำสเต็มเซลล์มาใช้ตอนน้องอายุประมาณ 6 ขวบ เพื่อช่วยชะลอวัย เพราะตอนนั้นเขาเริ่มเข้าสู่ช่วงซีเนียร์แล้ว เราหวังว่าวิธีนี้จะช่วยให้ลูกเราอายุยืนที่สุด"

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

กอล์ฟ-ลัดดาพร แดนชัยภูมิ แม่น้องปังปิ้ง เล่าว่า เราศึกษาเรื่อง เอ็กโซโซม (Exosome) มาก่อน มีความกังวลว่าเอ็กโซโซมที่มีอยู่ในปัจจุบันสกัดมาจากสเต็มเซลล์ของตัวอื่น ซึ่งเราไม่รู้ว่าต้นกำเนิดจะมีอะไรแฝงมาหรือเปล่า

"พอได้มารู้จักกับ PetGeneX ที่กำลังจะทำเอ็กโซโซมจากสเต็มเซลล์ของตัวน้องเอง ซึ่งตรงกับโจทย์ของเราพอดี เมื่อได้ศึกษาลึกลงไปเรื่องสเต็มเซลล์ ก็เลยเปลี่ยนใจมาเลือกสเต็มเซลล์แทน เพราะรู้สึกว่ามีประสิทธิภาพดีกว่าและใช้ได้นานกว่า

อาจารย์บอกว่า เอ็กโซโซม เหมือนการเอา ผลิตภัณฑ์ ไปใช้ แต่สเต็มเซลล์คือการเอา โรงงานผลิต เข้าไปในร่างกายเลย และที่สำคัญที่สุดคือเป็นสเต็มเซลล์ของลูกเราเอง ซึ่งน่าจะตอบสนองได้ดีกว่าของคนอื่น

กระบวนการไม่ซับซ้อนเลย ที่ประทับใจคือทาง PetGeneX จะคอยรายงานผลให้เราทราบเป็นระยะ ๆ ตั้งแต่เลือดถึงแล็บ กำลังเพาะเซลล์ ไปจนถึงเซลล์สมบูรณ์ ทำให้เรามั่นใจมาก เพราะทาง PetGeneX มีแล็บเป็นของตัวเอง สอบถามความคืบหน้าได้ตลอดและรวดเร็ว

ความรู้สึกหลังจากเก็บสเต็มเซลล์แล้วคือ อุ่นใจ เหมือนเรามีหลักประกันหรืออีกหนึ่งทางเลือกให้ลูกเราในวันที่เขาเจ็บป่วย ซึ่งการเตรียมพร้อมไว้ก่อนย่อมปลอดภัยกว่าการไปเริ่มเก็บตอนที่เขาป่วยแล้ว อีกอย่างคือเราอยากเก็บตอนที่เซลล์ของเขายังมีคุณภาพดีที่สุดอยู่ค่ะ"

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

จากซ้าย คุณหมอจุตวัชร์, แม่น้องโซล่า   Cr. Kanok Shokjaratkul

  • เคสที่ไช้สเต็มเซลล์รักษา

นภาลักษณ์ ไชยโอชะ แม่น้องโซล่า เล่าว่า น้องโซล่าเป็นลูกสุนัขจรที่คุณลุง รปภ. ที่บริษัทดูแลอยู่ แต่น้องป่วยหนักด้วยอาการไข้หัด จนอาการทรุด นอนซม อึฉี่เองไม่ได้

"ต้องคอยกระตุ้น ไม่กินข้าว ต้องป้อนตลอดเวลา ตอนนั้นคิดว่าน้องน่าจะไม่รอดแล้ว คลินิกใกล้ ๆ ก็มองว่าอาการไม่ดี แนะนำให้ลองไปหาแพทย์ทางเลือก

เรามีโอกาสได้เจอกับ PetGeneX หลังจากนำเลือดน้องไปเพาะและฉีดสเต็มเซลล์เข็มแรกเข้าไป แค่สัปดาห์แรก น้องก็ยกหัวเองได้ พอผ่านไป 2 สัปดาห์ เขาก็เริ่มพยายามตะเกียกตะกายหมุนตัว จากที่เคยนอนนิ่ง ๆ อย่างเดียว ตอนนี้โซล่ากลับมาเป็นปกติ เดินวิ่งได้ ฉี่เองได้แล้ว"

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

Cr. Kanok Shokjaratkul

สพ.ญ.จุตวัชร์ ด่านวนนันท์ CEO โรงพยาบาลสัตว์ภูเก็ต อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็ทแคร์ เซ็นเตอร์ (โรงพยาบาลสัตว์พิพซี) คุณแม่ของน้องแอนนา เล่าวว่า

น้องแอนนาอายุเกือบ 13 ปีแล้ว เขามีอาการของสุนัขแก่ (Aging) ที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งตาขุ่น มีโรคประจำตัวหลายอย่างทั้งภูมิแพ้ โรคหัวใจ และเคยผ่าตัดหมอนรองกระดูก ในฐานะหมอ เราทำทุกทางแล้วทั้งยา วิตามิน อาหารที่ดีที่สุด แต่ก็รู้สึกว่ามันใกล้จะถึงเวลาที่น่ากลัวแล้ว

พอได้ยินว่ามีการทำสเต็มเซลล์โดยแค่เจาะเลือด ไม่ต้องวางยาสลบ ก็ตัดสินใจทำทันที เพราะองค์ความรู้เรื่องสเต็มเซลล์มันคือ โอกาส ที่จะยื้อชีวิตเขาไปได้อีกขั้นหนึ่ง

ผลลัพธ์ที่ได้มันน่าทึ่งจนน้ำตาจะไหลเลยค่ะ หลังจากฉีดไปแค่วันแรก ตื่นขึ้นมาตาน้องใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และหลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ เขาไปคาบของเล่นมาโยนให้เราเล่นด้วย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เขาไม่ทำมา 2 ปีแล้วตั้งแต่ที่เขาอายุเยอะขึ้น

ในฐานะ แม่ เราจะรู้สึกได้ถึงความสดใส หรือแม้กระทั่งรู้สึกว่าเขาหน้าเด็กลง แต่ในฐานะ หมอ ต้องรอหลักฐานและข้อมูล (Data) ที่ชัดเจนกว่านี้เพื่อยืนยันประสิทธิภาพและแนะนำคนไข้อื่นๆ ต่อไปได้อย่างมั่นใจ"

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก

  • ราคาจับต้องได้ 

สิรีรัตน์ คอวนิช ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต เคทีซี กล่าวว่า ปัจจุบันการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมเพื่อความสุขอีกต่อไป แต่เป็นรูปแบบของการใช้ชีวิต ที่ผูกพันกับสัตว์เลี้ยงเหมือนคนในครอบครัว

"เราเห็นเทรนด์นี้มาสักพักแล้ว และให้ความสำคัญกับกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยงมาตลอด ข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC แสดงให้เห็นชัดเจนว่า แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ยอดใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เราจึงมั่นใจว่านวัตกรรมที่จะช่วยให้สมาชิกตัวน้อยของเรามีชีวิตที่ดีขึ้นและอายุยืนยาวขึ้นอย่าง PetGeneX จะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน

KTC จึงเข้ามาเป็นพันธมิตร โดยมอบส่วนลด 5% สำหรับทุกแพ็กเกจการเก็บสเต็มเซลล์ ให้กับลูกค้าผู้ถือบัตร KTC"

ปิดท้ายด้วย สโลแกนของงานในวันนี้ Future Health, Forever Love เพราะรักคือการดูแลตลอดไป

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก .

ครั้งแรกในไทย ใช้ ‘สเต็มเซลล์’ รักษา ‘สัตว์เลี้ยง’ ที่เรารัก