ชวนไป 'อาบป่า' กับ ‘ญัฮกุร’ ชุมชนมอญโบราณ สมัยทวารวดีในไทย

มารู้จักกับ ‘ญัฮกุร’ กลุ่มชาติพันธุ์ มอญโบราณในไทย ที่อยู่มานานตั้งแต่สมัยทวารวดี กับการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้อยู่รอดได้ในโลกดิจิทัล
KEY
POINTS
- 'ญัฮกุร' เป็นกลุ่มชาติพันธุ์มอญ สมัยทวารวดีใน จ.ชัยภูมิ จัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 'อาบป่า'
- กิจกรรมไฮไลท์คือการพาเข้าป่าทำพิธี 'สู่ขวัญป่า' ตามความเชื่อดั้งเดิมที่เชื่อมโยงมนุษย์กับธรรมชาติ
- การท่องเที่ยวนี้เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์สืบสานภาษาและวัฒนธรรมของชาวญัฮกุรที่กำลังเสี่ยงต่อการสูญหาย
"ชะบาย ฮนัม เพอ" (สบายดีหรือ) เป็นคำทักทายของชาว ญัฮกุร ชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ มอญ โบราณ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมาตั้งแต่สมัยทวารวดี จนมาถึงยุคปัจจุบัน ที่ทุกคนสื่อสารผ่านโลกโซเชียลมีเดีย และทุกสิ่งเป็นดิจิทัล
พวกเขาได้มาร่วมงานออกบูธ แนะนำตัว เพื่อขายทัวร์พานักท่องเที่ยวไปอาบป่า ไปทำพิธีสู่ขวัญป่า นำสินค้าบางส่วนมาขาย และแสดงดนตรีบนเวที ให้คนทั่วไปได้รู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้น ที่งาน Amazing Greeen Fast โดย ททท. ร่วมกับ ตลาดสุขใจ สวนสามพราน จ.นครปฐม วันที่ 10-11 กันยายน 2568
นฤต เลิศอุตสาหกูล ครูอาสา ที่มาช่วยพัฒนาเรื่องการท่องเที่ยวโดยชุมชน และจัดทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสืบสานภาษาและวัฒนธรรมของชาวญัฮกุรให้ยังคงอยู่ต่อไป เผยว่า เราได้รับการรับเชิญมาร่วมงานในนามของชุมชนญัฮกุร
"เรามานำเสนอบูธที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยมีกิจกรรมไฮไลท์คือ การท่องเที่ยวอาบป่า เป็นกิจกรรมที่เราจะพาผู้คนเข้าไปในป่า ทำพิธีสู่ขวัญให้กับป่า และให้ป่าสู่ขวัญกลับคืนมาสู่ตัวเรา"
Cr. Kanok Shokjaratkul
- ชาว 'ญัฮกุร' เป็นใคร มาจากไหน
ญัฮกุร อ่านออกเสียงว่า ยะกุ๊น เป็นคนมอญโบราณ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นต้นตระกูลของชาวมอญเลยก็ว่าได้
"ปัจจุบันเราอาศัยอยู่รวมกันเป็นหมู่บ้าน ชื่อว่า บ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ในอดีตเราเคยอยู่ในป่า แต่เมื่อมีการจัดตั้งอุทยานฯขึ้น เราก็ถูกผลักดันให้ออกมาอาศัยอยู่นอกเขตป่าแทน หลังหมู่บ้านของเราเป็นพื้นที่ธรรมชาติ มีน้ำตก มีป่า
Cr. Kanok Shokjaratkul
พวกเรามีภาษาและวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ภาษาของเราเก่ากว่าภาษามอญ ในสมัยโบราณ ภาษาญัฮกุรถูกจารึกไว้ด้วยอักษรปัลลวะของอินเดียในยุคที่ศาสนาฮินดูเข้ามาเผยแผ่
แต่ไม่มีตัวเขียนหรือตัวอักษร เพิ่งมีการประดิษฐ์ตัวอักษรเขียนขึ้นมาเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว โดยยืมตัวอักษรไทยมาใช้ ทำให้การสะกดชื่อบางคำอาจจะดูแปลกตาสำหรับคนไทย
อย่างคำว่า ญัฮกุร มาจากคำว่า ญัฮ แปลว่า คน กับคำว่า กุร แปลว่า ภูเขา เป็นกลุ่มคนที่อาศัญอยู่ในป่าบนภูเขา"
Cr. Kanok Shokjaratkul
ข้อมูลจากหนังสือ ญัฮกุร มอญโบราณ แห่งเทพสถิต บอกไว้ว่า แต่เดิม ชาวญัฮกุรเป็นพรานป่า อาศัยอยู่ในป่าแถบเทือกเขาพังเหย มีอาณาเขตคาบเกี่ยว 3 จังหวัด คือ เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา ปัจจุบันยังพบชาวญัฮกุรได้ใน 3 จังหวัดนี้ แต่มีจำนวนลดลง
สำหรับ จ.ชัยภูมิ อ.เทพสถิต เป็นจุดที่ชาวญัฮกุรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด เมื่อรวมทั้ง 3 จังหวัด พบว่ามีชาวญัฮกุรหลงเหลืออยู่เพียง 23 หมู่บ้าน หรือประมาณ 6,000 คนเท่านั้น
Cr. Kanok Shokjaratkul
ภาษาญัฮกุร เป็นภาษาเดียวกับภาษามอญโบราณที่ปรากฎอยู่ในจารึกสมัยทวารวดีเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว เชื่อได้ว่าชาวญัฮกุรน่าจะเป็นลูกหลานของคนสมัยทวารวดีที่ยังหลงเหลือ เป็นกลุ่มสุดท้ายในเอเชียอาคเนย์ และอาจเป็นกลุ่มสุดท้ายในโลก
ด้วยอาณาเขตถิ่นที่อยู่ อยู่ใจกลางประเทศไทย ไม่ติดกับประเทศอื่น ทำให้ไม่ถูกกลืนวัฒนธรรมและล่มสลายไปพร้อมกับอาณาจักรทวารวดีที่อยู่ในที่ราบ ทำให้สืบทอดชาติพันธุ์มาได้เป็นพัน ๆ ปี แต่ท้ายที่สุดก็ต้านทานความเปลี่ยนแปลงของโลกนี้ไปไม่ได้
Cr. Kanok Shokjaratkul
- กิจกรรมท่องเที่ยวอาบป่า สู่ขวัญป่า
นฤต อธิบายว่า ชาวญัฮกุรมีความเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมี ขวัญ อยู่ในตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงเราเข้ากับบรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (พร้อมกับพาไปดูรูปภาพขวัญ)
"ลวดลายขวัญนี้เป็นลายโบราณ คล้ายกับลายก้นหอยในลายหม้อบ้านเชียงหรือลายมือของเรา เวลาที่เราป่วยไข้หรือหลงทาง เราเชื่อว่าเป็นเพราะขวัญหาย หรือขวัญเสีย พิธีกรรมนี้จึงเป็นวิธีการเรียกขวัญให้กลับคืนมา
(ทางซ้ายเป็นรูป 'ขวัญ') กับ โปรแกรมท่องเที่ยวในป่า
เรามีโปรแกรมท่องเที่ยวป่าพื้นฐาน 2 วัน 1 คืน หรือถ้าต้องการเวลามากกว่านั้นก็สามารถออกแบบได้ตามความต้องการของแต่ละกลุ่ม
เรายังมีเส้นทางเดินป่าที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อจากเมืองโบราณศรีเทพเข้าสู่ประตูอีสาน ด้วย
กิจกรรมการท่องเที่ยวของเราจะเน้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรม มีทั้งเรื่องแฟชั่น ที่นำลวดลายโบราณมาประยุกต์, การแสดงดนตรีแบบ World Music และการกินอาหารที่ใช้พืชผักที่หาได้ใกล้บ้าน
ถั่วขอ Cr. Kanok Shokjaratkul
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เรานำมาจำหน่ายในวันนี้ อย่างแรกคือ ถั่วขอ เป็นถั่วที่มีความเชื่อว่า จะนำมาซึ่งความโชคดี พกติดตัวเข้าป่าจะช่วยป้องกันภัย หรือช่วยให้ได้ในสิ่งที่ต้องการกลับมา
เรามี น้ำหอมอโรม่า สกัดจากธรรมชาติในป่าของเรา มีกลิ่นของทุ่งหญ้าเพ็ก (ไผ่เตี้ย) และมีกลิ่นพิเศษที่จำลองบรรยากาศมาจากเทศกาล หอดอกผึ้ง ซึ่งเป็นเหมือนวันปีใหม่ของเรา จะมีกลิ่นของขี้ผึ้ง กำยาน และน้ำอบผสมอยู่
Cr. Kanok Shokjaratkul
ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็มีหลายอย่าง เช่น เชือกดั้งเดิม ที่ทำจากเปลือกไม้, กำยาน ที่เราประยุกต์โดยใช้ไม้หอมในป่า, และเครื่องประดับที่ทำจาก ลูกเดือยหิน
ส่วน เสื้อผ้า แฟชั่น เป็นการนำลายปักและลวดลายดั้งเดิมมาประยุกต์ให้ร่วมสมัยมากขึ้น โดยได้นักออกแบบอาสามาช่วยชุมชนพัฒนาสินค้าเพื่อให้คนเมืองสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
เครื่องดนตรี Cr. Kanok Shokjaratkul
แล้วก็มีเครื่องดนตรี กลอง เครื่องเป่า ที่ทำจากวัสดุในท้องถิ่น ซึ่งวันนี้และวันพรุ่งนี้เราจะมีการแสดงดนตรีบนเวทีด้วย"
หลังชมการแสดงดนตรีบนเวทีเสร็จสิ้นลง พนม จิตร์จำนงค์ นักวิจัยท้องถิ่นชาวญัฮกุร จ.ชัยภูมิ ก็เล่าให้ฟังว่า ภูมิใจมากที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยเชื้อสายญัฮกุร พวกเราเป็นกลุ่มคนดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในเขตอำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ มาตั้งแต่สมัยที่ป่ายังเป็นป่าดงดิบ
Cr. Kanok Shokjaratkul
"หมู่บ้านของเราอยู่ที่ตำบลบ้านไร่ อยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม หรือทุ่งดอกกระเจียวชุมชนของเราอยู่กันแบบพหุภาษา มีทั้งภาษาอีสาน ภาษาไทยโคราช เราจะใช้ภาษา ญัฮกุรเฉพาะในกลุ่มของเรา คนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยรู้จักว่าที่นี่มีญัฮกุรอยู่ และเข้าใจว่าเป็นคนไทยอีสานจนได้เข้ามาสัมผัสถึงจะรู้ว่ามีกลุ่มชนเผ่าของเราอยู่
ภาษา ญัฮกุร มีความเชื่อมโยงกับภาษามอญโบราณ ซึ่งเป็นภาษาที่ปรากฏในจารึกยุคแรก ๆ เมื่อกว่าพันปีมาแล้ว มีการค้นพบคำใน จารึกวัดโพธิ์ร้าง หนึ่งในจารึกภาษามอญโบราณที่เก่าแก่ที่สุดที่พบในประเทศไทย ซึ่งตรงกับภาษาพูดของคนญัฮกุรในปัจจุบัน
Cr. Kanok Shokjaratkul
ทำให้นักภาษาศาสตร์เชื่อมโยงได้ว่าพวกเราเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เก่าแก่ที่อยู่ในดินแดนแถบนี้มาแต่โบราณ ตัวอย่างคำภาษาญัฮกุร ง่าย ๆ เช่น ตี้ (Tî) แปลว่าดิน, ด้า (Dâ) แปลว่าน้ำ, กย่าน (K'yaam) แปลว่าลม, กมัด (K'mát) แปลว่าไฟ
วัฒนธรรมของชาวญัฮกุรจะผูกพันกับธรรมชาติและป่าเขาอย่างมาก เสื้อที่เราใส่จะมีลายปักเป็น ลายดอกยางนา สัญลักษณ์ที่มาจากวิถีชีวิตสมัยก่อนที่ยังไม่มีไฟฟ้า เราใช้ยางนาทำเป็นคบไฟ
Cr. Kanok Shokjaratkul
เวลาจะเข้าป่า เราจะทำพิธีขอและไหว้เพื่อแสดงความเคารพป่าทุกครั้ง เรามีความเชื่อว่าจะไม่เรียกชื่อจริงกันในป่า แต่จะใช้เสียงจากวัสดุธรรมชาติเป็นสัญญาณเรียกแทน
เพราะเราเชื่อเรื่อง ผีตีนเดียว ถ้ามันจำชื่อเราได้ มันจะมาเรียกชื่อเราแทนเพื่อนแล้วหลอกเราในป่าได้ ผีตีนเดียวมีพลังมาก สามารถสร้างเสียงที่เรากลัวขึ้นมาได้ เช่น ถ้าเรากลัวเสือ มันก็จะทำเสียงเสือขึ้นมา"
Cr. Kanok Shokjaratkul
- ยุคสมัยเปลี่ยนไป ทุกอย่างก็เปลี่ยนตาม
พนม เล่าว่า ในปัจจุบันเด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยพูดภาษาญัฮกุรกันแล้ว
"สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดตอนนี้คือภาษาและวัฒนธรรมของชาวญัฮกุรกำลังจะหายไป เด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะฟังออก แต่พูดสำเนียงไม่ชัดเหมือนคนรุ่นก่อน ซึ่งถ้าเราไม่มีภาษาและวัฒนธรรม ประเพณีของเราก็จะหายไปด้วย
ชุมชนจึงเริ่มพยายามอนุรักษ์และฟื้นฟู จากจุดเริ่มต้นที่มีนักภาษาศาสตร์เข้ามาศึกษาภาษาญัฮกุร กระตุ้นให้พวกเราหันกลับมาสืบค้นภาษาและวัฒนธรรมของตัวเอง ผมเองก็เป็นนักวิจัยท้องถิ่นที่ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลและปราชญ์ชุมชน
Cr. Kanok Shokjaratkul
เราได้ยืมตัวอักษรไทยมาใช้เขียนเป็นภาษาญัฮกุร เพื่อจดบันทึกนิทานพื้นบ้านและเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้ฟังจากผู้เฒ่าผู้แก่ นอกจากนี้ ผมยังใช้เวลาว่างชวนเด็ก ๆ ในชุมชนมาเรียนภาษาญัฮกุร
โดยเริ่มจากคำง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน เรากำลังพยายามฝึกให้เด็กรุ่นใหม่เป็นไกด์ชุมชนที่สามารถใช้ภาษาญัฮกุรสื่อสารและนำเที่ยวได้
ในวันนี้เราได้เอาอาหารพื้นถิ่นของชาวญัฮกุร เช่น ขนมพื้นบ้าน และ เมล็ดแซมอน ที่ทางโคราชเรียกว่า กระบก มาให้ทุกคนชิมด้วย"
สนใจท่องเที่ยวอาบป่า พิธีสู่ขวัญป่า ดูข้อมููลเพิ่มเติมได้ที่ SOUL CURE space สู่ขวัญ สเปส https://www.facebook.com/soul.cure.space/
อาหารของชาวญัฮกุร Cr. Kanok Shokjaratkul
Cr. Kanok Shokjaratkul
Cr. Kanok Shokjaratkul
Cr. Kanok Shokjaratkul







